วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“ผลงานฟื้นตัวขึ้น”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทไทยออยล์หรือ TOPกำไรสุทธิใน 3Q68 อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท (ฟื้นตัวขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 4.2 พันล้านบาทใน 3Q67, -67% QoQ) ดีกว่า Bloomberg consensus 13% และดีกว่าประมาณการของเรา 15% ส่วนต่างคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 280 ล้านบาท เพราะกำไรจากสต็อกน้ำมันสุทธิสูงกว่าคาดที่ 1.6 พันล้านบาท (เราใช้สมมติฐานที่ 1.3 พันล้านบาท) กำไรสุทธิในงวด 9M68 คิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 1.64 หมื่นล้านบาท
ผลประกอบการ 3Q68 ดีดตัวขึ้น YoY จากขาดทุนสุทธิ แต่กำไรลดลงถึง 67% QoQ ผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้น YoY เป็นเพราะกำไรจากสต็อกน้ำมันสุทธิเพิ่มเป็น 1.6 พันล้านบาท ดีขึ้นจากที่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิก้อนใหญ่ 7.5 พันล้านบาทใน 3Q67 แต่อย่างไรก็ตาม กำไรที่ลดลงอย่างมาก QoQ เป็นเพราะ i) มีการปิดซ่อมบำรุงรอบใหญ่ตามแผนของ Crude Distillation Unit #3 (CDU-3) นาน 30 วันใน 3Q68 และ ii) ไม่มีกำไรพิเศษ 7.1 พันล้านบาทจากการซื้อสินทรัพย์ได้ในราคาถูกเหมือนกับใน 2Q68
ปัจจัยสำคัญที่น่าสนใจ
i) กำไรจากธุรกิจโรงกลั่นเพิ่มขึ้น QoQ เพราะกำไรจากสต็อกน้ำมันสุทธิเพิ่มเป็น 1.6 พันล้านบาท ดีขึ้นจากที่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ 4.7 พันล้านบาทใน 2Q68 แต่ มีการปิดซ่อมบำรุงรอบใหญ่ตามแผนของCrude Distillation Unit #3 (CDU-3) นาน 30 วัน ทำให้อัตราการกลั่นน้ำมันดิบลดลงเป็น 227 KBD (-27% QoQ) ทำให้ market GRM ลดลงเป็น US$3.5/bbl (-33% QoQ)
ii) กำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีลดลง QoQ เพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตของทั้งโรงงาน aromatics และน้ำมันหล่อลื่นลดลง QoQ จาก 75% เป็น 39% และจาก 76% เป็น 54% ตามลำดับ เนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงตามแผนนาน 45 วัน
iii) Chandra Asri (CAP) ซึ่ง TOP ถือหุ้น15% ส่งผลขาดทุนมาที่บริษัท 86 ล้านบาท แย่ลงจากที่ส่งผลกำไรมาที่บริษัท 6.5 พันล้านบาทใน 2Q68 เนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษ 7.1 พันล้านบาทจากการซื้อสินทรัพย์ได้ในราคาถูกเหมือนกับใน 2Q68 หลังจาก Chandra Asri ได้เข้าไปซื้อโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานปิโตรเคมีทั้งหมดของ Shell ในสิงคโปร์
iv) สำหรับรายการพิเศษ บริษัทบันทึกกำไรพิเศษ 1.4 พันล้านบาท จากการซื้อคืนหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ฯ สหรัฐวงเงินต้น 300 ล้านดอลลาร์ฯ ในเดือนกันยายน
v) Accounting GIM รวมเพิ่มถึง 185% QoQ เป็น US$7.4/bbl แต่หากตัดกำไร/ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน และกำไร/ขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันออกไป market GIM ของ TOP จะลดลง 26% QoQ เป็น US$5.2/bbl
เรายังคงคำแนะนำซื้อ TOP โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2569F ที่ 41.00 บาท จากประเด็นความกังวลเกี่ยวกับ ESG เรายังคงเลือก TOP เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากคาดว่าค่าการกลั่นจะแข็งแกร่งขึ้นช่วง 4Q68F-1Q69F เพราะได้แรงหนุนจาก อุปสงค์น้ำมันดีเซลที่สูงตามฤดูกาลในช่วงหน้าหนาว และ การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในประเทศสองแห่งตามแผนในช่วงดังกล่าว
ปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ,GRM และ spread ปิโตรเคมี
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)

‘รมว.ศธ.’ห่วงใยสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ กำชับเฝ้าระวัง 24 ชม. ดูแลครู-นักเรียนใกล้ชิด
นายกฯเตรียมลงพื้นที่ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี ให้กำลังใจกำลังพลพรุ่งนี้
'สส.ท็อป-สส.ยอร์ช'มอบถุงยังชีพ อธิบายเส้นทางน้ำจาก'เหนือ'ออก'อ่าวไทย'
'อนุทิน'ลั่น! เนรเทศด่วน ผู้ลักลอบเข้าเมือง ย้ำชัด'ไทยไม่ใช่พื้นที่พักพิงอาชญากรข้ามชาติ'
เรื่องราว‘ทีมหมอนทอง’ โมเดล-ต่อยอด สร้างความสมัครสมานสามัคคี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี