วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ หรือTACC แม้ว่าผลการดำเนินงานจะถูกกดดันจากปัจจัยฤดูกาลและ COVID-19 ใน 3Q64 แต่กำไรสุทธิยังเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ที่ 56 ล้านบาท (+20.4% YoY, +4.4% QoQ) ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 9M64 อยู่ที่ 156 ล้านบาท (+14.0% YoY)
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งมาจาก i) โครงสร้างยอดขายดีจากสัดส่วนสินค้าที่มี margin สูง (ยอดขายของ All Cafe คิดเป็น
สัดส่วนประมาณ 40% ของยอดขายรวม) โดยมีขนาดแก้วใหญ่ขึ้นที่ 22 oz. (จากเดิม 16 oz.) ii) ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนจากการจัดหาวัตถุดิบ และการบริหารจัดการด้าน logistic
แนวโน้มดีขึ้นในระยะต่อไป
ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารแสดงความมั่นใจว่า ผลการดำเนินงาน 4Q64 จะดีขึ้น QoQ เราคาดว่า กำไร TACC จะเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของทั้งธุรกิจ B2B และ B2C ในระยะต่อไป โดยธุรกิจ B2B จะได้แรงหนุนจาก i) การขยายสาขาร้าน 7-Eleven อย่างต่อเนื่องปีละ 700 ร้าน ii) ปริมาณยอดขายของ All Cafe เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และ iii) การขยายธุรกิจผ่านพันธมิตรใหม่ (Lotus’s) ซึ่งมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งในมุมมองของผู้บริโภค (ผ่านการขยายกิจการใน 1,400 สาขาร้าน Lotus’s go fresh เมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน) เราคาดว่ายอดขายผ่าน Lotus’s go fresh จะคิดเป็นสัดส่วน 2.6% และ 13.6% ของยอดขายรวม ในปี FY64-65F สำหรับธุรกิจ B2C เราเชื่อว่าโมเมนตัมจะเป็นบวกหลังสถานการณ์โรคระบาด ปัจจุบัน ธุรกิจนี้คิดเป็นสัดส่วน 3%-4% เนื่องจากมีการจัดevents น้อยลงช่วงที่เกิดโรคระบาด เราจึงมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะเป็นโอกาสดีที่ธุรกิจ B2C ของ TACC จะฟื้นตัวได้แข็งแกร่งจนกลับมาอยู่ระดับปกติได้ในอีกสองสามปีข้างหน้า
ปรับประมาณการกำไรปี 2564-65F
เมื่ออิงตามผลการดำเนินงานงวด 9M64 เราปรับสมมุติฐานประมาณการกำไรปีนี้ ดังนี้ i) ปรับลดยอดขายลง 8.7% เหลือ 1.32 พันล้าน บาท (จากเดิมที่ 1.45 พันล้านบาท) ii) ปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นอีก 2.8 ppts เป็น 37.8% (จากเดิม 35.0%) และ iii) ปรับเพิ่มสัดส่วนSG&A/ยอดขายเป็น 18.5% (จากเดิม 17.0%) ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลดลง 2.3% เหลือ 206 ล้านบาท (+9.3% YoY) จาก เดิมที่ 211 ล้านบาท เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ขึ้นจากเดิม 8.8% เป็น 260 ล้านบาท (+26.4% YoY) เนื่องจากปรับเพิ่ม i) ยอดขาย ขึ้นจากเดิมอีก 0.7% เป็น 1.61 พันล้านบาท ii) อัตรากำไรขั้นต้นอีก2.0 ppts เป็น 38.0% และ iii) SG&A/ยอดขายขึ้นอีก 0.5 ppt เป็น 18.0%
เรามองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในอีกสองสามปีข้างหน้า ซึ่งเป็นไปตามศักยภาพในการพัฒนาของบริษัท เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ใหม่ที่ 10.50 บาท จากเดิมที่ 10.20 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจาก COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)

สลด! ลิงกังกัด ชายวัย 63 เสียชีวิตคาบ้าน พบมือยังถือเหล็กยาว มีบาดแผลบริเวณขาซ้าย
ดราม่าสนั่นเครื่องเล่น Skyflyers เสียงกรี๊ดดังโหยหวนยันดึก ชาวชุมชนรอบเอเชียทีคสุดจะทน
เปิดวินาทีไทยแสดงหลักฐาน ทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด กลางที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวา
วันนี้ในอดีต! รำลึก 27 ปี ในหลวง ร.9 เสด็จฯ เปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 มิตรภาพไร้พรหมแดน
เตรียมออกหมายเรียก เวย์ ไทเทเนียม รับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ สัปดาห์หน้า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี