ในบางครั้งอุปสรรคของการเดินทางไกล อาจไม่ใช่สิ่งกีดขวาง หรือความยากลำบากใดๆ ที่รออยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ภูเขา ไม่ใช่ทะเลทราย ไม่ใช่แม่น้ำ หรือป่ารกทึบ
แต่มันคือ … เศษก้อนหินเล็กๆ ในรองเท้าของเราเอง
ยิ่งเดินไกล ก็ยิ่งกดทับ ยิ่งเดินนาน ก็ยิ่งเจ็บ ยิ่งระบมเท้าที่สำคัญเป็นความรำคาญเล็กๆ ที่กวนจิตกวนใจไปตลอดการเดินทาง ทั้งที่การจัดการกับปัญหาดังกล่าวนั้นไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลย เพียงแค่หาที่เหมาะๆ หยุดพัก ถอดรองเท้า แล้วเคาะหรือสลัดมันออกจากรองเท้าเท่านั้นเอง
การเดินทางสู่อิสรภาพทางการเงินของใครหลายคนในบางครั้งก็ติดกับปัญหาเล็กๆ ที่คอยกวนใจอย่างปัญหาหนี้สินได้เหมือนกัน ถ้าปล่อยไว้ ไม่ปลด ไม่เคลียร์ให้จบๆ ไป ก็ต้องมีเรื่องกวนใจกันไปตลอดเส้นทางการสู่ความมั่งคั่ง และบางทีอาจส่งผลทำให้ไปไม่ถึงจุดหมายเลยก็เป็นได้
สำหรับทุกท่านที่มีฝันอยากมีอิสรภาพทางการเงิน แต่ยังติดปัญหาหนี้สินคอยฉุดคอยรั้งไว้ไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า หรือเดินไปได้ช้ากว่าที่ฝันไว้ ผมแนะนำให้แวะพัก ถอดรองเท้า แล้วเอาก้อนหินออกจากรองเท้ากันตั้งแต่วินาทีนี้เลย
วิธีการปลดหนี้สำหรับหนูที่มีความฝันอย่างพวกเรามีขั้นตอนดังต่อไปนี้ครับ
1. หยุด ! ก่อหนี้ โดยเด็ดขาด
2. จัดการรายการหนี้สินโดยละเอียด เพื่อจัดทำแผนการชำระหนี้
3. หาเงินก้อนจากโบนัส คอมมิชชั่น ค่าแรงพิเศษปันบางส่วนมาชำระหนี้
4. พิจารณาขายหนี้สินที่คิดว่ายังไม่จำเป็น หรือจำเป็นแต่ผ่อนไม่ไหวออกไปจากชีวิตไปบ้าง เช่น รถยนต์ เป็นต้น
5. กรณีที่ยังพอมีเครดิตกู้ยืมเงินได้ อาจดำเนินการกู้เงินก้อนที่มีภาระดอกเบี้ยต่ำ มาโปะหรือปิดหนี้บางรายการออกไป เพื่อลดภาระเงินผ่อนต่อเดือน
6. ทำแผนการผ่อนชำระหนี้อย่างชาญฉลาด จัดลำดับให้ปลดหนี้ทีละรายการ โดยเลือกจากรายการที่มีโอกาสปิดชำระได้หมดก่อน
7. กรณีที่ผ่อนชำระขั้นต่ำแล้วก็ยังติดลบ อันนี้ถือเป็นคนไข้ระดับอาการโคม่าเลยทีเดียว และแนวทางแก้ไขแต่ละทางก็ล้วนแล้วแต่เจ็บปวดทั้งสิ้น อาทิ
7.1 เข้าพูดคุยประนอมหนี้กับธนาคาร (อาจส่งผลถึงเครดิตทางการเงิน)
7.2 ถอนเงินออมเพื่อการเกษียณ อาทิ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินออมในประกันชีวิต ฯลฯ มาชำระหนี้
7.3 นำบ้านปลอดภาระมาเข้าไฟแนนซ์เพื่อหาเงินมาชำระหนี้
7.4 ขายทรัพย์สินใหญ่ทิ้ง เพื่อลดภาระทางการเงิน
7.5 หยุดชำระหนี้ชั่วคราว เพื่อสะสมเงินชำระคืนในภายหลัง (ส่งผลต่อเครดิตทางการเงินอย่างร้ายแรง)
นอกจากนี้ เราอาจใช้วิธีการหารายได้เพิ่ม สมทบไปกับการลดภาระหนี้สินด้วยก็ได้ เพื่อทำให้หนี้หมดได้เร็วขึ้น
โดยอาจหารายได้พิเศษจากการทำงานที่มีต้นทุนเพิ่มต่ำอาทิ รับจ้างทำงานที่อาศัยความสามารถเดิมที่มีในปัจจุบัน หรืออาจลงทุนทำธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ โดยเน้นไปที่การลงทุนที่ใช้เงินทุนไม่มาก แต่ได้ผลตอบแทนกลับมาเร็ว ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายหนทาง
แม้การปลดหนี้อาจต้องใช้เวลานาน และทำให้หลายคนรู้สึกท้อ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่มีภาระ ดูเหมือนการเป็นหนี้ จะทำให้เราถึงเป้าหมายได้ช้ากว่าคนอื่น
แต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะหากคนที่เป็นหนี้อดทนแก้ไขปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นด้วยตนเองในท้ายที่สุด โมเมนตัมของความพยายาม รวมถึงความรู้ความสามารถที่สะสมตลอดเวลาระหว่างต่อสู้กับปัญหา จะช่วยให้คุณเก่งขึ้น และเติบโตทางการเงินได้เร็วขึ้นกว่าคนบางคนที่ไม่ประสบปัญหา แต่ใช้ชีวิตเอ้อระเหยไปวันๆ
ตอนผมมีหนี้ ผมก็ยังลงทุนบ้านเช่าได้ ยังลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวได้ และออมเงินบางส่วนเพื่อลงทุนหุ้นได้
จริงอยู่ที่ในตอนเป็นหนี้ รายได้จากอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ จะถูกนำไปใช้หนี้ แต่เมื่อใช้หนี้หมด ทรัพย์สินที่สร้างขึ้นระหว่างที่เป็นหนี้ก็ยังคงอยู่ และเมื่อนั้น เงินได้จากอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ ก็จะกลายมาเป็นรายได้เพิ่ม และทำให้เรามั่งคั่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
คนที่มีปัญหาแล้วก้มหน้าก้มตาต่อสู้กับปัญหา ยังไงก็ชนะได้ครับ แค่ก้อนหินเล็กๆ ไม่กี่ก้อนในรองเท้า อย่าลืมเขี่ยมันทิ้งออกไปจากเส้นทางสู่ความมั่งคั่งนะครับ
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี