“วางสินค้าใหม่ๆดึงลูกค้าเข้าร้าน”

บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ หรือCPALL จากการประชุมนักวิเคราะห์คาดว่าsame-store-sales(SSS)ยังคงได้รับผลกระทบจากการจับจ่ายใช้สอยที่อ่อนแอคาดSSS  QTD ใกล้เคียงกับใน 2Q68 ที่ -0.8% เพราะยังคงได้รับผลกระทบจากหน้าฝน,จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงและภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาร้านต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้หลังจากที่เปิดสาขาใหม่ไป 350 ร้านใน 1H68 เมื่อพิจารณาถึง same-store-sales growth ประกอบกับการขยายสาขาร้าน ผู้บริหารคาดว่ายอดขายน่าจะโตได้เป็นเลขตัวเดียวระดับต่ำถึงกลาง

การวางจำหน่ายสินค้าใหม่ๆ เป็นกลยุทธ์ที่บริษัทใช้ดึงลูกค้าเข้าร้าน โดยสินค้าที่จัดเป็น products champions ได้แก่ อาหารพร้อมรับประทาน/เครื่องดื่มพร้อมดื่ม/ของใช้ส่วนตัว/และอาหารเสริม ซึ่งช่วยหนุนให้ margin ของยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าในหมวดอาหารอยู่ที่ 27.4% (+10bps YoY, flat QoQ) ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารอยู่ที่ 29.1% (+30bps YoY, -20bps QoQ) ผู้บริหารคาดว่ายังมีช่องให้อัตรากำไรของสินค้าเพิ่มได้อีกจากสินค้าที่กล่าวถึงข้างต้น

ปัจจุบันผลกระทบจากกรณีพิพาทไทย-กัมพูชายังน้อยมาก ทั้งในส่วนของร้านที่อยู่บริเวณพรมแดน และร้านที่อยู่ในกัมพูชา เพราะมีเพียงประมาณ 10 ร้านที่อยู่บริเวณแนวชายแดน และ 123 ร้านในประเทศกัมพูชา โดยยอดขายของร้านในพื้นที่ดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเพียงไม่ถึง 1% ของยอดขายรวมเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารยังไม่ได้พูดถึงแผนการขยายสาขาในกัมพูชาหลังเกิดกรณีพิพาทรอบนี้

เรายังคงราคาเป้าหมาย 1H69F ที่ 60.00 บาท อิงจาก PER ที่ 20.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก -1.0 S.D) และ คงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL

ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัว, ขยายสาขาใหม่ได้ช้ากว่าที่คาด, disruption จากเทคโนโลยีใหม่, ถูกยกเลิกเครื่องหมายการค้า 7-Eleven, ความเสี่ยงด้าน logistic

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)