บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS กำไรสุทธิ ใน2Q65/66 (มิถุนายน-สิงหาคม) อยู่ที่ 904 ล้านบาท (-19% QoQ, +33% YoY)ต่ำกว่าประมาณการของเรา 12% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองสูงกว่าที่เราคาดไว้ 13% และต่ำกว่า consensus 10% กำไรสุทธิในงวด 1H65/66 อยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท (+10% YoY) คิดเป็น 47%ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

กำไรที่ต่ำเกินคาดเป็นเพราะมีการตั้งสำรองหนี้เสีย (LLP) สูงเกินคาดที่ 1.9 พันล้านบาทใน 2Q65/66 (เราคาดไว้ที่ 1.6 พันล้านบาท)กำไรที่ลดลง QoQ เพราะไม่มีกำไรพิเศษจากการขาย NPLs (จาก 105 ล้านบาทใน 1Q65/66) และ credit cost เพิ่มเป็น 7.9% (จาก6.7% ใน 1Q65/66) กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นเพราะสินเชื่อเพิ่มขึ้น และcredit loss ลดลง แต่หากไม่รวมกำไรจากการขาย NPLs และการกันสำรอง กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น 4% QoQ และ 16% YoYใน 2Q65/66

สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 1.3% QoQ และ 7.9% YoY ใน 2Q65/66ขณะที่ yield สินเชื่อทรงตัวทั้ง QoQ และ YoY ตามที่เราคาดไว้ โดยต้นทุนของเงินทุนอยู่ที่ 2.77% ใน 2Q65/66 จาก 2.65% ใน 1Q65/66และ 2.84% ใน 2Q64/65 ขณะเดียวกัน สัดส่วน C/I ลดลงเหลือ 36.2%ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 38.2% ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ สัดส่วน NPL เพิ่มเป็น 5.5% ใน 2Q65/66 (ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 5.6%)จาก 5.3% ใน 1Q22/23 และ 5.2% ใน 2Q64/65 ขณะที่สัดส่วนNPL coverage อยู่ที่ 207% ใน 2Q65/66 ทั้งนี้ ธุรกิจใน CLMV(ส่วนใหญ่อยู่ในกัมพูชา) ยังคงมีกำไรสุทธิต่อเนื่องในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 67 ล้านบาทใน 2Q65/66 จากที่มีกำไร 94 ล้านบาทใน 1Q65/66 และ จากที่ขาดทุน 141 ล้านบาทใน 2Q64/65

คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2.55 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานงวดเดือนมีนาคม-สิงหาคม 2565 กำหนดขึ้น XD วันที่ 18 ตุลาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 2 พฤศจิกายน คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1.59%

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น เราจึงยังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรและคงประมาณการกำไรปี FY2566F ไว้ที่ 4.3 พันล้านบาท (+22% YoY) และปี FY2567F ที่ 5.1 พันล้านบาท (+17% YoY)เรายังคงคำแนะนำซื้อ AEONTS โดยประเมินราคาเป้าหมายปี FY2566 ที่ 216 บาท

ปัจจัยเสี่ยงจากอุปสงค์สินเชื่อชะลอตัวเนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการกดดัน yield สินเชื่อ,NPLs เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าระดับล่าง

ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)