หลายต่อหลายครั้งที่เมื่อเกิดอาชญากรรมขึ้น จะเป็นกรณีที่บุคคลผู้ก่ออาชญากรรมดังกล่าวได้เคยก่ออาชญากรรมในลักษณะเดียวกันมาแล้ว หรืออาจก่ออาชญากรรมใหม่
ข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565 อัตราการกระทำผิดซ้ำ (Recidivism Rates/Reoffending Rates) ของผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวในปีงบประมาณ
ปี พ.ศ. 2561 จำนวนผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัว110,320 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 1 ปี จำนวน 15,250 คน คิดเป็นร้อยละ 15.58ผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 2 ปี จำนวน 26,284 คน คิดเป็นร้อยละ 26.86 ผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 3 ปี จำนวน 33,889 คน คิดเป็นร้อยละ 34.63
ปี พ.ศ. 2562 จำนวนผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัว160,439 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 1 ปี จำนวน 21,187 คน คิดเป็นร้อยละ 14.58ผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 2 ปี จำนวน 35,842 คน คิดเป็นร้อยละ 24.67 ผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 3 ปี จำนวน 43,284 คน คิดเป็นร้อยละ 29.80
ปี พ.ศ. 2563 จำนวนผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัว156,629 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 1 ปี จำนวน 18,934 คน คิดเป็นร้อยละ 13.04ผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 2 ปี จำนวน 29,019 คน คิดเป็นร้อยละ 19.99 ผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 3 ปี จำนวน 29,350 คน คิดเป็นร้อยละ 20.22
ปี พ.ศ. 2564 จำนวนผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัว195,759 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 1 ปี จำนวน 16,225 คน คิดเป็นร้อยละ 8.80ผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 2 ปี จำนวน 17,107 คน คิดเป็นร้อยละ 9.26
ปี พ.ศ. 2565 จำนวนผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัว40,087 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องขังกลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายใน 1 ปี จำนวน 620 คน คิดเป็นร้อยละ 1.66
สำหรับ 5 อันดับประเภทคดีที่มีอัตราการกระทำผิดซ้ำของผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2565
อันดับที่ 1 ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ร้อยละ 66.31อันดับที่ 2 ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ร้อยละ 12.93 อันดับที่ 3 อื่นๆ (เช่น พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ร.บ.ป่าไม้ฯพ.ร.บ.การพนันฯ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ) อันดับที่ 4 ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย ร้อยละ 6.43 และอันดับที่ 5 ความผิดเกี่ยวกับเพศ ร้อยละ 2.23
การกระทำผิดซ้ำ (Recidivism/Reoffending) ในระบบฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์หมายถึง ผู้ต้องขังที่ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำไปแล้วทั้งกรณีพ้นโทษแบบมีเงื่อนไขและไม่มีเงื่อนไขในช่วงปีงบประมาณหนึ่งๆ แล้วหวนกลับมากระทำผิดซ้ำโดยถูกส่งตัวเข้าสู่เรือนจำอีกครั้ง ทั้งในกรณีผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขัง ภายในระยะเวลาช่วงหนึ่งที่กำหนดไว้หลังการปล่อยตัวดังกล่าว
ผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์บางประเภทได้ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการฆาตกรรม การข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำความผิดทางเพศกับเด็ก การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือได้รับอันตรายสาหัส เมื่อได้รับการปล่อยตัวสู่สังคมโดยอิสระ แม้เจ้าพนักงานตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง จะติดตาม แต่เมื่อไม่มีสภาพบังคับเป็นกฎหมาย ทำให้ขาดประสิทธิผลในการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำโอกาสที่ผู้กระทำความผิดจะไปกระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงซ้ำในรูปแบบเดียวกันหรือรูปแบบใกล้เคียงกันย่อมเป็นไปได้มาก เพราะประเทศไทยยังขาดกฎหมายเพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว
กระทรวงยุติธรรมได้ตระหนักถึงความจำเป็น ที่ต้องมีระบบการจัดการกับผู้พ้นโทษที่เคยก่อคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เพื่อปรับเปลี่ยนอุปนิสัยของผู้กระทำความผิดเฉพาะราย เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำถือเป็นเรื่องที่ดีที่ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างพ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ...
ร่างพ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ..... มี 49 มาตรา แบ่งออกเป็น 7 หมวด หมวด 1คณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ หมวด 2มาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดเฉพาะราย หมวด 3การเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ หมวด 4 การคุมขังภายหลังพ้นโทษ หมวด 5 การคุมขังฉุกเฉิน หมวด 6 การปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจําเลยที่มีประวัติเป็นผู้กระทําความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง หมวด 7การอุทธรณ์
“ความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง” เช่น ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี ความผิดฐานเรียกค่าไถ่ เป็นต้น และความผิดอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
ผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง หมายถึง ผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
กฎหมายฉบับนี้ยังได้กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ กำหนดมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดเฉพาะราย การเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ การคุมขังภายหลังพ้นโทษ และปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่มีประวัติเป็นผู้กระทำความผิดเหตุการณ์ที่ใช้ความรุนแรง
ทั้งยังมีมาตรการทางการแพทย์เพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ซึ่งเป็นการปฏิบัติการทางการแพทย์โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ใช้บำบัดรักษาผู้กระทำความผิดเพื่อป้องกัน การกระทำความผิดซ้ำ รวมถึงการให้ยาหรือสารเคมีด้วย
หากกฎหมายฉบับนี้ มีผลใช้บังคับ จะทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการดำรงชีวิตและทรัพย์สินที่จะได้รับความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวเลขอาชญากรรมจะลดลง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี