nn โทรคมนาคมเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ประชาชนและประเทศชาติควรเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยขณะนี้ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมกำลังปรับตัว เข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรองรับเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ ระบบ AI เทเลเมดิซีนและสมาร์ทซิตี้ เป็นต้น ดังนั้นจำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม และใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้น การควบรวม “ทรู และ ดีแทค” ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าเพื่อปรับโครงสร้างทางธุรกิจและพัฒนาต่อยอดธุรกิจโทรคมนาคมภายใต้บริษัทใหม่ไปสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี (technology company) ที่ทั้งคู่จะถือหุ้น และบริหารร่วมกันอย่างเท่าเทียมในรูปแบบที่เรียกว่า “equal partner” ถือได้ว่า อีกหนึ่งการปรับตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ให้เกิดเป็นผู้เล่น3 ราย ที่มีความใกล้เคียงกันมากขึ้น
รายหนึ่งมาจากรัฐ ที่ก่อนหน้านี้รวมตัวกัน คือ NT ที่มาจาก CAT และ TOT และรายที่สองคือเอไอเอส ที่มีขนาดใหญ่ในเชิงมูลค่าบริษัทใหญ่กว่าคู่แข่งกว่า 6 เท่า และบริษัทที่สาม เป็นการควบรวมของทรูและดีแทค ซึ่งหลังการควบรวมจะเกิดเป็นบริษัท 3 ราย ที่มีขนาดใกล้เคียงกันมากขึ้น และเกิดการแข่งขันอย่างเต็มที่ และพร้อมลงสนามแข่งกับผู้เล่นดิจิทัลที่เข้ามาดิสรัปต์ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย และมีความพร้อมในการสร้างนวัตกรรมมากขึ้น
ล่าสุด (22 ก.ค. 2565) กลุ่มเทเลนอร์และ ซี.พี. จัดงานแถลงข่าวร่วมกันอีกครั้งโดยระบุว่า เพื่ออับเดตความคืบหน้า นำโดยนายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทเลนอร์กรุ๊ป และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกาศย้ำชัดเจน การควบรวมครั้งนี้ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล และภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปของระบบการแข่งขัน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำว่า โทรคมนาคมไม่ได้แข่งกับโทรคมนาคมด้วยกัน แต่แข่งกับผู้ประกอบการระดับโลกอย่าง โอทีที (over the top) ถ้าดูรายได้อุตสาหกรรมมือถือใน 2-3 ปีที่ผ่านมาจะพบว่าลดลงทุกราย แต่การลงทุนสูงขึ้น เพราะต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีจาก 4G 5G และอื่นๆ รายได้จากบริการเสียงตกรุนแรงต่อเนื่องทุกปี ทำให้สนามการแข่งเปลี่ยนไปมาก ขณะที่ศักยภาพการแข่งขันของทั้งสององค์กรก็ลดลงไปเรื่อยๆ ทั้งคู่ก่อหนี้สูงขึ้นจากการลงทุนและเพื่อส่งเงินให้ภาครัฐ ทำให้ไม่สามารถลงทุนได้เต็มที่ การร่วมมือกันจึงทำให้ทั้งคู่แข็งแรงขึ้น และบริษัทยินดีที่จะร่วมมือกับ กสทช.ในการกำหนดมาตรการเพื่อดูแลผลประโยชน์ของผู้บริโภค เป็นการควบรวมที่ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันได้ดีขึ้น และอาจทำให้ดัชนีการกระจุกตัวตามหลักเศรษฐศาสตร์ (HHI) มีโอกาสลดต่ำลงได้เพราะความร่วมมือทำให้มีการแชร์ใช้โครงข่ายร่วมกัน ทำให้คุณภาพการบริการดีขึ้น
นอกจากประโยชน์ที่จะเกิดโดยธรรมชาติของลูกค้าทรูและดีแทคแล้ว ยังมีการเชื่อมโยงคลื่นความถี่ และทรัพยากรโครงข่ายต่างๆ การพัฒนาคุณภาพบริการจะดีขึ้น เพราะข้อจำกัดด้านการลงทุนของทั้งคู่จะหายไป โดยบริษัทยินดีทำงานร่วมกับกสทช. เพื่อตอบสนองเงื่อนไขต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชนผู้ให้บริการ
ด้านนายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า การร่วมมือของ ซี.พี.และเทเลนอร์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่จะไม่เข้าไปควบคุมในบริษัทที่ตั้งใหม่ แต่จะเป็นลักษณะของความร่วมมือที่พัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกันในการส่งมอบนวัตกรรม และร่วมสร้างระบบนิเวศให้สตาร์ทอัพในประเทศไทย โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.ตั้งกองทุน สนับสนุนสตาร์ทอัพ 2.ตั้งศูนย์บ่มเพาะเทคโนโลยี 3.การเชื่อมโยงตลาดในประเทศกับสู่สากลโดยความแข็งแกร่งของทั้งเทเลนอร์ และ ซี.พี.กรุ๊ปที่มีความโดดเด่นในตลาดโลก เมื่อ landscape ของธุรกิจเปลี่ยนไปแล้วดังนั้นการแข่งขันย่อมเปลี่ยนไป
ในฟากฝั่ง กสทช. ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กล่าวว่า ภายในวันที่ 3 ส.ค.นี้ สำนักงาน กสทช.จะรวบรวมผลการศึกษาทั้งหมดเพื่อนำเสนอให้บอร์ดพิจารณา ซึ่งมีทั้งผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการทั้ง 4 ชุด, การจัดทำโฟกัสกรุ๊ป และการศึกษาของหน่วยงานภายนอก เช่น จุฬาฯ เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าบอร์ดแต่ละท่านจะใช้เวลาแค่ไหน ยืนยันได้ว่าการพิจารณาเรื่องนี้จะไม่ยืดเยื้อ และไม่มีธงอย่างแน่นอน
รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช. ด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยว่า ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นธุรกิจพิเศษที่ในทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่า “มาร์เก็ตเฟเลีย” คือไม่สามารถให้ทุกคนเข้ามาทำ การเริ่มต้นจึงต้องมีการจัดการประมูล
ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขัน โดยกสทช.ยังเข้ามาดูแลเรื่องการกำกับ “ราคา” ให้เหมาะสม ทั้งกับผู้ประกอบการ และผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปต้องจับจ้องรอดู และวัดใจการพิจารณาของ กสทช.จะวางกรอบการพิจารณาออกมาในรูปแบบใด ต้องเร่งออกกฎระเบียบมาโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกรายมีการแข่งขันที่เป็นธรรม ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน และเสียภาษีเดียวกัน เพราะเมื่อวันนี้ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไม่สามารถย่ำอยู่กับที่ได้ การปรับตัวต้องเกิดขึ้นเพื่อให้ทันโลกทันยุคสมัยที่ก้าวล้ำเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น การควบรวมทรูกับดีแทค จะทำให้มีผู้ประกอบการมีความสามารถใกล้เคียงกัน ส่งผลให้มีการแข่งขันเท่าเทียมกัน และคาดว่าจะมีการแข่งขันมากขึ้น การแข่งขันจะเกิดนวัตกรรมมากขึ้น เพื่อเป้าหมายสำคัญ คือ ประเทศชาติและประชาชนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี