ถ้าใครติดตามคอลัมน์ “ราชดำเนิน อเวนิว” และทำใจให้เป็นกลางจะเห็นว่า คอลัมน์นี้ ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มการเมืองใด และไม่ได้เป็นสาวกของเสื้อสีไหน ใครทำดี เราก็ชื่นชม ให้กำลังใจ ใครทำไม่ดี เราก็ตำหนิวิจารณ์ ทั้งพร้อมจะต่อต้านและต่อสู้
เครื่องมือที่ใช้วัดว่าอะไรคือทำดี อะไรคือทำไม่ดี คือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เครื่องมือนี้ใช้ง่าย เข้าใจง่าย ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน
ในอดีต เราเคยเข้าใจและให้กำลังใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เสียสละกระทำการหลายอย่างในยามที่ชาติบ้านเมืองตกอยู่ในภาวะคับขัน แต่ในระยะหลัง การตัดสินใจเปลี่ยนสถานะจาก “ทหาร” มาเป็น “นักการเมืองที่เคยเป็นทหาร” (คำพูดของพลเอกประยุทธ์เอง) บวกกับพฤติกรรมการเล่นการเมืองแบบน้ำเน่าไม่ต่างจากนักการเมืองเลวที่ตนเองเคยปรามาส ทำให้เราต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์และต่อต้านคัดค้านในพฤติกรรมเหล่านั้นที่พลเอกประยุทธ์กำลังประพฤติปฏิบัติอยู่
ในอดีตอีกเช่นกัน ที่เราเคยตำหนิวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยเฉพาะในกรณี “แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน” แต่ในวันนี้ เมื่อพลเอกประวิตรทำดี เราก็ต้องขอชื่นชม
ชื่นชมที่พลเอกประวิตรออกมาเตือนสตินายทักษิณ ชินวัตร ที่ปลุกระดมผู้คนที่สนับสนุนตนให้ลุกขึ้นมาสู้ อย่ายอมแพ้ เพราะสงครามประชาธิปไตยยังไม่จบ (ทักษิณใช้คำว่า war ยังไม่ end)
พลเอกประวิตรออกมาพูดครั้งนี้ เพราะเห็นว่าไม่มีใครสักคนออกมาเตือนสตินายทักษิณ การพูดของพลเอกประวิตรไม่ใช่การตอบโต้ หรือการขู่ตะคอกในฐานะผู้มีอำนาจ แต่เป็นการ “เตือนในฐานะผู้สูงวัยและผ่านอะไรมามาก”
คำเตือนของพลเอกประวิตรครั้งนี้ กินใจและน่าจะเตือนใจคนไทยได้ทุกคน ไม่เพียงแต่กลุ่มของนายทักษิณ
พลเอกประวิตรเตือนว่า
“อยากให้คนไทยทุกคนไม่ว่าใคร จะพูด จะคิด จะทำอะไร ขอให้คิดถึงประเทศชาติเป็นที่ตั้ง อย่านึกถึงแต่ตนเอง เพราะประเทศชาติไม่มีแพ้ ไม่มีชนะ....
“ใครก็ตามที่พูดอะไรออกมา ต้องรู้จักคิดให้มาก และรับผิดชอบในคำพูดของตนเองบ้างว่า การปลุกให้มีการต่อสู้ คนที่จะได้รับผลกระทบคือใคร ใครต้องเสียชีวิต ใครต้องบาดเจ็บ ใครต้องติดคุก และประเทศชาติจะได้รับผลกระทบอย่างไร”
คำเตือนสติของพลเอกประวิตร ที่ให้นึกถึงประเทศชาติเป็นที่ตั้ง อย่านึกถึงแต่ตนเองนั้น ถูกต้อง เข้าใจง่าย และไม่มีอะไรสลับซับซ้อน
แต่กระนั้นทักษิณกับพรรคพวกของเขา กับขี้ข้าลิ่วล้อของเขา คงไม่สนใจ ไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่ลงทุนบินไปหา ไปเสนอหน้า ไปแสดงความจงรักภักดี
ตราบใดที่ทักษิณยังมีเงิน มีช่องทางกอบโกยโกงกิน มีความอาฆาตมาดร้ายและมีความแค้นฝังหุ่นที่ตนและคนในตระกูลถูกโค่นล้มลงจากบัลลังก์ ทักษิณจะไม่มีวันเลิกราในการคิดแก้แค้นเอาคืน ทั้งที่ชะตากรรมในวันนี้ของตนและคนในตระกูลเกิดจากความประพฤติอันไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติบ้านเมืองของพวกตนเอง
จากปี 2549 ที่ตนเองถูกรัฐประหาร จนถึงปัจจุบันที่ยิ่งลักษณ์น้องสาวต้องหนีคุกตามกันไป ทักษิณไม่เคยหยุดทำร้ายประเทศไทยแม้แต่ปีเดียว
เล่นงานตั้งแต่สถาบันเบื้องสูงลงมาจนถึงศาล ถึงกองทัพ ถึงมวลชนที่เห็นไส้เห็นพุงตน ใช้เงินให้ต่างชาติมาเล่นงานโจมตีประเทศไทย ใช้เงินหล่อเลี้ยงสมุนบริวารให้ออกมาเล่นการเมืองกอบโกยโกงกินผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จนขี้ข้าทั้งหลายเสพติดเงินตรากันงอมแงม บางคนถึงขนาดออกมายอมรับว่าพรรคเพื่อไทยขาดทักษิณไม่ได้
สถานการณ์ของประเทศไทยวันนี้ จึงไม่ใช่ สงครามประชาธิปไตยยังไม่จบ แต่เป็น “สงครามล้างโกงยังไม่จบ”
ปัญหาประเทศไทยไม่มีอะไรมาก ปราบการทุจริตโกงกินให้สิ้นซาก ประเทศชาติก็จะพัฒนาไปได้อีกเยอะ
ทหารที่อยากเล่นการเมือง ลองเก็บเอาไปคิดบ้างก็จะดี
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
สำนักที่ปรึกษาร้อยชักสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี