การหลอกให้เปิดบัญชีหรือที่เรียกกันว่า “บัญชีม้า” มักจะอาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเหยื่อ ความไว้เนื้อเชื่อใจ บวกกับการให้ผลตอบแทนเพื่อจูงใจเหยื่อให้หลงเชื่อ เช่น ได้รับเงินภาษีคืน ได้รับรางวัล การเปิดบัญชีม้า บางครั้งให้ผลตอบแทนแก่ผู้รับเปิดบัญชีร้อยละ 5-10 ของยอดโอน เพื่อให้ผู้รับจ้างเปิดบัญชีชักชวนบุคคลอื่นมาร่วมเปิดบัญชีด้วย
การยินยอมเปิดบัญชีธนาคารในชื่อของตนให้ผู้อื่นหรือการหารายได้จากการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อใช้ทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ว่าจ้าง ผู้เปิดบัญชีจะมอบสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม หรือซิมโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียน ธนาคารออนไลน์ (E-Banking) มอบให้กับผู้ว่าจ้าง จากนั้นผู้ว่าจ้างจะนำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปใช้ในทางทุจริต ไม่ว่าจะเป็นการรับโอนเงินจากการหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่นทุกประเภท กรณีการขายสินค้าออนไลน์ การหลอกลวงให้ไปทำงานต่างประเทศ หรือนำไปใช้รับโอนเงินการพนัน หรือการขายยาเสพติด เพราะผู้ว่าจ้างไม่ต้องการให้ตำรวจสืบสวนถึงตัวผู้บงการหรืออยู่เบื้องหลังความเสียหายที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่หลักหมื่นถึงร้อยล้านบาท แต่ค่าตอบแทนที่ผู้รับจ้างเปิดบัญชีได้รับนั้น เทียบไม่ได้กับความเสียหายที่ผู้รับจ้างเปิดบัญชีได้รับ เพราะอาจถูกดำเนินคดีฟอกเงิน ยึดทรัพย์ รวมทั้งคดีภาษี
ร้อยทั้งร้อยที่ผู้รับจ้างเปิดบัญชี จะให้การกับตำรวจว่า ไม่รู้เรื่องว่าผู้ว่าจ้างจะเอาบัญชีไปทำอะไร มารู้ตัวตอนที่โดนหมายเรียก-หมายจับ ที่มีข้อหาแตกต่างกันไป
เจ้าของบัญชีธนาคารหรือผู้รับจ้างเปิดบัญชี อาจถูกดำเนินคดีอาญาได้ในกรณี (1) ในฐานะตัวการร่วมในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 (2) ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วน ของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และหากรู้หรือควรรู้ได้ว่าผู้ที่นำบัญชีไปจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด เจ้าของบัญชีจะมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 กรณีขายสินค้าออนไลน์ จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (พ.ศ.2560 ฉบับแก้ไข)ตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) เป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะไม่มีสินค้า ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งอาจถูกสรรพากรเรียกพบ เนื่องจากได้มีประกาศกฎกระทรวง ฉบับที่ 355 (พ.ศ. 2562) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ ที่ให้สถาบันการเงินรายงานธุรกรรมการเงินลูกค้า ต่อสรรพากร หากรับโอนตั้งแต่ 3 พันครั้งขึ้นไป หรือฝาก/รับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 400 ครั้ง รวมเงิน 2 ล้านบาทขึ้นไป/ปี/ธนาคาร
วิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ(1) ไม่ควรเปิดบัญชีธนาคารให้กับบุคคลที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก (2) อย่าให้ใครยืมใช้บัญชี (3) ไม่ควรให้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหน้า-หลัง (4) ห้ามไม่ให้ใครรู้ชื่อ และรหัสของบัญชีธนาคารออนไลน์ ทั้งควรเปลี่ยนรหัสบ่อยๆ ไม่ควรใช้รหัสที่คาดเดาได้ง่าย(5) ควรตรวจสอบบัญชีบ่อยๆ หากพบความผิดปกติควรแจ้งธนาคารระงับการใช้บัญชี พร้อมแจ้งไปยัง 191, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 1710
นับว่าเป็นเรื่องดีที่ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ครั้งที่ 1/2565 ได้มี
การพิจารณาวาระสำคัญ 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ และ 2.การแจ้งเตือนประชาชนก่อนโอนเงินและมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้า
สำหรับแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์สำนักงานคณะป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกำหนดให้พฤติการณ์การเปิดบัญชีม้าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ โดยระบุไว้ในร่างมาตรา 50 เพิ่มเติมมาตรา 61/3 ว่า ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้โดยรู้อยู่แล้ว หรือมีเหตุอันควรรู้ว่า การกระทำดังกล่าวจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ได้แก่
1)ใช้ชื่อ บัญชี ข้อมูล เอกสาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซิมการ์ดโทรศัพท์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือหลักฐานของบุคคลอื่น เพื่อปกปิดตัวตนในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หรือทำธุรกรรมกับผู้มีหน้าที่รายงานหรือสำนักงานที่ดิน 2) ยอมให้บุคคลอื่นใช้ชื่อ บัญชี ข้อมูล เอกสาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซิมการ์ดโทรศัพท์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือหลักฐานของตนเพื่อให้บุคคลอื่นปกปิดตัวตนในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือทำธุรกรรมกับผู้มีหน้าที่รายงานหรือสำนักงานที่ดิน 3) เป็นธุระจัดหา รวบรวม ซื้อ ขาย จำหน่ายบัญชี ข้อมูล เอกสาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซิมการ์ดโทรศัพท์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือหลักฐานของบุคคลอื่นเพื่อให้บุคคลใดๆ นำไปใช้เพื่อปกปิดตัวตนในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือทำธุรกรรมกับผู้มีหน้าที่รายงานหรือสำนักงานที่ดิน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับปัญหาด้านนี้ ได้หาแนวทางอื่นๆ ร่วมด้วยได้แก่ การตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดโดยเฉพาะ การจัดตั้งสายตรวจไซเบอร์ การประสานงานระหว่างประเทศในการขอข้อมูล IP Address และข้อมูลผู้กระทำความผิด รวมทั้งการพิจารณาจัดทำบันทึก MOU หรือตั้งคณะทำงานร่วมประเทศเพื่อนบ้าน
หากกฎหมายมีผลใช้บังคับ ปัญหาการเปิดบัญชีม้า อาชญากรรมทางไซเบอร์คงลดน้อยลง เชื่อว่าคงเป็นเช่นนั้น หากผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมกันทำหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี