เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาว่า คำสั่งกระทรวงการคลังที่เรียกค่าเสียหายจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. มีความรับผิดต้องชดใช้ตามคำสั่งของกระทรวงการคลัง (เป็นคำสั่งทางปกครอง) เป็นเงิน 10,028 ล้านบาท จากจำนวนเงิน 35,717,273,028.23 บาท ตามคำสั่งเดิมของกระทรวงการคลัง ที่มีคำสั่งให้ชดใช้ความเสียหายการระบายข้าว ด้วยวิธีขายแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งมีที่มาว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทราบปัญหาการทุจริตแล้ว แต่ไม่ได้มีการติดตามกำกับดูแล จึงมีพฤติการณ์ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่
ความเป็นมาแต่เดิม โครงการจำนำข้าวเป็นนโยบายหาเสียงหลักของพรรคเพื่อไทย โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2554
แม้มีชื่อเป็นการรับจำนำข้าว แต่ความจริงแล้ว เป็นการซื้อข้าวจากชาวนาในลักษณะแทรกแซงราคาตลาดในขณะนั้น โดยรับซื้อข้าวจากชาวนาสูงกว่าราคาตลาดประมาณ 50% แบบไม่จำกัดโควตาและจำนวน ลักษณะในการช่วยเหลือชาวนา
เมื่อเริ่มดำเนินการ ความทุจริตได้เกิดขึ้นมากมาย เช่น ข้าวที่นำมาขายตามโครงการรับจำนำ บางส่วนเป็นข้าวจากต่างประเทศ ที่ซื้อมาในราคาถูก แล้วมาขาย หรือจำนำตามโครงการนี้ราคาแพง ข้าวบางส่วนในประเทศ ได้ถูกนำมาหมุนเวียนมาขายหรือจำนำกับทางราชการหลายรอบ
รัฐบาลรับซื้อข้าวในราคาแพง แต่กลับขายได้ในราคาที่ถูกมากเกินไปข้าวส่วนใหญ่ขายไม่ได้ ค้างอยู่ในโกดัง จนเกิดความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวเป็นมูลค่าสูงถึง 500,000 ล้านบาท ซึ่งต่อมาในสมัย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อมา ได้ประเมินความเสียหายอีกครั้ง เป็น 600,000 ล้านบาทเศษ
มีนักการเมืองและข้าราชการประจำ ถูกดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับการกระทำความผิดในโครงการจำนำข้าว และได้รับโทษหลายคน
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี และประธาน กขช. ไม่ได้ถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาทุจริตเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว แต่ถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการที่รัฐบาลไทยขายข้าวให้รัฐบาลจีน แบบจีทูจี (G to G หรือ Government to Government)
การขายข้าวแบบจีทูจีดังกล่าว รัฐบาลไทยไม่ได้ทำสัญญากับรัฐบาลจีนโดยตรง แต่กลับทำสัญญากับบริษัทจีนที่อ้างตนว่า เป็นตัวแทนของรัฐบาลจีน ทั้งที่ไม่ได้เป็นตัวแทนจริง และขายข้าวในราคาต่ำกว่าราคาตลาดมาก จนเกิดความเสียหาย
กรณีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ได้ทำหนังสือแจ้งเตือน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ใช้ความระวัง แต่กลับไม่มีคำสั่งกำกับดูแลไม่ให้ความสนใจ ถือเป็นความประมาท จึงมีความผิดอาญาตามกฎหมายฐานละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง มีโทษจำคุก 5 ปี แต่ไม่มาฟังคำพิพากษา หลบหนีไปต่างประเทศ
ในส่วนความรับผิดทางแพ่ง กระทรวงการคลังในยุคต่อมา ได้มีคำสั่งทางการปกครองให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ความผิดในกรณีความเสียหายจากการขายข้าวแบบจีทูจี เป็นเงินจำนวน 35,717,273,028.23 บาท
เป็นเหตุให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสามี ฟ้องศาลปกครองกลาง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังดังกล่าว ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งหมายความว่า ตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ต้องรับผิดและเป็นฝ่ายชนะคดี
กระทรวงการคลังได้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดและมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับผิดชอบเกินกว่า 10,028 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ความรับผิดตามคำสั่งของกระทรวงการคลังเพียง 10,028 ล้านบาท
ที่มาของความรับผิดราคาข้าวที่ขายแบบจีทูจี ต่ำกว่าราคาตลาด เกิดความเสียหายจาก 4 สัญญา เป็นเงินจำนวน 20,057 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องรับผิดชอบชดใช้ครึ่งหนึ่งของความเสียหาย ตามคำสั่งกระทรวงการคลัง จึงเป็นเงินจำนวน 10,028 ล้านบาท
ต่อมาได้มีผู้แสดงความคิดเห็นว่า ข้าวในโครงการจำนำข้าว หากขายได้เป็นเงินสูงกว่าความรับผิดของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 10,028 ล้านบาท นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ต้องรับผิด
ความเห็นดังกล่าว เป็นความเห็นที่มองข้ามความเสียหายทั้งหมดที่มีอยู่ถึงประมาณ 600,000 ล้านบาท ซึ่งหากขายข้าวที่จำนำได้จริง อย่างไรก็ไม่พอชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ดี
ปัญหาที่น่าจับตามองอยู่ตรงที่รัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้กำกับนโยบายของกระทรวงการคลัง มาจากพรรคการเมืองที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างมากจะมีความกล้าหาญบังคับให้ต้องรับผิดตามคำสั่งทางปกครอง หรือจะเพิกเฉยโดยไม่ดำเนินการอย่างใดต่อ
ดร.รุจิระ บุนนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี