ชื่อ ร.ศ.๒๓๔ คือรัตนโกสินทร์ศก อันเป็นเริ่มนับตั้งแต่ปีที่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นปีแรก ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2558 ปีที่แล้วนั่นเอง เป็นปีที่กรุงเทพฯ มีร้านดีๆ เพิ่มขึ้นมาอีกร้านหนึ่ง ชื่อร้าน ร.ศ.๒๓๔ สื่อความหมายถึงความเก่าแก่ที่แฝงอยู่ในยุคปีปัจจุบัน เกิดจากการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อเนื่องมาถึงสมัยรัชกาลที่ 6 อันเป็นช่วงที่วัฒนธรรมยุโรปเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยอย่างมาก เป็นรอยต่อความรุ่งเรืองของรัตนโกสินทร์ซึ่งได้รับอิทธิพลจากยุโรปสอดแทรกอยู่ในทุกอณู สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่สถาปัตยกรรมภายนอก และนานาสรรพสิ่งที่อยู่ในร้าน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่ง กรอบรูปต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นของเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีทั้งสิ้น (บางชิ้นร่วมสองร้อยปีก็มี)

“ร.ศ.๒๓๔” (R.E.234) “Restaurant & Tea Room” ปรับปรุงบ้านหลังเก่าให้มีความเป็นอมตะแบบยุโรป ตกแต่งบรรยากาศร้านประหนึ่งกลับสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของไทย มีกลิ่นอายของความเป็นไทยปนกับฝรั่ง เรียกว่าสวยงามจับใจเหมือนย้อนสู่อดีตแบบร่วมสมัย โดยจำลองบรรยากาศของยุคฝรั่งล่าอาณานิคม ในร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณที่เจ้าของร้านสะสมและคัดสรรของเก่าจากยุโรป ทั้ง โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ กรอบรูปหรือภาพเขียน ฯลฯ ช่อไฟกิ่งแก้วเจียระไนบนเพดานสูงเมื่อแสงที่ส่องลงมากระทบพื้นกระเบื้องสีขาวดำช่วยสร้างบรรยากาศสวยงามน่าทึ่ง ภายในมีบริเวณกว้างขวาง โปร่งโล่งด้วยแสงธรรมชาติจากหลังคาใส เสาแบบยุโรปตั้งอยู่เรียงราย ตรงกลาง บาร์หินอ่อนสีขาว เรียบหรูประดับด้วยเหล็กหล่อลวดลายสวยงาม สร้างบรรยากาศแสนจะอบอุ่นชวนหลงใหลของอดีตถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยของตกแต่งล้ำค่า

หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารแล้ว ยังมีวงดนตรีมาเล่นดนตรีแจ๊สให้ฟังในคืนวันศุกร์ และบรรเลงเปียโนในวันเสาร์-อาทิตย์อีกด้วย

ธงช้างเผือกผืนเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประเทศไทยมีการทำสนธิสัญญากับชาติตะวันตกมากขึ้น สยามจำเป็นต้องมีธงชาติใช้ตามธรรมเนียมชาติตะวันตก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ธงพื้นสีแดงมีรูปช้างเผือกเปล่าอยู่ตรงกลางเป็นธงชาติสยาม ติดประดับร้านตรงมุมห้องอาหารหรู

อาหารที่นี่ มีทั้งอาหารไทย อาหารต่างชาติ เครื่องดื่มมีเป็นบาร์ใหญ่ ตั้งตรงกลางร้านกันเลย

ภายในร้านโปร่งโล่งสามารถต้อนรับได้ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง หรือกินเลี้ยง ด้วยเมนูมากมายไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารยุโรปและอาหารไทย ที่สำคัญมีเมนูโบราณสมัยต้นรัตนโกสินทร์ที่ค่อนข้างหาทานยากหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีขนมและเครื่องดื่มทั้งชา กาแฟ ไวน์และค็อกเทลให้เลือกลิ้มลอง โดยอาหารทุกจานทำสดใหม่จานต่อจาน และทำเองแทบทุกอย่างด้วยวัตถุดิบอย่างดี คุณภาพเยี่ยม เพื่อรสชาติที่ดีที่สุดจากฝีมือเชฟระดับโรงแรม

ยำส้มโอ

ยำส้มโอจานนี้ไม่ค่อยเหมือนยำส้มโอตามร้านทั่วไป นอกจากจะเลือกส้มโอหวานแซมเปรี้ยวคลี่กลีบส้มให้กระจายแล้วเคล้ากับน้ำยำซึ่งเป็นส่วนผสมของหัวกะทิปรุงรส โรยหอมเจียว ถั่วลิสงคั่วใหม่บดละเอียดกุ้งชีแฮ้สดลวก รสชาติหอมมันแต่สดชื่นแตกต่างจากร้านอื่นๆ พอประมาณ

ไก่สะเต๊ะ

สะเต๊ะไก่ไม้โตเคี้ยวได้จมเขี้ยวเต็มปากเต็มคำ เลือกเนื้ออกไก่ไม่ติดหนัง หมักข้ามคืนกับกะทิ พิถีพิถันแม้แต่ไม้เสียบไก่น้ำจิ้มปรุงเครื่องเทศหอมละมุนรสกำลังดีไม่หวานจัด

ไข่เจียวทอดกรอบ

การทอดไข่เจียวในโลกนั้นมีวิธีการร้อยพันอย่าง ไข่เจียวของไทยนั้นน่าจะครบเครื่องกว่าใคร ผสมเครื่องเคราต่างๆ นานา บางคนตีไข่กับหอมแดงซอยและพริกทุบ มะเขือเทศเติมใบโหระพาหรือใบกะเพรา บ้างก็ใส่หมูสับ กุ้งสับ ไก่สับไชโป๊สับ ใส่หอยนางรม ที่หรูหน่อยก็เจียวกับเห็ดโคน เห็ดหอม ฯลฯ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช นักปราชญ์ผู้รู้ทุกแขนงศิลปวิทยา แม้แต่เรื่องอาหาร ท่านเคยบอกว่าการเจียวไข่นั้นต้องใช้น้ำมันหมูเท่านั้น

สำหรับไข่เจียวของร้านนี้เรียกว่าไข่เจียวทอดกรอบ โดยใช้ไข่ 3 ฟอง เติมน้ำปลาเล็กน้อยตีให้เข้ากัน ใส่น้ำมันในหม้อเร่งไฟจนน้ำมันเริ่มมีควันจึงใส่ไข่ที่เตรียมไว้ลงทอดอย่างรวดเร็ว จนไข่ฟูกรอบ

ไข่ปูทอด

ไข่ปูทอด เป็นรายการอาหารที่ไม่เคยพบที่ใดมาก่อน เอาไข่ปูล้วนๆ มายีให้ร่วนแล้วทอดพอกรอบ หากชอบเผ็ดตักลูกโดดพริกขี้หนูบุบ กินคู่กับแตงกวาและใบผักชี เผ็ดสะใจ หากจะกินแบบเมี่ยงก็น่าจะเข้ากันดีโดยห่อกับใบผักกาดหอม หรือผักคะน้า

ดอกขจรผัดไข่

ดอกขจร บางแห่งเรียกดอกสลิด เป็นไม้ข้างรั้วยอดอ่อน ดอก ผลอ่อน รับประทานสดหรือลวกให้สุกรับประทานร่วมกับน้ำพริก ดอกนำไปปรุงอาหาร เช่น ผัด แกงจืด แกงส้ม หรือเอามาผัดกับไข่ ใส่ในแกงจืด แกงเลียง แกงส้ม หรือลวกกินกับน้ำพริก มีกลิ่นหอมติดรสขมเล็กน้อย

เป็นรายการอาหารง่ายๆ แต่ทรงคุณค่าทางโภชนาการ ดอกขจรในปริมาณ 100 กรัม มีวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ คือวิตามินเอ มากถึง 3,150 I.U. วิตามินซี 45 มิลลิกรัม แคลเซียม 70 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 90 มิลลิกรัม มีสรรพคุณช่วย บำรุงธาตุ บำรุงตับ ปอด

เนื้อปูก้อนผัดพริกเหลือง

เนื้อปูก้อนผัดพริกเหลือง ที่นี่มีเนื้อปูก้อนตลอดปี เพราะสั่งจากผู้ส่งออกปูรายใหญ่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยรับรองความสดใหม่ เป็นอีกหนึ่งรายการซึ่งเห็นจากสีคิดว่าจะเผ็ดมาก เพราะเห็นพริกเหลืองผัดใส่ถั่วฝักยาว ใบมะกรูดฉีก ได้ความหอมของพริกเหลืองที่มีกลิ่นไม่เหมือนพริกอื่น

แกงรัญจวน

แกงรัญจวน แกงโบราณที่จวนสูญหายไปอีกรายการหนึ่งมีบันทึกไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5 เจ้าของสูตรต้นตำรับคือ หม่อมหลวงเนื่องนิลรัตน์ มีเครื่องปรุงที่สำคัญ อันได้แก่ “น้ำพริกกะปิ”

สมัยโบราณนั้น จะไม่ทิ้งอาหาร (ไม่กินทิ้ง กินขว้าง) น้ำพริกกะปิที่นำมาปรุงแกงรัญจวน ก็ใช้น้ำพริกกะปิถ้วยเก่า ที่เหลือจากการกินในมื้อก่อนๆ โดยส่วนประกอบของสมุนไพรพื้นๆ อันมี ข่า ตะไคร้ซอย ใบมะกรูด ใบโหระพา กระเทียมไทย พริกขี้หนูสวนบุบ มะนาว น้ำตาลปี๊บ

ตามสูตรดั้งเดิมใช้เนื้อวัวติดเอ็น เคี่ยวจนนุ่ม พ่อครัวใหญ่ประจำร้านบอกว่าไม่ได้เนื้อติดเอ็นทั่วไป หากแต่ซื้อเนื้อติดโครงมาทั้งก้อน แล้วบรรจง เลาะเอาเนื้อใต้ชายโครงและร่องชายโครง ที่แม่ค้าเรียกว่า “เนื้อเพีย” นัยว่าเป็นเนื้อติดเอ็นส่วนที่อร่อยที่สุดจากวัวทั้งตัว เคี่ยวจนนุ่มกับ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หั่นพอดีคำ จึงใส่น้ำพริกกะปิและเครื่องปรุงทั้งหลาย ชิมรสชาติที่ถูกใจ จะได้รสประมาณ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด และหวานตาม ข้อสำคัญต้องหอมกะปิ จากนั้นจึงโรยใบโหระพา ตักใส่ถ้วยร้อนๆ หอมรัญจวนใจ

ผัดไทยกุ้งแม่น้ำย่าง

ผัดไทยกุ้งแม่น้ำย่าง ผัดไทยมีขายอยู่ทั่วทุกหัวระแหง มีสูตรการผัดแยกย่อยไปตามภูมิภาคอย่างนับไม่ถ้วน ประการสำคัญหาเจ้าอร่อยได้ไม่มากร้านนัก ที่นี่เป็นอีกร้านที่ผัดได้อร่อย ครบรสเข้ม เปรี้ยว เค็ม หวานชัดเจน เผ็ดเล็กน้อย ใช้เส้นจันท์สด ผัดเส้นไม่แฉะให้รสชาติแทรกซึม เคลือบไข่บางๆ เคียงจานด้วยถั่วงอกเด็ดหัว ผักกุยช่าย ผักชี ถั่วลิสงป่นคั่วใหม่ วางด้วยกุ้งแม่น้ำย่างตัวโตเนื้อแน่นดูมีสกุลรุนชาติ

ทับทิมกรอบ

ทับทิมกรอบ ลงท้ายด้วยของหวานล้างปาก ทับทิมกรอบทำเองสีสวย หอมกลิ่นใบชากุหลาบปลอดสารพิษที่โรยหน้า ใส่น้ำแข็งทุบ หวานเย็นชื่นใจ

ชา นอกจากอาหารแล้ว ที่นี่ยังมีชาให้บริการโดยชาบ่มของที่นี่มีชื่อเดียวกับร้านคือ RE 234 ใช้ชาไทยปลอดสารเคมีจากสวนที่สามพราน นอกจากนั้นยังมี Mariage Freres และ Harney & Sons ส่วนค็อกเทลของที่นี่ก็ใช้ชาเป็นส่วนผสมมี วอดก้า วานิลลา เลมอน ใบไทม์ และชามะลิ ดื่มง่าย กลิ่นไม่แรง ยังมีไวน์แดงและพอร์ตไวน์ผสมกับองุ่น น้ำผลไม้ และผลมะกอกดอง

ร.ศ.๒๓๔

45 สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110

โทร.02-1172829, 095-5063226

เปิดบริการทุกวัน 10.00-23.00 น. (ศุกร์-เสาร์ ถึง 24.00 น.)

หยุดวันพุธ

อีเมล์ : info.re234@gmail.com

www.facebook.com/RE234BKK

IG: re234_BKK

แผนที่โดย มูฮัมหมัด พันธุโพธิ์

ถ่ายภาพ มีรัติ รัตติสุวรรณ