วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
nn หลังจากที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ....ได้เปิดเผยถึง ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2566 ว่าขยายตัวได้ 1.5% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ 1.8% เนื่องจากการส่งออกของไทยหดตัวติดลบต่อเนื่อง 3 ไตรมาสในปีนี้ โดยภาพรวม 9 เดือน จีดีพีขยายตัวเพียง 1.9% โดยได้ปรับตัวเลขคาดการณ์จีดีพีปีนี้จะอยู่ที่ 2.5% จากเดิมอยู่ที่ 2.5-3%และคาดการณ์ว่าสำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปี 2566 โดยคาดจีดีพี ขยายตัว 3.2% หรือเฉลี่ย 2.7-3.7% จากแรงส่งด้านการส่งออกที่กลับมา แต่มีความเสี่ยงต้องติดตามหลายเรื่องทั้งการล่าช้าของงบประมาณปี’67 ที่คาดว่าจะออกมาในเดือนเมษายน 2567 ทำให้หน่วยงานต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมรองรับการเบิกจ่าย และการหารายได้ การสร้างรายได้ของรัฐบาล
ดูเหมือนฝ่ายวิจัยของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งก็กำลังจะปรับลดการประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเช่นกัน เริ่มจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย (ธนาคารกสิกรไทย)ที่ปรับการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 2.5%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) ลดลงจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้าที่ 3.0% YoY และสาเหตุที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์มาจาก ภาคการส่งออกที่หดตัว การอุปโภคของภาครัฐที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ COVID-19 ที่ลดลง ในไตรมาสนี้มีปัจจัยบวกหลักคือการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นี้ คาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวเป็นหลัก และคาดว่ามาตรการบรรเทาค่าครองชีพจากทางภาครัฐคงจะช่วยหนุนการบริโภคในประเทศให้ยังขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนทิศทางของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 มองว่าจะฟื้นตัวดีกว่าปี 2566 โดยมีแรงหนุนหลักจากภาคการท่องเที่ยวที่แม้แรงส่งจะลดลงในปีหน้า ขณะเดียวกันมองว่าภาคการส่งออกจะกลับมาเติบโตเป็นบวก นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2567 อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศให้ยังขยายตัวได้
ขณะที่ Krungthai COMPASS (ธนาคารกรุงไทย) ระบุว่า สาเหตุที่ GDP ไทยไตรมาส 3 ปี 2566 เติบโตที่ 1.5% ลดลงจากไตรมาสก่อน ซึ่งเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง จากการใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัว รวมถึงการส่งออกสินค้าที่ยังคงหดตัว ส่วนเศรษฐกิจปี 2567 มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวในปีหน้า ประกอบกับการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น อีกทั้งการบริโภคภาคเอกชนยังมีแนวโน้มขยายตัวตามการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม Krungthai COMPASS ประเมินว่า เศรษฐกิจในปีหน้ายังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งการเติบโตของประเทศเศรษฐกิจหลักฝั่งตะวันตกจะถูกกดดันจากภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ความล่าช้า พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 จะกระทบการเบิกจ่ายและการลงทุนภาครัฐในปีหน้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการขยายตัวของ GDP
ด้าน วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่าเตรียมปรับลดประมาณการ GDP ไทยปี 2566 ลดลงจากระดับ 2.8% เนื่องจาก 1.ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดและวิจัยกรุงศรีคาดการณ์ไว้ (ประมาณการไว้ที่ 2.4%) 2.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยอาจต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 28.5 ล้านคน ซึ่งในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 22.2 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตเร่งขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจาก ฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อนแล้ว แรงหนุนจากมาตรการของภาครัฐที่ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพทั้งค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการเดินทาง รวมถึงมาตรการพักหนี้เกษตรกร การกระเตื้องขึ้นของภาคส่งออกในช่วงปลายปี การฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
มาถึงตรงนี้ก็ต้องนึกถึงประเด็นยอดฮิตว่า “เศรษฐกิจไทยเข้าขั้นวิกฤต” อย่างที่รัฐบาลกำลังจะยัดเยียดความรู้สึกนี้ให้สังคมหรือไม่...ถ้านักวิชาการก็จะบอกว่า...เศรษฐกิจไทยจะเขาขั้นวิกฤตก็ต้องขยายตัวติดลบต่อเนื่องกัน 2 ไตรมาสติด มีกิจการปิดตัวและมีการเลิกจ้างในวงกว่างเหมือนตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง และ แฮมเบอร์เกอร์ไครซิส...แต่ตอนนี้เศรษฐกิจไทย Q 3 ที่ชะลอตัวลงเพราะ เครื่องยนต์หลัก อย่างการ
ส่งออก ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและจีน ส่วนการท่องเที่ยวไม่โตตามเป้าที่หวังว่ามาตรการฟรีวีซ่า จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเหมือนตอนก่อนเกิดโควิด-19...และแม้ว่าทั้งปีจะไม่เติบโตตามเป้า 30.-3.5% แต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ก็จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา และการส่งออกจะขยายตัวได้ตามคำสั่งซื้อในช่วงปลายปี ส่วนปีหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่สดใสกว่าปีนี้ เพราะได้แรงหนุนจากภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว
สรุปเลยก็ได้ว่า...จะอ้างว่าเศรษฐกิจไทยเข่าขั้นวิกฤตเลยจำเป็นต้องกู้เงิน 5-6 แสนล้าน มาแจกประชาชนนั้น...ฟังไม่ขึ้น...แต่สิ่งที่ต้องทำคือ....แสดงฝีมือทำให้เครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจทั้งการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวเดินเครื่องได้เต็มศักยภาพ nn
กระบองเพชร

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี