เงินเฟ้อคืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับเงินในกระเป๋าของเราในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เงินเฟ้อในประเทศไทยถือเป็นปัจจัยเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างต่อเนื่อง แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจถึงผลกระทบที่แท้จริงของเงินเฟ้อต่อกำลังซื้อและการวางแผนการเงินส่วนบุคคล
เงินเฟ้อในไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา : ภาพรวมที่แท้จริง
อัตราเงินเฟ้อของไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2014-2024) เฉลี่ยอยู่ที่ 1.1% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอาเซียน อย่างไรก็ตาม มีช่วงเวลาที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ ในปี 2022 ที่อัตราเงินเฟ้อสูงถึง 6.08% อันเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์โควิด-19 และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก น่าสนใจที่ ในปี 2020ไทยเผชิญกับภาวะเงินฝืด (deflation) ที่ -0.85% ซึ่งเป็นสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ก่อนที่จะฟื้นตัวใน ปี 2021 ที่ 1.23%
ผลกระทบจริงของเงินเฟ้อต่อกำลังซื้อ
เงินเฟ้อหมายถึงการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไป เมื่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เงินที่เรามีในมือจะมีกำลังซื้อลดลง ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงิน 1,000 บาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และใช้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 1.1% ต่อปี กำลังซื้อของเงิน 1,000 บาทนั้นจะลดลงเหลือประมาณ 890 บาท กล่าวคือ สิ่งที่ซื้อได้ด้วยเงิน 1,000 บาท เมื่อ 10 ปีก่อน วันนี้ต้องใช้เงินประมาณ 1,115 บาท
การลงทุนในไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา : ใครเป็นผู้ชนะ?
1. ตลาดหุ้นไทย (SET Index)
ตลาดหุ้นไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนจะ “ย่ำอยู่กับที่” โดยตลาดเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 1,300-1,800 จุด โดยสิ้นปี 2024 ปิดที่ 1,402 จุด ลดลงจาก 1,416 จุด ในสิ้นปี 2023 ซึ่งสะท้อนถึงผลตอบแทนที่ค่อนข้างคงที่และไม่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม หรืออินโดนีเซีย ที่เติบโตอย่างน่าประทับใจ
2. ทองคำ
ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีเยี่ยมในปี 2024 และยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนไทยนิยมถือครองเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน
3. อสังหาริมทรัพย์
ราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ตัวเมืองและย่านพัฒนาแล้วมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันตามทำเลและประเภทของอสังหาริมทรัพย์
4. Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัล : ผู้ชนะที่มีความเสี่ยงสูง
Bitcoin ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างมาก แม้ว่าจะมีความผันผวนสูงมาก โดยใน ปี 2025 Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 121,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็น
การเติบโตที่น่าทึ่งสำหรับผู้ที่ลงทุนมาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยBitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับการรับรองให้เป็นสินทรัพย์ลงทุนที่ถูกกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. แม้ว่าจะไม่ใช่สกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่สามารถซื้อขายและถือครองเป็นการลงทุนได้อย่างถูกต้อง
5. เงินฝากธนาคาร : ผู้แพ้ต่อเงินเฟ้อ
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 0.5-2% ต่อปี ซึ่งในหลายปีต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เงินฝากธนาคารเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรักษากำลังซื้อได้
กลยุทธ์การลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ
หลักการสำคัญ : การกระจายความเสี่ยง (Diversification) เพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินให้เติบโตเหนือกว่าอัตราเงินเฟ้อนักลงทุนควรพิจารณาการจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ประเภท :
1. ตลาดหุ้น (20-30%)
•เลือกหุ้นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ
2. ทองคำ (10-15%)
•ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
•สามารถลงทุนผ่าน ETF ทองคำหรือทองคำแท่งจริง
3. อสังหาริมทรัพย์ (20-30%)
•ให้รายได้ประจำจากค่าเช่า
•มีโอกาสเติบโตในระยะยาว
•พิจารณา REITs หากไม่มีเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง
4.Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัล (5-10%)
•มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงมาก แต่มีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย
•ในปี 2025 Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ $121,000 แสดงถึงศักยภาพการเติบโต
•ลงทุนเฉพาะส่วนที่สูญเสียได้ เนื่องจากความผันผวนสูงมาก
•เลือกซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น
5. เงินฝากและพันธบัตร (20-30%)
•รักษาสภาพคล่องเพื่อการใช้จ่ายฉุกเฉิน
•ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อทำให้ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย และการขนส่ง มีราคาแพงขึ้น ลดกำลังซื้อดังนั้นการวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
การเก็บเงินไว้ในธนาคารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการรักษามูลค่าทรัพย์สินในยุคปัจจุบัน นักลงทุนควรศึกษาและเลือกสินทรัพย์ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ พร้อมทั้งกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม สุดท้าย การลงทุนต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ การศึกษา และแผนการเงินที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินอย่างสม่ำเสมอ
ดร.กร พูนศิริวงศ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี