วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
บริษัทหลักทรัพย ์(บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น หรือ STEC กำไรสุทธิ 1Q67อยู่ที่ 12 ล้านบาท ลดลง -93% YoY และ -84% QoQ เนื่องจาก i) รับรู้สัดส่วนขาดทุนก้อนใหญ่ที่ 146 ล้านบาท จากบริษัทในเครือที่เดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูและ ii) ต้นทุนรายจ่ายการจัดหาเงินทุนและภาษีเพิ่มขึ้น กำไร 2Q67 น่าจะฟื้นตัว QoQ ด้วยแรงหนุนจากเงินปันผลรับมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท จากการถือหุ้นใน Gulf EnergyDevelopment (GULF) ขณะที่ ธุรกิจหลักใน 2H67 น่าจะทยอยดีขึ้นด้วยการมีรายได้สูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานโซลาร์5 แห่งและโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (ฝั่งใต้)
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F และ 2568F ลงราว 40%และ 35% ตามลำดับ เกิดจากการรับรู้สัดส่วนขาดทุนสูงกว่าคาดจากบริษัทในเครือที่ทำการเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูยังอยู่ที่ 50-60%ต่ำกว่าระดับจุดคุ้มทุนที่ 1 แสนคนต่อวันต่อหนึ่งเส้นทาง เราคงประมาณการรายได้ปี 2567F ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท(+5% YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 5% ใกล้เคียง guidance ของบริษัท ขณะที่สัดส่วนขาดทุนจากบริษัทในเครือที่เดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู จะยังกดดันต่อกำไรสุทธิในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
STEC คาดว่าจะได้งานโครงการใหม่ๆ มูลค่ารวม 4.5-5.0 หมื่นล้านบาท (โดย 3% ของมูลค่ารวมได้เซ็นสัญญาไปแล้วใน 1Q67) มีโอกาสได้โครงการภาครัฐและเอกชนอีก 12% ของมูลค่าที่จะเปิดประมูลงานในปีนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ STEC ได้ยื่นประมูลงานก่อสร้างลานวิ่งเครื่องบินแห่งที่สองที่สนามบินอู่ตะเภา มูลค่าราว 1.5 หมื่นล้านบาท ในเดือนพฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ เมืองโครงการการบินที่อู่ตะเภา (STEC ถือหุ้นอยู่ราว 20%) มูลค่า 2.90 แสนล้านบาทน่าจะเดินหน้าได้เมื่อโครงการรถไฟฟ้ารางความเร็วสูงได้เชื่อมต่อกับสนามบินทั้ง 3 แห่ง ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มซีพีดำเนินการต่อโดยที่ STEC คาดจะได้งานมูลค่าราว 2.7 หมื่นล้านบาท จากโครงการอู่ตะเภาดังกล่าวนี้
อย่างไรก็ดี STEC ซึ่งเคยร่วมงานกับ CH Karnchang (CK)ในการบุกเบิกงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ฝั่งตะวันออก) อาจได้รับงานอีกหากการก่อสร้างในฝั่งตะวันตกเดินหน้าได้หลังจากที่คำตัดสินสุดท้ายจากศาลปกครองสูงสุดประกาศออกมาในวันที่ 12 มิถุนายน 2567
ตามประมาณการใหม่ของเรา กำไรปี 2567F จะแย่ลงราว 50% YoY ก่อนจะฟื้นตัว 35% ในปีหน้ากรณีที่โครงการต่างๆ ภาครัฐได้เดินหน้าต่อ เราคงคำแนะนำถือ ประเมินราคาเป้าหมาย ใหม่ที่ 9.50 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ๆ การแก้ไขสัญญาต่างๆ การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบต่างๆการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และการปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงงาน
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)

กรณ์ ชี้ Connection = Corruption จี้ยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง
สยองสี่แยก! จยย.ชนท้ายกระบะจอดติดไฟแดงอย่างจัง คนขี่ขาพลิกบิดงอผิดรูป
ไทยสร้างไทย ประกาศ สร้างการเมืองสุจริต เดินหน้าล้างโกงครั้งใหญ่
แบงก์ชาติกัมพูชาสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ฮุยวัน กรุ๊ป ศูนย์กลางฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ทั่วโลก
มท. ย้ายอุตลุต! ล็อตใหญ่ 203นายอำเภอ พรึ่บจัดทัพ ฝ่ายปกครอง รอรับมือ เลือกตั้ง69

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี