บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เมย์แบงก์กิมเอ็ง(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB โดยมีมุมมองบวกต่อแผนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อสร้างมูลค่าระยะยาวจากการ spin-off บริษัทย่อยและการจ่ายเงินปันผลพิเศษเพื่อเพิ่ม ROE เป็น 15-20%ใน 3-5 ปีจาก 9% ในครึ่งปีแรก 64 โดยจะเน้นขยายบริษัทย่อยที่สร้าง ROE สูง (เช่น สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่ไม่มีหลักประกัน สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และบริการการเงินดิจิทัล) และตั้งเป้าหมายที่จะเสนอขายหุ้น IPO ภายใน 3-5 ปี คงคำแนะนำ ซื้อราคาเป้าหมาย 130 บาท ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้และความเสี่ยงในการดำเนินการ

สวอปหุ้นและจ่ายปันผลพิเศษ

SCB จะตั้ง SCBx เป็นบริษัทโฮลดิ้งและเพิกถอนหุ้นด้วย SCBx แบบหุ้นต่อหุ้น 1:1 โดยจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน โดยจะโอนเงินครั้งเดียวมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท จาก SCB ไปยัง SCBxสำหรับการโอนธุรกิจสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน (70% หรือ 4.9 หมื่นล้านบาท) และการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสำหรับ SCBx (30% หรือ 2.1 หมื่นล้านบาท) เราคาดว่า SCBx จะจ่ายเงินปันผลพิเศษ 5.1-6.2 บาท/หุ้นในไตรมาส 2/65 ภายใต้ SCBx จะแบ่งธุรกิจเป็นสองกลุ่ม (cash cow และgrowth) โดย Cash cow มีการเติบโตที่มั่นคง ความเสี่ยงต่ำ ROE ต่ำ เช่น ธุรกิจธนาคารและการบริหารสินทรัพย์คิดเป็น 85% ของรายได้ทั้งหมด อีกกลุ่มหนึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงและ ROE สูง คิดเป็น 15% ของกำไรส่วนใหญ่มาจากธุรกิจสินเชื่อและหลักทรัพย์ที่ไม่มีหลักประกัน ผู้บริหารตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้ 150% และธุรกิจที่เติบโตจะมีสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของรายได้ทั้งหมดภายในปี 2569

ตั้งเป้า IPO บริษัทย่อยเติบโตสูงใน 3-5 ปีข้างหน้า

ภายใต้แผน 5 ปี ผู้บริหารตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มลูกค้าเป็น200 ล้านคน ด้วยการร่วมพันธมิตรเชิงรุกและการควบรวมกิจการ (จากลูกค้า 40-50 ล้านคนในขณะนี้) และยังตั้งเป้าหมายมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านบาท (รวมถึงเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทย่อยและสตาร์ทอัพยูนิคอร์น) SCBx ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูลเทคโนโลยี โดยมีแผนจะเสนอขายหุ้น IPO บริษัท CardX (บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล), Auto X (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์), SCB Securities (พร้อมบริการสินทรัพย์ดิจิทัล) MONIX และ SCB ABACUS (สินเชื่อดิจิทัล) ใน 3-5 ปีข้างหน้า

ร่วมทุนกับ ADVANC; ตั้งกองทุน VC กับกลุ่ม CP

SCB ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ Advanced Info Service (ADVANC, BUY TP218) เพื่อจัดตั้ง AISCB ด้วยทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท เพื่อให้บริการสินเชื่อดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ธนาคารยังจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน 600-800ล้านเหรียญสหรัฐ กับกลุ่มซีพี เพื่อลงทุนในธุรกิจ Fin tech เช่นบล็อกเชน และ Decentralized Finance (DeFi) คือระบบการเงินรูปแบบใหม่ เรามองว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบต่อ SCB ในประเด็นสินเชื่อดิจิทัลหรือกองทุน VC

ที่มา : บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง(ประเทศไทย)