บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF จากการทำสัญญาซื้อหุ้นกับ J-POWER (หนึ่งในกิจการ IPPs ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นพันธมิตรของ GULF) เพื่อเข้าไปลงทุน 49% ในโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในสหรัฐ (Jackson Generation) ด้วยงบลงทุน 409.6 ล้านดอลลาร์ฯ (1.49 หมื่นล้านบาท) บริษัทแห่งนี้ขายไฟฟ้าให้กับ Pennsylvania-New Jersey-Maryland Interconnection (PJM) ผ่านตลาด merchant market ซึ่งเป็นองค์การที่ดูแลการจัดส่งไฟฟ้าระดับภูมิภาคที่มี reliability และอุปสงค์ใช้ไฟฟ้าในมือสูงที่สุดในสหรัฐ ทั้งนี้ Jackson Generation อ้างว่าเป็นโครงการที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตไฟฟ้าต่ำที่สุดในบรรดาโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในสหรัฐ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รัฐ Illinois มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,200MW เปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 GULF กำหนดจะปิดดีลนี้ในเดือนธันวาคม 2565
ผู้บริหารมองดีลนี้จะส่งผลดีต่อ GULF 3 ด้าน ด้านแรกดีลนี้จะทำให้กำลังการผลิตของ GULF เพิ่มขึ้น 588MWe หรือ 7.3% ของ 8,090MWe เป็น 8,678Mwe ด้านที่สอง Jackson Generation เหนือกว่าโรงไฟฟ้าละแวกใกล้เคียงในแง่ของ heat rate ที่ต่ำกว่า จากแหล่งก๊าซและน้ำที่สมบูรณ์,เทคโนโลยีที่ทันสมัย และอายุน้อย ด้านที่สาม ดีลนี้จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง GULF และ J-POWER (ซึ่งเป็นพันธมิตร GULF มาหลายปี) แนบแน่นขึ้น อีกทั้งดีลนี้เป็นการเจรจาโดยตรงกับผู้ขายทำให้ได้ราคาดีที่ US$0.7/MW (เมื่อเทียบกับดีลที่ Electricity Generating (EGCO) เข้าซื้อ Linden ที่ US$0.7/MW และดีลที่ Banpu Power (BPP) เข้าซื้อ Temple I ที่ US$0.6/MW) ทั้งนี้ GULF คาดว่าจะหาดีลลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตของอุปสงค์สูงอย่างสหรัฐได้อีก โดยอาจเป็นพลังงานหมุนเวียน, LNG และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
เรามองบวกกับการเข้าลงทุนนี้ ซึ่งเป็นโครงการใหญ่โครงการแรกที่ GULF เข้าไปลงทุนในปีนี้ เราได้ปรับเพิ่มกำไรปี 2565F ขึ้นอีก 3-8% เพื่อสะท้อนถึง i) กำไรของ Jackson Generation (1.5-2 พันล้านบาทต่อปี) อิงจาก EIRR ของโครงการที่ 18%, สัดส่วน D/E ที่ 1:1, อายุของ PPA ที่ 40 ปี, capacity factor ที่ 85%, AF ที่ 95% และ ii) สัดส่วนการถือครองหุ้นใน BKR2 ที่ลดลง (เหลือ 25% จากเดิม 50%) เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2565-2567 จะโตถึง 28% YoYCAGR สูงกว่าของหุ้นอื่นในกลุ่ม ขณะเดียวกัน เรายังคาดว่าผลการดำเนินงานใน 2H65 จะออกมาน่าประทับใจเช่นกัน
เรายังแนะนำซื้อ และเพิ่มราคาเป้าหมาย DCF เป็น 60 บาท(เดิม 57 บาท) เรายังคงเลือก GULF เป็นหุ้นเด่น โดยคาดว่าหุ้นจะยังคง outperform หุ้นในกลุ่ม และมองเห็น upside ราว 3 บาท/หุ้น จากความเป็นไปได้ 100% ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำสามโครงการ จากปัจจุบันที่เราใส่ไว้ในประมาณการ 80%
ปัจจัยเสี่ยงจากการปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns, และความผันผวนจาก Fx และอัตราดอกเบี้ย
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี