วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn ความคืบหน้าในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ทำให้ผู้ลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของพันธบัตรรัฐบาล ประกอบกับผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) สะท้อนมุมมองว่า FED น่าจะอยู่ใกล้จุดที่จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุนโลก เนื่องจากผู้ลงทุนคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะไม่เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันมากนัก ในขณะที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวและความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงมีอยู่จำกัดทำให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ นายศรพล ตุลยะเสถียรรองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าในเดือนพฤษภาคม 2566 เริ่มเห็นเงินทุนต่างชาติไหลออกจากพันธบัตรและหุ้นไทยในระยะสั้น หลังทราบผลการเลือกตั้ง เนื่องจากผู้ลงทุนกังวลเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนยังคงติดตามความชัดเจนอย่างใกล้ชิด และหากนโยบายต่างๆ ไม่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการเพิ่มต้นทุนในการทำธุรกิจที่นักวิเคราะห์คาดว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามา นอกจากนี้หากพิจารณาจากอัตราส่วน Forward P/E ของ SET ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ผู้ลงทุนบุคคลและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิใน 5 เดือนแรก
สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 SET Indexปิดที่ 1,533.54 จุด ปรับเพิ่มขึ้น0.3% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า โดยปรับไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นใน ASEAN ในเดือนพฤษภาคมปี 2566 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค กลุ่มการเงิน กลุ่มบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
เดือนพฤษภาคม 2566 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 54,189 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 31.6% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในห้าเดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 60,933 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่สี่โดยในเดือนพฤษภาคม 2566 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 33,407 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และในเดือนพฤษภาคม 2566มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.จีเอเบิล (GABLE)
Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม2566 อยู่ที่ระดับ 16.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.5 เท่าและ HistoricalP/E อยู่ที่ระดับ 20.8 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.1 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ระดับ3.17% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.46%
ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคม 2566 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 501,638 สัญญา เพิ่มขึ้น 19.3% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50Index Futures และ Single Stock Futures และในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 548,016สัญญา ลดลง 3.1% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures
ขณะที่นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหุ้นไทยปรับตัวแรงส่วนหนึ่งเพราะนักลงทุนยังรอดูความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล และรอประเมินว่านโยบายรัฐบาลใหม่จะส่งผลกระทบในเชิงบวกและลบต่อแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างไรบ้าง ส่งผลให้ราคาหุ้นหลายกลุ่มปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศ คาดว่าจะดำเนินนโยบายส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ในหลายๆ กลุ่มอุตสาหกรรม และจะทำให้นักลงทุนกลับมามีความมั่นใจ และส่งผลหุ้นไทยปรับตัวฟื้นขึ้นมาได้
นอกจากนี้ หากมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันพบว่าการบริโภคในประเทศฟื้นตัวแข็งแกร่ง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำเอื้อต่อการลงทุน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัว ปัจจัยดังกล่าวนอกจากจะหนุนการบริโภคในประเทศให้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งผลทางอ้อมให้ธุรกิจโรงพยาบาลในไทยมีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นอีกด้วย

'สรายุทธ' ปัดชี้แจง ถูก 'อัจฉริยะ' แฉเอี่ยววิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งภาค4 โยนนักข่าวไปถาม ผบ.ตร.
น้ำท่วมเป็นเหตุ! ผักเบตง ‘พาเหรดขึ้นราคา’ ผักชีพุ่งทะยาน กก.ละ 300 บาท
‘ชัชชาติ’ รุดตรวจเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ย่านจักรเพชร
'รมว.ยุติธรรม'รับไม่ได้! สั่งขยายผล สอบพฤติกรรมย้อนหลัง'ผบ.คุกพิเศษกทม.'
ภราดร ย้ำ ยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ บอก ปล่อยซักฟอก รัฐบาลแจงดีแค่ไหน ก็โหวตแพ้อยู่ดี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี