ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 เป็นต้นมา บ้านเมืองของเราก็เข้าสู่ยุคประชาธิปไตยหลอกๆ เผด็จการจริงๆ ประชาธิปไตยครึ่งใบ เผด็จการค่อนใบเรื่อยมาสลับกันอยู่อย่างนี้ พอจะเป็นประชาธิปไตยหน่อยทหารก็ยึดอำนาจ ยึดอำนาจก็ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จัดการเลือกตั้ง แล้วก็แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ จัดการเลือกตั้ง ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนี้
วันนี้นักการเมืองต่างก็เล่นบทเดิมคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญอีกแล้ว
เราเป็นประเทศที่ใช้รัฐธรรมนูญค่อนข้างจะเปลือง ถึงวันนี้เป็นฉบับที่ 20 แล้ว
เชื่อเถอะว่าจะต้องมีฉบับที่ 21 22 23 อีกอย่างแน่นอน ในขณะที่บางประเทศ มีรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ต้องเขียนว่ามาตรา 1 มีอะไรมาตรา 2 มีอะไร เขาก็ปกครองกันได้ บริหารกันได้ ซ้ำเป็นต้นแบบของประชาธิปไตยด้วยซ้ำเขาใช้จารีตประเพณี เขาไม่ต้องมานั่งตีความด้วยซ้ำว่า ทำเช่นนี้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ขัด
เพราะนักการเมืองของเขา หน้าไม่ด้าน ใจไม่ดำ
ไม่มีนักการเมืองเลว ไม่มีนักการเมืองชั่วเลยหรือในประเทศเขา ?
สังคมไหนก็มีคนเลว คนชั่ว ปนอยู่ทั้งนั้นแหละครับ แต่นักการเมืองเขาหน้าไม่ด้านพอ พอประชาชนจับได้ไล่ทัน เขาก็เผ่นจากเวทีการเมืองไปแล้วครับไม่หน้าด้านอยู่ หรือถ้าหน้าด้านอยู่ต่อไป ประชาชนเขาก็จะไม่เลือก ประชาชนจะแสดงอาการขยะแขยง ถ่มถุยให้เห็นจนเขาอยู่ในเวทีการเมืองไม่ได้
ต่างจากบ้านเรามันจะชั่วจะบัดซบอย่างไร มีเงินจ้างสื่อ จ้างนักวิชาการ จ้างนักเคลื่อนไหว จ้างนักการเมืองชั่วมาเป็นลูกกระเป๋งให้จัดมวลชนมาโฆษณาประชาสัมพันธ์ มันก็กลายเป็นคนดีในสายตาบางคนได้
การเมืองเราจึงย่ำอยู่กับที่ หนีไม่พ้นวงจรอุบาทก์อยู่อย่างนี้
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด เป็นกฎ กติกาในการบริหารประเทศ
แต่ในความเป็นจริง รัฐธรรมนูญของเราเป็นกฎ กติกาในการที่จะเข้ามามีอำนาจรัฐ หรือมาเป็นรัฐบาลรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขียนขึ้นมาเพื่อให้ พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงให้มีวุฒิสมาชิก 250ที่พลเอกประยุทธ์มีอำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเลือกเฟ้นคนที่จะเป็นวุฒิสมาชิกให้มายกมือเลือกพลเอกประยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
นี่เป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญที่หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆต้องการที่จะแก้ไข
แก้ไขเพื่อให้โอกาสตัวเองที่เป็นหัวหน้าพรรคจะได้มามีอำนาจรัฐกะเขาบ้าง มาเป็นนายกรัฐมนตรีกะเขาบ้าง
เกี่ยวข้องกับประชาชนไหม ?
ก็มีส่วนเกี่ยวอยู่บ้าง ตรงที่ ถ้าได้รัฐบาลที่มีความรู้ มีความสามารถ แก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองได้ ได้รัฐบาลที่ซื่อสัตย์สุจริต ประชาชนก็ได้ประโยชน์ ประเทศชาติก็จะเจริญรุ่งเรืองได้
จะแก้รัฐธรรมนูญได้ไหม ? ยาก ถึงยากมากๆ เพราะเขาเขียนมาให้แก้ยาก
เริ่มขบวนการแก้ก็เห็นกันแล้ว ฝ่ายรัฐบาลเอง ก็เริ่มเห็นไม่เหมือนกันแล้วจะเอาใครเป็นประธานกรรมาธิการ ฝ่ายค้านก็มีคนเก่งของฝ่ายค้านทั้งที่ในความเป็นจริง คณะกรรมาธิการชุดต่างๆนั้น เขามากันตามสัดส่วนของพรรคการเมืองอยู่แล้ว
ยังมีปราการที่สำคัญคือวุฒิสมาชิก อีกเล่าถ้าวุฒิสภาไม่เอาด้วยก็จบ
ทุกวันนี้ยังไม่ได้ยินวุฒิสมาชิกออกมาพูดว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขสักราย
มีที่พูดก็แต่ยังไม่เห็นข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญบ้าง พวกอยากแก้เป็นพวกกระสันอำนาจบ้าง
งานนี้หนักจริงๆครับ
เว้นแต่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้วุฒิสภาได้เห็นว่า เป็นความเรียกร้องต้องการของ ประชาชน ผ่านตัวแทน คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกพรรค ทุกฝ่ายทำให้วุฒิสภาเกรงใจ เห็นอกเห็นใจ
แต่สภาผู้แทนราษฎร จะทำได้หรือ ?
แค่ กรรมาธิการบางชุด บางคณะ ยังทำตัวเป็นเด็ก ประธานกรรมาธิการเชิญนายกมาชี้แจง กูก็จะส่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ทำตัวเป็นไม้กันหมาให้นายก มาเป็นกรรมาธิการ เพื่อให้มันสะใจ แทนที่จะคิดถึงประโยชน์ที่จะได้กับชาติบ้านเมือง
สื่อทั้งหลายที่มันควรที่จะท้วงติง มันก็เสนอข่าวด้วยความสะใจในความมันส์ไปด้วย
บ้านเมืองเรามันเป็นอย่างนี้ไปแล้ว !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี