nn จับจ้องรอดูความชัดเจนกรณีการประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่าสูงถึง 2.9 แสนล้านบาท หลังศาลปกครองกลาง ประกาศยกคำขอทุเลาของ “กลุ่มซีพี” แต่ขณะเดียวกันก็รับคำฟ้องของกลุ่มซีพี มีคำถามเกิดขึ้นแล้วเรื่องนี้จะมีหาทางออกอย่างไร?!!!
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มซีพียื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ศาลวินิจฉัย ยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาซอง และขอให้ยังคงพิจารณาซองเอกสารทั้งหมดของซีพี ซึ่งประเด็นสำคัญนี้ ศาลรับคำฟ้องของกลุ่มซีพีไปในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเมื่อศาลรับคำฟ้อง ก็จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาไม่น้อย และหากมีผู้อุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล ก็อาจใช้เวลามากขึ้นไปอีก ทำให้กลุ่มซีพีต้องยื่นคำขอทุเลาเพิ่มเติมควบคู่กัน เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเองกับการที่จะได้รับการพิจารณาซองอย่างทัดเทียมกับเอกชนผู้ยื่นซองประมูลรายอื่น หากเทียบราคาแล้วเกิดชนะขึ้นมา แต่หากผลของศาลออกมาว่า ซีพีแพ้ไม่ให้รับพิจารณาซอง นั่นหมายถึง ผู้เสนอราคาที่ได้เป็นรายที่สอง จะเป็นผู้ชนะทันที ซึ่งรัฐจะไม่เสียประโยชน์ เพราะได้เห็นราคาของซีพี เทียบกับคู่แข่งที่เหลือ และกระบวนการเดินหน้าได้โดยไม่ติดขัด
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ศาลได้ยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง นั่นหมายถึง กระบวนการพิจารณาซองอาจฝืนเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีซองของซีพี และไม่รอผลการพิจารณาของศาล อันนี้น่าเป็นห่วงและน่าเห็นใจคณะกรรมการพิจารณาซอง เพราะหากได้ผู้ชนะไปแล้ว แต่ในภายหลังหากศาลวินิจฉัยว่า ซีพียังมีสิทธิ์ ... ในสถานการณ์เช่นนี้ วลีเดิมๆ ว่า รัฐเสียค่าโง่ คงถูกนำมาใช้ เพราะอาจมีการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อใด
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีภาคเอกชน 3 รายใหญ่ที่สนใจยื่นซองประมูล รายแรกกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตรได้แก่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, บริษัท บี.กริม.จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ Fraport AG Frankfurt Airport Services Worldwide จากเยอรมนี
ส่วนรายที่ 2 เป็นกลุ่มแกรนด์ คอนโซเตียม (GRAND Consortium) ประกอบด้วย บริษัท แกรนด์ แอสเสท โอเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND อยู่ในกลุ่ม บริษัท พร็อพเพอร์ซี่ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF สัดส่วน 80% บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (บ.ย่อยของบริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV) ถือ 10% และบริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT ถือ 10% โดยให้ GMR Airport Limited จากอินเดีย มาบริหารสนามบิน และ China Harbour Engineering Company Limited
รายที่ 3 เป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS ซึ่งประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
เรื่องนี้ ....หากพิจารณาด้วยใจเป็นกลาง ยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักสำคัญ ควรพิจารณาเปิดซองประมูลของภาคเอกชนทั้ง 3 ราย เพื่อเปรียบเทียบจุดเด่น - จุดด้อย อย่างชัดเจน ย่อมดีกว่าการตัดสิทธิ์เพียงเพราะเหตุผลส่งซองช้าไป 9 นาที ในขณะที่คณะกรรมการพิจารณาซองยังไม่ได้รับซองเอกสารของผู้ยื่นข้อเสนอครบ ....แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือก จึงต้องเดินเข้าสู่การตัดสินของศาลสถิตยุติธรรม ที่ต่างฝ่ายต่างนำข้อเท็จจริงมามอบแก่ศาล และให้ศาลชี้ทางออกที่ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด
ที่สำคัญ กระบวนการพิจารณาซอง ต้องรอการพิจารณาจากศาลไปโดยปริยาย และคณะกรรมการพิจารณาซอง ก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องกรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพราะต้องรอกระบวนการและผลจากศาล โดยจะเปิดซองก่อนมิได้ ทำให้งานนี้ดูเหมือนว่า ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ รวมถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และการทำงานทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส ชัดเจน และตรวจสอบได้
โครงการสนามบินอู่ตะเภาเป็นยุทธศาสตร์ที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว เพราะถือเป็นโอกาสของคนไทยทั้งประเทศ สิ่งที่ดีที่สุดคือ ต้องเปิดทางให้ภาคเอกชนที่เข้าร่วมยื่นซองประมูลทุกรายได้มีโอกาสแสดงศักยภาพเต็มที่...ดังนั้นสำคัญมากต้องตระหนักเสมอว่า โครงการสนามบินอู่ตะเภา ต้องอาศัยเอกชนไทยรายใหญ่ที่มีศักยภาพสูง ได้รับการยอมรับในระดับโลกมาช่วยกันพัฒนา เสริมศักยภาพผลักดันให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินระดับโลก อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการพัฒนาพื้นที่ภายในสนามบินให้กลายเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก ยกระดับให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต...nn
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี