“ผลการดำเนินงานใน 1H68 อ่อนแอเกินคาด”

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์หรือCHGกำไรสุทธิของ CHG ใน 2Q68 อยู่ที่ 208 ล้านบาท (+8.0% YoY, -7.8% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 13% และต่ำกว่า consensus 11% โดยกำไรสุทธิ 2Q68 คิดเป็น 19.1% ของประมาณการกำไรเต็มปีเดิมของเรา ขณะที่กำไรสุทธิงวด 1H68 คิดเป็น 39.8% บริษัทจัดประชุมชี้แจงงบเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม โดยมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจดังนี้

i) SSO จำกัดการรักษาด้วยการผ่าตัดกระเพาะ (Gastric sleeve treatment)  CHG จึงมีรายได้จากประกันสังคมลดลงเพราะมีเคสผ่าตัดกระเพาะแบบ sleeve ลดลงใน 1H68 จากการที่ SSO ใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งปกติแล้วการผ่าตัดประเภทนี้มักจะสร้างรายได้ไตรมาสละประมาณ 40-50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้ส่วนนี้ได้รับการชดเชยบางส่วนจากรายได้จากผู้ป่วยที่ชำระเงินสด (ส่วนใหญ่มาจากการรักษาโรคมะเร็ง) ที่เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท สำหรับการผ่าตัดกระเพาะ เราคิดว่า SSO ยังคงจำกัดการจ่ายค่ารักษาประเภทนี้อีก เพราะ SSO ตั้งใจจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการรักษาโรคที่ RW>2 ตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ตามแนวทางการรักษาของ SSO

ii) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติฟื้นตัวขึ้น โดยจากโอมานและกาตาร์เพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณบวกในแง่รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติใน 2Q68

iii) โรงพยาบาลที่แม่สอดน่าจะพลิกเป็นกำไรใน 3Q68 ถึงแม้ว่าจะยังมีผลขาดทุนอยู่เล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม แต่ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น และผู้ป่วยชาวไทยก็เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง คาดว่าสาขานี้น่าจะเริ่มทำกำไรได้ใน 3Q68

เมื่ออิงจากผลประกอบการ 1H68 และแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่เป็นบวกน้อยลง เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568F เป็น 1.01 พันล้านบาท (+4.9% YoY) และปี 2569F เป็น 1.07 พันล้านบาท (+5.1% YoY) จากการ i) ปรับลดประมาณการรายได้ปี 2568F ลง 4.7% และ ปี 2569F ลง 9.4% และ  iii) ปรับลดสัดส่วน SG&A/รายได้ปีนี้ลง 0.4ppt และปี 2569F ลง 0.3ppt สะท้อนว่ารายได้CHG จะทรงตัว YoY (เพิ่มขึ้นเพียง 1.5% YoY) แต่บริษัทน่าจะยังคุมค่าใช้จ่ายได้ดีผ่านการรักษาสัดส่วน SG&A/รายได้

จากการปรับลดประมาณการกำไรลง เราคิดว่าราคาหุ้น CHG จะเหลือ upside น้อยลงจากที่เราคาดไว้ ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำซื้อ CHG โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF กลางปี 2569F ที่ 1.90 บาท จากเดิมที่ 2.50 บาท (อิงจากราคาเป้าหมายปี 2568F และ TG ที่ 2.0%)

ปัจจัยเสี่ยงCOVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)