วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / กฎ กติกา ธุรกิจ
กฎ กติกา ธุรกิจ

กฎ กติกา ธุรกิจ

รุจิระ บุนนาค
วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ภาษีการค้า (สหรัฐฯ) และปัญหาชายแดน (กัมพูชา)

ดูทั้งหมด

  •  

สหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มเติมปรับอัตราภาษีศุลกากรตามนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดให้ไทยถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 19% สำหรับสินค้าบางรายการที่เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ (จากเดิมอัตรา 36% ทุกรายการ) โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

อัตราภาษี 19% นี้อยู่ในระดับเดียวกับหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย


ส่วนประเทศอื่นที่ต้องเสียอัตราภาษีที่แตกต่าง ได้แก่ เวียดนาม 20%, บรูไน 25%, อินเดีย 25%, ลาว 40%, เมียนมา 40%, ญี่ปุ่น 15%, เกาหลีใต้ 15% ทำให้ไทยยังคงสามารถรักษาระดับการแข่งขันทางการตลาดได้

รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ท่ามกลางปัญหาขัดแย้งรุนแรงตามแนวชายแดนระหว่าง ไทย-กัมพูชา ที่ถึงขั้นใช้กำลังทางทหาร ในขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์ ได้กดดันทั้งไทยและกัมพูชาให้ยุติการสู้รบ โดยใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ เป็นเครื่องมือกดดัน

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นความสำเร็จของไทยในการรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในเวทีการค้าโลก ที่ต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขข้อเสนอสำคัญ 5 ประการคือ

1) ทำการเปิดตลาดสินค้า (Market Access) ให้แก่สินค้าสหรัฐฯ ด้วยการที่ไทยต้องลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เป็น 0% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จำนวน 10,000 รายการ (จากทั้งหมด 11,000 รายการ) หรือคิดเป็นประมาณ 90% ของรายการสินค้าทั้งหมด โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยผลิตไม่ได้หรือผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ เช่น เชอร์รี่, ข้าวโพด
บางสายพันธุ์ รวมถึง สินค้าที่สหรัฐฯไม่ได้ผลิต แต่ไทยได้เสนอเพื่อแสดงความจริงใจ ต้องเพิ่มโควตานำเข้าสำหรับสินค้าที่ไทยผลิตได้ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรบางรายการ (อาทิ ข้าวโพด) โดยมีกำหนดระยะเวลาปรับตัวให้กับเกษตรกรไทยในขณะเดียวกันไทยต้องจัดการสินค้าที่ไทยผลิตได้เพียงพอหรือเกินพอ สำหรับสินค้าที่ไทยผลิตได้และเพียงพอหรือเกินพอ (เช่น เนื้อหมู) โดยมีกำหนดระยะเวลาปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดให้กับเกษตรกรไทยยังไม่เปิดนำเข้าในทันที

2) การแก้ไขอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers) โดยไทยจะต้องปรับปรุงกระบวนการและขั้นตอนการค้าที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และใช้เวลานาน เช่น กระบวนการศุลกากร เอกสารล่าช้า และมาตรฐานสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสในการปรับปรุงการทำงานของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  

3) การจัดการกับ “สินค้าสวมสิทธิ์” (Transhipment/Disguised): เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า โดยไทยให้ความร่วมมือในการจัดการกับสินค้าจากประเทศอื่น (โดยเฉพาะจีน) ที่อาจมีการขนส่งผ่านไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ ไทยได้ตกลงที่จะใช้กฎถิ่นกำเนิดสินค้าที่เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันปัญหานี้

4) การส่งเสริมการลงทุนและลดดุลการค้า โดยส่งเสริมการลงทุนใน EEC : ไทยจะต้องให้สิทธิพิเศษและอำนวยความสะดวกในการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อดึงดูดบริษัทสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะการใช้พลังงานสะอาด เซมิคอนดักเตอร์ และโลจิสติกส์ ไทยจะต้องสั่งซื้อพลังงานและอากาศยานพาณิชย์จากบริษัทสหรัฐฯ ภาครัฐและเอกชนไทยเตรียมสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และเครื่องบินโบอิ้งรุ่นใหม่ เพื่อช่วยลดดุลการค้าที่ไทยเกินดุลสหรัฐฯ มาโดยตลอด โดยไทยต้องจัดทำ Road Map เพื่อลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 70% ภายในปี 2573 โดยการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นและดึงดูดเงินลงทุน    

5) ไทยจะต้องลดภาษีบริการดิจิทัล โดยไทยจะต้องให้การยกเว้นภาษีบริการดิจิทัลชั่วคราว โดยต้องยกเว้นภาษี 5% เป็นเวลา 2 ปี ให้กับบริการคลาวด์และดิจิทัลจากสหรัฐฯ (เช่น AWS, Google Cloud) เพื่อดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยี

เงื่อนไขเหล่านี้ล้วนถูกกำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นข้อตกลงที่เรียกว่า “ภาษีต่างตอบแทน” (Reciprocal Tariffs) ซึ่งไทยได้ดำเนินการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและลดผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย

อัตราภาษีที่ไทยจะต้องเสีย อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน แม้จะก่อให้เกิดภาวะการแข่งขันการตลาดในระดับ ภาษีเป็นกลาง แต่ยังไม่สามารถชดเชยความเสียเปรียบด้านโครงสร้างต้นทุน (Cost Structure Disadvantage) ได้ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับเวียดนามและกัมพูชาที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่า และขีดความสามารถในการผลิตแบบเชิงอุตสาหกรรมพาณิชย์ (Mass Production) ที่รองรับคำสั่งซื้อจากบริษัทข้ามชาติได้ยืดหยุ่นกว่าไทยในบางอุตสาหกรรม

นอกจากนี้อัตราภาษีการขนถ่ายสินค้า (Transshipment Rate) ที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ที่อัตรา 40% สำหรับทุกประเทศ สำหรับสินค้าบางประเภทที่ถูกพิจารณาว่า มีการส่งต่อสินค้าผ่านประเทศอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการทางการค้าสหรัฐฯ ยังไม่กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่สร้างภาระให้ไทยต้องเจรจาอีกรอบ  

ยิ่งไปกว่านั้น กรณีปัญหาการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ในปัจจุบันมีเงื่อนไขมากกว่าด้านภาษี เช่น มาตรฐานการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability), การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Rules of Origin), และการปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงานอย่างกรณีของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ซึ่งล้วนเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า (Non-Tariff Barriers) ที่อาจกลายเป็นต้นทุนแฝงแก่บรรดาผู้ส่งออกไทย หากไม่สามารถปรับตัวได้ทันระยะเวลาปรับตัวที่กำหนด

งานนี้ถือได้ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เอาหล่อเพราะพอจะอ้างได้ว่า เป็นคนกลางที่มีส่วนกดดันทำให้ทั้งไทยและกัมพูชายุติการสู้รบ แต่อัตราภาษีศุลกากรที่ไทยได้รับ แม้ดูเหมือนว่าดี แต่เอาเข้าจริงอาจเป็นแค่ภาพลวงตา

 

ดร.รุจิระ บุนนาค

กรรมการผู้จัดการ

Marut Bunnag International Law Office

rujira_bunnag@yahoo.com

Twitter : @RujiraBunnag

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
16:09 น. โลกจับตา! รัสเซียคาด'ทรัมป์-ปูติน'อาจพบกันสัปดาห์หน้า
16:08 น. 'กวีเหลวไหล' เปิดเหตุผลเบิกเนตร 'ทำไมถึงรักลุงตู่?'!
16:05 น. ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด'ซีเกมส์ 2025' แทนสนามหลวง
15:58 น. 'สหรัฐฯ'สั่งล่าตัว'ปธน.เวเนซุเอลา' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท
15:54 น. 'รศ.ธีรวัฒน์'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย'ฮุน เซน' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ
ดูทั้งหมด
(คลิป) เผยความลับ'เขมร' แห่กลับ ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!
'สิงคโปร์'มองเหตุปะทะไทย-กัมพูชา สะท้อนความล้มเหลวของผู้นำ
'BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน' ถูกสอบเครียด หลุดปากเพิ่งเป็นทหารมาได้ 9 เดือน
(คลิป) เปิดหลักฐานสำคัญ ภาพจากดาวเทียม แฉ! 'เขมร' ขนอาวุธเตรียมตัวบุก 'ไทย'
สายใยแห่งมิตรภาพ! หน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์สหรัฐฯ ร่วมอาลัย'จ่าสิบเอก อโณทัย ป้องแก้ว'
ดูทั้งหมด
ภาษีการค้า (สหรัฐฯ) และปัญหาชายแดน (กัมพูชา)
ออมกำลัง? (1)
กองทัพไทย รบชนะราบคาบ คนไทยต้องการฝ่ายการเมืองที่ไว้ใจได้กว่านี้
บุคคลแนวหน้า : 8 สิงหาคม 2568
ชุมชนเทียม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โลกจับตา! รัสเซียคาด'ทรัมป์-ปูติน'อาจพบกันสัปดาห์หน้า

ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด'ซีเกมส์ 2025' แทนสนามหลวง

'สหรัฐฯ'สั่งล่าตัว'ปธน.เวเนซุเอลา' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท

'รศ.ธีรวัฒน์'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย'ฮุน เซน' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ

(คลิป) ซัดกันแหลก! 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' ศึกใหญ่! 'เขากระโดง' คนซวยคือชาวบ้าน!

แววตาสิ้นหวัง! คลิปไวรัลทหารกัมพูชาสุดช็อก ปู่วัย89-75ปี ถูกเรียกตัวเข้ารับใช้ชาติ

  • Breaking News
  • โลกจับตา! รัสเซียคาด\'ทรัมป์-ปูติน\'อาจพบกันสัปดาห์หน้า โลกจับตา! รัสเซียคาด'ทรัมป์-ปูติน'อาจพบกันสัปดาห์หน้า
  • \'กวีเหลวไหล\' เปิดเหตุผลเบิกเนตร \'ทำไมถึงรักลุงตู่?\'! 'กวีเหลวไหล' เปิดเหตุผลเบิกเนตร 'ทำไมถึงรักลุงตู่?'!
  • ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด\'ซีเกมส์ 2025\' แทนสนามหลวง ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด'ซีเกมส์ 2025' แทนสนามหลวง
  • \'สหรัฐฯ\'สั่งล่าตัว\'ปธน.เวเนซุเอลา\' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท 'สหรัฐฯ'สั่งล่าตัว'ปธน.เวเนซุเอลา' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท
  • \'รศ.ธีรวัฒน์\'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย\'ฮุน เซน\' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ 'รศ.ธีรวัฒน์'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย'ฮุน เซน' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ภาษีการค้า (สหรัฐฯ) และปัญหาชายแดน (กัมพูชา)

ภาษีการค้า (สหรัฐฯ) และปัญหาชายแดน (กัมพูชา)

8 ส.ค. 2568

ภิกษุ สงฆ์ ธรรมวินัย กับกฎหมาย

ภิกษุ สงฆ์ ธรรมวินัย กับกฎหมาย

1 ส.ค. 2568

กสทช. กับการใช้อำนาจที่เกินขอบเขต

กสทช. กับการใช้อำนาจที่เกินขอบเขต

25 ก.ค. 2568

กสทช.กับปัญหาคดีความ

กสทช.กับปัญหาคดีความ

18 ก.ค. 2568

ภาษีทรัมป์ กับ ไทย

ภาษีทรัมป์ กับ ไทย

11 ก.ค. 2568

ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ของไทย

ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ของไทย

4 ก.ค. 2568

คลิปสนทนา อุ๊งอิ๊งค์-ฮุนเซน กับกฎหมาย

คลิปสนทนา อุ๊งอิ๊งค์-ฮุนเซน กับกฎหมาย

27 มิ.ย. 2568

เมาแล้วขับ จับ ปรับ ยึดรถ

เมาแล้วขับ จับ ปรับ ยึดรถ

20 มิ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved