วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
Web3: อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ผู้ใช้‘อ่าน เขียน และเป็นเจ้าของ’ได้จริง
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา อินเทอร์เน็ตเปลี่ยนจากห้องสมุดข้อมูลขนาดใหญ่ (Web 1.0) ที่ผู้คนทำได้เพียง “อ่าน” เนื้อหาไปสู่ยุค Web 2.0 ที่ทุกคน “อ่านและเขียน” ได้จริงผ่านโซเชียลมีเดียและแอปมือถือ --- แต่ปัญหาที่ซ่อนอยู่คืออำนาจในการควบคุมข้อมูลกลับรวมศูนย์อยู่ในมือบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, YouTube หรือ
TikTok คือเจ้าของข้อมูลตัวตนของเรา รายได้จากคอนเทนต์ของผู้ใช้ไหลกลับสู่บริษัท ไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์
นี่คือรากของปัญหา Centralization ซึ่ง Web3 ตั้งใจจะเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ทั้งหมด ---จากอินเทอร์เน็ตที่บริษัทถือครอง สู่ อินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ “เป็นเจ้าของ”
ลองจินตนาการดูว่า ทุกสิ่งที่คุณทำบนโลกออนไลน์ ---โพสต์รูปบนโซเชียล ซื้อของผ่านแอป หรือเก็บไฟล์ในคลาวด์ วันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจ “เป็นของคุณจริง ๆ” ไม่ใช่ของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ที่เก็บข้อมูลและกำหนดกติกาทั้งหมด นี่คือแนวคิดของ Web3 อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ไม่ได้มีไว้เพียงให้เรา “ใช้” แต่ให้เรา “เป็นเจ้าของ”
Web3 กับ Crypto --- เมื่ออำนาจบนโลกดิจิทัลเปลี่ยนมือ
Web3 สร้างบนแนวคิดง่าย ๆ แต่ทรงพลัง คือ “การกระจายอำนาจ” (Decentralization)แทนที่ทุกอย่างจะอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเดียว ระบบจะกระจายอยู่บนเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่ช่วยกันตรวจสอบข้อมูลจึงไม่มีใครปิดกั้นหรือแก้ไขข้อมูลได้ตามใจ หัวใจของระบบนี้คือ บล็อกเชน (Blockchain)—เหมือนสมุดบันทึกกลางของโลกที่ทุกคนมองเห็นและเขียนได้ แต่ไม่มีใครลบของคนอื่นได้ และอีกส่วนคือคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ซึ่งเป็น “เหรียญรางวัล”หรือแรงจูงใจให้ผู้คนช่วยกันดูแลระบบนี้ให้ปลอดภัยและยั่งยืน
พูดง่ายๆ คือ บล็อกเชน คือ “ถนน” ส่วน คริปโต คือ “พลังงานที่ทำให้รถบนถนนวิ่งได้” –ทั้งสองอย่างต้องทำงานร่วมกัน ตัวอย่างในชีวิตประจำวันของ Web3 เริ่มเกิดขึ้นแล้ว เราอาจเล่นเกมที่ของในเกม (ดาบ
บ้าน ตัวละคร) เป็นของเราจริง ๆ สามารถนำไปขายได้เพราะถูกบันทึกไว้บนบล็อกเชน ศิลปินสามารถขายผลงานดิจิทัลของตนเป็น NFT โดยไม่ต้องผ่านค่าย หรือแม้แต่โพสต์บนโซเชียล ที่เจ้าของโพสต์เป็นผู้ได้รับรางวัลจากยอดวิว ไม่ใช่แพลตฟอร์ม
ปี 2025 แนวคิดนี้เริ่มจับต้องได้จริง ด้วยเทคโนโลยี Account Abstraction (ERC-4337) ของ Ethereum
ที่ทำให้กระเป๋าเงินดิจิทัลใช้งานง่ายเหมือน App ทั่วไป สามารถล็อกอิน หรือกู้คืนได้โดยไม่ต้องจำรหัสซับซ้อน
ปัจจุบันมีกระเป๋าแบบนี้มากกว่าหลายแสนใบทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าการเข้าสู่ Web3 ไม่ได้เป็นเรื่องของ
“โปรแกรมเมอร์” อีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของทุกคน
Web3 กับชีวิตประจำวัน – จากโลกออนไลน์ สู่ โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่
ในตอนนี้ Web3 ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดเทคโนโลยี แต่มันเริ่มกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ”
ของโลกใหม่ยุโรปออกกฎหมาย MiCA กำหนดมาตรฐาน Stablecoin และบริการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มชัด ขณะที่ฮ่องกง เปิดทางให้บริษัทคริปโต ที่มีใบอนุญาตเชื่อมต่อกับตลาดโลกได้ เป็นก้าวสำคัญของการนำสินทรัพย์จริง เช่นทองคำ พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ ขึ้นสู่บล็อกเชน กระบวนการนี้เรียกว่า Tokenization หรือ “การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน”
ในชีวิตประจำวัน แนวคิดนี้อาจดูไกล แต่แท้จริงอยู่รอบตัวเราแล้ว:
- วันหนึ่ง “ใบขับขี่ บัตรนักศึกษา หรือโฉนดที่ดิน” อาจอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลของเราอย่างปลอดภัย
- การกู้เงิน หรือโอนทรัพย์สิน อาจทำได้ภายในไม่กี่วินาที โดยไม่ต้องผ่านเอกสารหลายชุด
- หรือแม้แต่การเลือกนโยบายของชุมชนออนไลน์ ผู้ถือโทเคนสามารถ “โหวต”กำหนดทิศทางได้ด้วยตนเอง
ทั้งหมดนี้ ทำให้ Web3 เริ่มหลอมรวมเข้ากับชีวิตจริงอย่างช้า ๆ เหมือนครั้งหนึ่งที่ อินเทอร์เน็ต เปลี่ยนวิธีที่เราซื้อของติดต่อสื่อสาร หรือทำงานแน่นอน เส้นทางนี้ยังมีความท้าทาย ทั้งเรื่องความปลอดภัย ความเข้าใจของผู้ใช้และกติกากำกับดูแล แต่ทิศทางของโลกกำลังชัดเจนว่า “อำนาจบนอินเทอร์เน็ต” กำลังเคลื่อนจากบริษัทสู่ผู้คน
และสำหรับประเทศไทย นี่คือจังหวะสำคัญ — หากเราสามารถพัฒนาโครงสร้าง Stablecoin สินทรัพย์โทเคน และDigital Wallet ที่เชื่อมกับระบบการเงินเดิมได้อย่างปลอดภัย ประเทศไทยอาจกลายเป็น ศูนย์กลาง Web3
แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เชื่อมโลกเก่าและโลกใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัลเข้าด้วยกันได้จริงครับ.
และสำหรับประเทศไทย — นี่คือจังหวะสำคัญ หากเราสามารถพัฒนาโครงสร้าง RWA, Stablecoin และ Walletที่เชื่อมกับระบบการเงินดั้งเดิมได้อย่างปลอดภัย ไทยอาจก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง Web3 แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เชื่อมโลกเก่าเข้ากับโลกใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัลได้จริง
ดร.กร พูนศิริวงศ์

‘นายกฯอนุทิน’ตอบเอง หลังชาวเน็ตโฟกัส‘ซิป’ งานนี้ฮาไม่เบา
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี แปลอักษรถวายความอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก‘อบต.นาฝาย ชัยภูมิ’นำเด็กฝึกทำกระทงใบตอง ลดค่าใช้จ่ายวันลอยกระทง
ส่งผ่าพิสูจน์! 'โลมาลายแถบ'เกยตื้นตาย'ชายหาดบาสัก' พบมีบาดแผลถลอก
ตาดีเกิน! ชาวเน็ตโฟกัส‘นายกฯ’ลอยกระทง พร้อมแซวสนั่นโซเชียลลืม แตก หรือสไตล์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี