** เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทาย อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และลดต่ำกว่าร้อยละ 3 ตั้งแต่ปี 2563 แม้จะมีการคาดการณ์การฟื้นตัวในปี 2568 แต่หลายฝ่ายยังคงมองว่าเป็นปีที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากปัจจัยภายนอกที่ซับซ้อน เช่น นโยบายการค้าโลก และปัจจัยภายใน อาทิ ปัญหาเชิงโครงสร้าง หนี้ครัวเรือนที่สูง ประชากรวัยทำงานลดลง และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่ยังไม่เต็มที่
ความท้าทายเหล่านี้ไม่ได้มาจากปัจจัยภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อนและคาดเดาได้ยาก หรือที่เรียกว่า "TRUMP" ซึ่งย่อมาจาก Turbulence (ความวุ่นวาย), Risk (ปัจจัยเสี่ยง), Unpredictability (ไม่สามารถคาดเดาได้), Manipulation (การบงการ), และ Polarization (โลกแบ่งขั้ว) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ปัจจัยภายในประเทศที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจก็มีอยู่เช่นกัน เช่น ปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน ประชากรวัยทำงานที่เริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2561 และมีแนวโน้มลดลงเร็วขึ้น หนี้ครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 92 ของ GDP ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ยังช้ากว่าประเทศคู่แข่ง
หนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งคือการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อย่างไรก็ตาม ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า FDI Inflows เฉลี่ยต่อปีของไทยอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนมานาน โดยเฉพาะหลังปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ประเทศเหล่านั้นมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าไทยในลักษณะ Investment-led Growth IMF เองก็เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มผลิตภาพและสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนภาคเอกชน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายและสร้างโอกาสในการเติบโต กนอ. ได้ประกาศยุทธศาสตร์ "I-EA-T 2025: HOPE" โดยพร้อมเป็น "คนพายเรือที่แข็งแรง" ในการเร่งรัดการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ กลยุทธ์ HOPE มุ่งหวังที่จะทำให้ประเทศไทยมีความหวังที่ดีที่สุดเพื่อสร้างอนาคตทางเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งประกอบด้วย 4 แนวทางหลักคือ
• H: High value-added Investment: เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดึงดูด Future Investment หรือ High-Tech FDI ไม่น้อยกว่าปีละ 10,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 350,000 ล้านบาท โดยปรับเปลี่ยนโมเดลไปสู่ Investment-led Growth Plus ที่ผสมผสานเงินลงทุนเข้ากับการดูดซับความสามารถและสร้างนวัตกรรม
• O: Operational Efficiency: เพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการเพื่อยกระดับ Ease of Doing Business & Investment ปฏิรูปกฎหมาย มอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่การลงทุนที่เน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและสร้างงานทักษะสูง และสร้าง "ระบบนิเวศ" ที่สนับสนุนการผสมผสานและสร้างนวัตกรรม กนอ. มุ่งสู่เป้าหมาย "กนอ. ทำถึง" ด้วยบริการที่รวดเร็ว โปร่งใส
• P: Proactive Marketing: สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนไทยภายใต้แคมเปญ "เชื่อมั่นลงทุนไทย อนาคตสดใสและยั่งยืน" ทำการตลาดเชิงรุก แสดงให้เห็นว่าไทยไม่ใช่ "คนป่วย" แต่เป็นประเทศที่มีความหวังและอนาคตที่ยั่งยืน
• E: Engine of Sustainability: ทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนความยั่งยืน สนับสนุนนักลงทุนในการปรับตัวเข้ากับกติกาโลกใหม่ด้านความยั่งยืน สร้าง "นิคมฯ พลังงานสะอาด" และแสวงหาความร่วมมือเพื่อสร้างเครือข่ายพลังงานสะอาดต้นทุนต่ำ รวมถึงการพัฒนา "เศรษฐกิจติดนิคม" เพื่อดูแลชุมชนอย่างยั่งยืน
ด้วยการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ HOPE กนอ. มั่นใจว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นกว่า 3 % เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอุตสาหกรรม และสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนสำหรับอนาคต
** กระบองเพชร**
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี