ความจริงวันนี้ !
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไม่นาน กกต. ก็มีมติ 5 ต่อ 2 ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่กู้เงินนายธนาธร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค 191 ล้านบาท
นี่เป็นการทำตามใบสั่งหรือไม่ ต้องการบดขยี้พรรคอนาคตใหม่ ไม่ให้ผุดให้เกิดหรือไม่ ?
การเลือกตั้งทั่วไปแต่ละครั้งมีพรรคการเมืองใหม่ๆเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดนับได้เป็นร้อยพรรค แต่ที่มีเด่นๆ ก็
พรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคการเมืองของนักการเมืองรุ่นใหม่ หน้าใหม่ เหมือนปรากฏการณ์ที่เคยเกิด พรรคพลังใหม่ ของ กลุ่มนักเรียนนอก อย่าง อาทิตย์ อุไรรัตน์ ปราโมทย์ นาครทรรพ หรือพรรสังคมนิยม ที่มี บุญสนอง บุณโยทยาน ไขแสง สุกใส หรือพรรคพลังธรรม ที่มี จำลอง ศรีเมือง เป็นหัวหน้าพรรค
พรรคอนาคตใหม่โดดเด่น เนื่องจากเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ที่เสนอแนวทาง แนวคิดใหม่ ต่อสู้ตรงๆกับ คสช. ที่แปรสภาพมาเป็นรัฐบาล
พรรคอนาคตใหม่ ได้ใจคนรุ่นใหม่ ที่เบื่อรัฐบาล คสช. มาเป็นเวลา 5 ปี และมีท่าทีว่าจะอยู่ยาวต่อไป
และที่เด่นก็คือ เสนอยกเลิกเกณฑ์ทหารยกเลิกขนบธรรมเนียมโบราณเก่าๆ
พรรคอนาคตใหม่ มีหัวหน้าพรรคที่มีเงิน เป็นอัครมหาเศรษฐี การร่วมกิจกรรมกับประชาชนจึงสะดวก ไม่ติดขัด
ผลการเลือกตั้ง พรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนเป็นอันดับ 3 เหนือกว่า พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย
ความเด่นของพรรคอนาคตใหม่อีกอ่างคือนอกจากหัวหน้าพรรค เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนมีสตางค์ แล้ว ยังมีเลขาธิการพรรคที่เป็นนักกฎหมาย เป็นอดตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
แต่ความรู้ที่เยี่ยมยอดด้านกฎหมายของอดีตอาจารย์สอนวิชากฎหมาย ทำให้หัวหน้าพรรค และพรรคอนาคตใหม่ เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายอยู่เสมอ เป็นต้น การพ้นจากสมาชิกภาพของนายธนาธร เนื่องจากนายธนาธรถือหุ้นสื่อ บริษัทวีลัค อยู่ระหว่างที่สมัครรับเลือกตั้ง
นายปิยบุตรบอกขายไปแล้วก่อนยื่นใบสมัคร แต่หลักฐานที่ส่งให้ กกต. คือใบผ่านทางด่วนที่มาจากอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
หลักฐานที่ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญดู คือหลักฐานจากกระทรวงพาณิชย์
ครั้งล่าสุด กกต. สนอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่เพราะ พรรคอนาคตใหม่ยืมเงินนายธนาธร หัวหน้าพรรค กกต. 5 เสียงเห็นว่าผิด อีก 2 เสียงเห็นว่าทำได้
ถามว่ามีใบสั่งหรือไม่ ?
ก็ต้องย้อนถามไปว่า ใครสั่งใคร การที่นายธนาธรต้องพ้นจากสมาชิกภาพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น เพราะ ทั้ง กกต. และ ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า นายธนาธรถือหุ้นสื่ออยู่ระหว่างที่สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายห้ามไว้
ไม่มีใครจะไปมีอำนาจสั่ง กกต. ได้
ไม่มีใครจะไปมีอำนาจเหนือศาลรัฐธรรมนูญได้
เรื่องที่นายธนาธรให้พรรคยืมเงินนี้ก็เช่นเดียวกัน
ข้อเท็จจริงก็คือ พรรคอนาคตใหม่ยืมเงินนายธนาธร 191 ล้านจริง ข้อเท็จจริงนี้จากปากของนายธนาธร เอง จากปาก โฆษกพรรคเอง
ปัญหามีอยู่ว่า การให้พรรคยืมเงิน หรือพรรคการเมืองยืมเงินมาทำกิจกรรมของพรรคได้หรือไม่ได้
อดีตอาจารย์วิชากฎหมาย ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค บอกว่า ยืมได้ ไม่ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนห้ามเอาไว้
นักกฎหมายอีกฝ่ายรวมทั้ง กกต เสียงข้างมากเห็นว่า พรรคการเมืองยืมเงินมาทำกิจกรรมเกิน 10 ล้านบาทไม่ได้ (จะเลี่ยงไปว่าเป็นเงินบริจาค ก็ไม่ได้)
นี่เป็นปัญหาที่นักกฎหมายเถียงกันอยู่ในขณะนี้
บางเสียงแตกออกไปอีกว่า การกู้เงินของพรรรคการเมือง ความผิดไม่ใช่การยุบพรรค ความผิดอยู่ที่กรรมการบริหารพรรค ต้องลงโทษกรรมการบริหารพรรค
ไม่ใช่ลงโทษด้วยการยุบพรรค
เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้พิจารณา จะออกมาทางใดไม่มีใครทราบได้
แต่ระหว่างที่ รอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ถ้าพรรคอนาคตใหม่เห็นว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กลั่นแกล้งพรรคอนาคตใหม่ พรรคอนาคตใหม่ซึ่งมี เลขาธิการพรรคเป็นเลิศทางกฎหมาย ก็สมควรดำเนินการตามกฎหมาย ยื่นฟ้องต่อศาลสถิตยุติธรรมว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบด้วยกฎหมาย (อย่างที่ออกมาแถลงในตอนหลัง) มิใช่เอะอะโวยวาย แล้วนำประชาชนลงมาประท้วงตามท้องถนน
กกต. ไม่กี่คน ศาล รัฐธรรมนูญไม่กี่คน สั่งให้คนที่ได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชนเป็นหมื่นเป็นแสนพ้นจาก ส.ส. ถูกหรือไม่ ?
นี่เป็นคำถามที่ไม่เข้าท่า กกต. ก็ทำหน้าที่ของ กกต. ศาลก็หน้าที่ของศาล ประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งก็ทำหน้าที่ออกเสียงเลือกตั้ง ไม่กี่ยวข้องกัน
เช่นเดียวกับสมาชิกพรรค 200/300 คน ไล่สมาชิกพรรคให้พ้นออกจากพรรค โดยที่สมาชิกพรรคนั้นอาจจะได้รับเลือกตั้งมาเป็นหมื่นได้แสนๆเสียงก็ย่อมทำได้ ตามกฎ ตามระเบียบของพรรค
เอามาปนเปกันไม่ได้ คนละเรื่องคนละเหตุผล
นักกฎหมายพรรคเพื่อไทยกพร้อมช่วยพรรคอนาคตใหม่ ?
ก็ต้องนับว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคการเมืองร่วมมือกัน เอื้ออาทรกัน
แต่ต้องไม่ลืมว่า “ข้อเท็จจริงชัดเจน ทีมทนายเก่งแค่ไหนก็ยาก วิธีคิดของนักกฎหมายจากพรรคเพื่อไทยเช่นนี้ดูถูกดูแคลนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอดีตผู้พิพากษาที่ทำหน้าที่ กกต. มากไปหรือเปล่า ถ้าข้อกฎหมายผิดยากที่จะรอด” (มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าว)
นักกฎหมายพรรคเพื่อไทย ลืมหรือเปล่าว่าพรรคเดิมๆเคยถูกยุบ สมาชิกพรรคหลายคนติดคุกติดตะรางอยู่ก็มี พ้นออกมาแล้วก็มี และกำลังจะเข้าไปอีกก็มี หนีคุกอยู่ก็เยอะ
นี่คือข้อเท็จจริง !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี