วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) ได้ประเมินการณ์ว่า รถยนต์ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้า จะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2568 ยอดขายอาจสูงถึง 17 ล้านคันต่อปี ซึ่งหมายความว่า ทุกยอดจำหน่ายรถยนต์สันดาป 5 คัน จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน ซึ่งเป็นผลจากนโยบายลดภาวะโลกร้อน
ลดมลพิษด้วยจากการใช้ยานพาหนะพลังงานสะอาด
รถยนต์ไฟฟ้า BYD สัญชาติจีน ครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยรูปลักษณ์และสมรรถนะที่ตอบสนองการใช้งาน และเป็นที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเนื่องจากราคาไม่แพง และเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ประเภท Lithium Iron Phosphate ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ BYD เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่มาก่อน และมาซื้อกิจการโรงงานผลิตรถยนต์ในภายหลัง จึงได้เปรียบกว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ
BYD เลือกประเทศไทยในการตั้งโรงงาน เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้การดำเนินการของบริษัท บีวายดี เร-เว่ ประเทศไทย จำกัด บริษัทสัญชาติไทย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จาก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด บริษัทแม่ในประเทศจีน ซึ่งต่อมาได้เข้าร่วมลงทุนถือหุ้น 20%
BYD มียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เป็นที่น่าพอใจ ในราคาที่ย่อมเยา จนเมื่อประมาณวันที่ 1 ก.ค. 2567 บริษัทตัวแทนในประเทศไทยได้ประกาศลดราคารถยนต์รุ่นยอดนิยมหลายรุ่น เป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวโรงงานฐานการผลิตในประเทศไทย บางรุ่นลดราคาลง ประมาณ 100,000 บาทบางรุ่นลดราคาลงเกือบ 300,000 บาท สร้างความตระหนกตกใจ และเสียดายเงินแก่ผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ในราคาเต็ม
ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ ไฟฟ้า BYD ไปแล้วในราคาเต็ม กับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อในช่วงลดราคา รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่มีแผนจะซื้อรถยนต์ในช่วงเปิดตัวตอนแรก แต่ไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ และได้มีโอกาสซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYDในทันทีที่ประกาศลดราคา
การลดราคาของ BYD ได้กลายเป็นกระแสความไม่พอใจแก่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไปแล้วในราคาเต็ม จนถึงขนาดร้องเรียนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) และยังเรียกร้องให้BYD รับผิดชอบด้วยการพิจารณาชดเชยคืนราคาส่วนต่างที่ประกาศลดราคา ซึ่งในที่สุด หน่วยงานต่างๆ มีความเห็นว่า BYD ไม่มีความผิด เพราะเป็นเพียงแผนการตลาดเท่านั้น
ในทางกฎหมาย หากใช้สิทธิทางศาลฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทผู้ขายให้ชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนต่างจากการลดราคาดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้เพราะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวไม่ถือเป็น ผู้เสียหาย และตามสัญญาซื้อขายสินค้า ถือว่าข้อผูกพันทางกฎหมายระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ได้สิ้นสุดไปแล้ว
แม้ BYD ไม่มีความรับผิดใดๆ แต่ล่าสุด หน่วยงานราชการได้เจรจากับ BYD และBYD ยอมรับที่จะทบทวนมาตรการให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ที่ซื้อรถไฟฟ้า BYD ในราคาเต็มซึ่งยังต้องใช้เวลา และยังไม่แน่ว่าจะมีมาตรการอย่างไร อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครยืนยันได้ว่าคำชี้แจงของ BYD จะเป็นเพียงการซื้อเวลา เพื่อลดความกดดัน และจะให้ความช่วยเหลืออย่างไรกันแน่
สิ่งแน่นอนอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้น กับผู้ที่ซื้อรถไฟฟ้า BYD ในราคาเต็มคือ การภักดีต่อ แบรนด์ หรือยี่ห้อ BYD (Brand Royalty) เริ่มลดน้อยถอยลงไปมาก จนกว่า BYD จะแก้ไขปัญหานี้ด้วยความจริงใจ และเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

'ปู่ฤาษีพรหมเมศ'ศักดิ์สิทธิ์ ลูกศิษย์นำฟักทอง 999 ลูกแก้บน-ไม่พลาดส่องเลขอ่างน้ำมนต์
เกลือเป็นหนอนหรือไม่? รถบรรทุกน้ำมันจ่อคิวยาวเหยียด'ด่านช่องเม็ก' หลังมีคำสั่ง'งดส่งออก'
'มทภ.2'ออกคำสั่ง คุมเข้ม'ด่านช่องเม็ก' งดส่งออกน้ำมัน-ยุทธภัณฑ์ มีผลเที่ยงคืน 14 ธ.ค.
ด่วน!!! ทบ.ห้ามส่งออกน้ำมัน-ยุทธ์ภัณฑ์ จุดผ่านแดนช่องเม็ก
ฮุนเซน รีบแก้ตัว บอกเหตุผลยังไม่ปล่อยคนไทยกลับทางด่านปอยเปต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี