บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทไออาร์พีซี หรือ IRPC เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ IRPC ใน 3Q67F จะดีขึ้น QoQ เนื่องจาก i) ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น และii) spread ของ ABS ดีขึ้น เราคาดว่า market GRM ของ IRPC จะดีขึ้น QoQ เพราะ spread ของน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซลในงวด 3QTD67 เพิ่มขึ้น 8% QoQ เป็น US$14.3/bblและ 4% QoQ เป็น US$15.4/bbl ตามลำดับ เนื่องจากธุรกิจการบินเชิงพาณิชย์แข็งแกร่งขึ้น และอุปสงค์น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเพราะใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว นอกจากนี้ยังคาดว่าต้นทุนการกลั่นจะลดลง QoQ เนื่องจาก i) สัดส่วนของ sour crude (ต้นทุนถูกกว่า sweet crude) เพิ่มขึ้นหลังจากที่เริ่มเปิดดำเนินการโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ในเดือนเมษายน และ ii) ต้นทุน Arab Light crude premium ลดลง QoQ จาก US$2.2/bbl เหลือ US$2.1/bbl ใน 3Q67F ผู้บริหารยังคาดว่า spread ของ ABS จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น US$770-820/ton ใน 2H67F จากนโยบายของจีนที่สนับสนุนให้ชาวจีนเปลี่ยนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้านและรถ EV ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ spread ของ ABS ใน 3QTD67 เพิ่มขึ้น 1% QoQ เป็น US$770/ton อย่างไรก็ตาม spread ของ PP ใน 3QTD67 ลดลง 7% QoQ เหลือ US$342/ton เพราะถูกกดดันจากอุปทาน PP ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในตลาด เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา7.0 MTA ในปี 2566 และอีก 6.7 MTA ในปี 2567F

IRPC ตั้งเป้าจะลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ลง 20% ในปี 2568F คิดเป็นประมาณ US$1.2/bbl หรือ 3.0 พันล้านบาท จากการดำเนินโครงการประหยัดต้นทุนในหลายๆ ด้าน บริษัทคาดว่าจะมีโครงการริเริ่มใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพประมาณ 10 โครงการ ขณะที่ผู้บริหารบอกว่าประมาณครึ่งหนึ่งของโครงการเหล่านี้ยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติ บริษัทมีแผนจะเพิ่มยอดขายสินค้า specialty products เป็น 38% ของปริมาณยอดขาย polymer ทั้งหมดในปีนี้ จาก 33% ในปีที่แล้ว ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายสินค้า specialty ระยะยาวไว้ที่ 60% ในปี 2573F ขณะเดียวกันจากแนวโน้มที่ท้าทายของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีผู้บริหารบอกว่าบริษัทอาจจะขายหรือลดสัดส่วนการถือสินทรัพย์บางรายการที่ฉุดผลประกอบการของ IRPC อย่างต่อเนื่อง

เรายังคงคำแนะนำถือ IRPC โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 1H68F ที่ 1.90 บาท เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวจากคาดผลประกอบการจากธุรกิจหลักจะดีขึ้น QoQ ใน 3Q67F แต่อย่างไรก็ตามเรายังคงมองลบกับแนวโน้มธุรกิจ PP ตลอดปีนี้ เพราะจะมีอุปทาน PP ใหม่ทะลักเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมากในปีนี้

ปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ปิโตรเคมี

ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)