ผู้คนในพื้นที่ภาคอีสานมีวิถีชีวิตผูกติดกับทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย จึงมีรูปแบบการจัดการอาหารของแต่ละชุมชนแตกต่างและมีจำนวนมากมายกว่าภูมิภาคอื่น แต่เดิมในช่วงที่ทรัพยากรธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์มาก ในแต่ละวัน ชาวบ้านนิยมหาอาหารเท่าที่จำเป็นจะบริโภค เช่น การหาปลาจากแม่น้ำ ถ้าวันใดจับได้มากก็นำมาแปรรูปเป็นปลาแดกหรือปลาร้า ปลาแห้ง ปลาเค็ม น้ำปลา (น้ำที่เกิดจากน้ำของปลาแดก) ส่งผลให้ชาวบ้านไม่ค่อยพึ่งพาอาหารนอกบ้าน สวนหลังบ้านมีบทบาทสำคัญในฐานะเป็นแหล่งอาหารประจำครัวเรือนแต่ละบ้านจะปลูกทุกอย่างที่กินได้ ชาวบ้านมีคติเกี่ยวกับการผลิตอาหาร คือเพียงผลิตให้เพียงพอต่อการบริโภค ถ้ามีเหลือก็แบ่งปันให้ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านและทำบุญ
ในประเทศไทย จะเห็นร้านอาหารอีสานอยู่ทั่วทุกหัวระแหง จากภาคเหนือจรดใต้สุด โดยมิพักต้องกล่าวถึงภาคอีสานทั้งภาคอันเป็นเจ้าตำรับสืบทอดมานมนาน กระทั่งในตรอกซอกซอยขอเพียงรถเข็นเข้าได้ก็สามารถเป็นภัตตาคารก้นซอยที่แสนจะเป็นกันเอง ตรงกับจริตของชาวเราที่นิยมอาหารรสจัดร้อนแรง มีผักสดตามฤดูช่วยแก้เผ็ด อันฝรั่งถือว่าเป็นสลัดผักเรียกน้ำย่อย และที่ควบคู่กันมาย่อมไม่พ้นจะเป็นปิ้งไก่ (ไก่ย่าง) ที่แตกต่างวิธีการย่างตามสูตรของจังหวัดตน ลำพังในภาคอีสานเองก็มีไก่ย่างที่โด่งดังคือไก่ย่างวิเชียรบุรี ไก่ย่างเขาสวนกวาง ไก่ย่างไม้มะดันห้วยทับทัน รวมทั้งไก่ท่าช้างและไก่จักรราช จากบุรีรัมย์ ไก่ย่างจากอุบลราชธานี ฯลฯ
ยังมีรายการอาหารอื่นๆ อาทิ ตำหมากหุ่ง หรือส้มตำ น้ำตก ลาบ ก้อย อ่อม คอหมูย่าง แกงหน่อไม้ ซุบหน่อไม้ เสือร้องไห้ ซิ้นแห้ง (เนื้อแดดเดียว) ต้มแซ่บ ไส้กรอกอีสาน ตับหวาน ลวกจิ้มแจ่ว ปลาแดกบอง (น้ำพริกปลาร้า) ตับหวาน เขียบหมู (แคบหมู) เข้าปุ้น (ขนมจีน) แจ่วฮ้อน (จิ้มจุ่ม) เป็นต้น
เท่าที่จำความได้ ราว 40 -50 ปีก่อน อาหารอีสานในกรุงเทพฯ จะหากินค่อนข้างยากชนิดนับร้านได้ สมัยก่อนร้านอาหารอีสาน กลุ่มใหญ่ที่สุดชุมนุมอยู่ที่ซอยมหาดเล็ก 3 ถนนราชดำริ ต้องเดินข้ามสะพานไม้เล็กๆ ร้านอยู่ใต้ถุนบ้าน มีไก่ย่างแบบแห้งๆ มีลาบเนื้อ เสือร้องไห้ ซุปหน่อไม้ ส้มตำ มีต้มแซ่บของวัวชาที่ขึ้นชื่อมาก
มีอีกร้านหนึ่งในซอยข้างวัดปทุมวนารามฯ ริมคลองระบายน้ำ หลังเซ็นทรัลเวิลด์ในปัจจุบัน ร้านนี้ชำนาญปิ้งปลา ย่างไก่ได้ฝีมือดี
ในซอยข้างอุเทนถวายมีเพิงแคบตั้งโต๊ะได้ไม่มาก ฝีมือเด็ดดวง เป็นที่นิยมของนิสิตจุฬาฯ กับนักศึกษาอุเทนถวาย ต่างคนต่างกินไม่เคยมีเรื่องตีรันฟันแทง ร้านนี้อร่อยราคาไม่แพง จึงมีคนมาอุดหนุนอุ่นหนาฝาคั่งตลอดเวลา
อีกด้านหนึ่งที่ริมถนนฝั่งตรงกันข้ามกับบ้านมนังคศิลา ห้องแถวไม้เรียงรายเป็นร้านที่มีสารถีรถสามล้อมาพักกินกันหนาแน่น
รอบสนามมวยราชดำเนินก็เป็นอีกแหล่งที่ร้านอาหารคึกคัก สำหรับผู้มาเชียร์มวยกับนักพนันมวย
ช่วงผู้เขียนอยู่ในวัยรุ่นเริ่มมีไก่ย่างอีสานบุกกรุงเทพฯ อย่างไม่หนาตาในยุคแรกๆ ก่อนที่จะบุกรุกเต็มบ้านเต็มเมืองดังในปัจจุบัน ต่อมาได้เห็นร้านน้อมจิตต์ไก่ย่าง อาหารอีสานที่ตั้งร้านเป็นเรื่องเป็นราวที่ถนนเอกมัย (อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านในปัจจุบัน)
บริเวณร้านโปร่งกว้างขวาง สะอาดสอ้านเป็นระเบียบ พนักงานบริการกระฉับกระเฉงดี ด้านรายการอาหารมีประมาณ 50 รายการ คัดเลือกมาที่ไม่ได้โลดโผนโจนทะยานชนิดที่คนชาวกรุงไม่กล้ากิน ดังจะยกตัวอย่างอาหารบางรายการที่สะดวกสำหรับห่อใส่ถุงไปกินที่บ้านเนื่องจากอยู่ในยุคของไวรัสระบาดโควิด-19
ส้มตำ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ของอาหารอีสาน คือส้มตำ เทียบได้กับสลัดของฝรั่ง ส้มตำทุกอย่างของที่นี่ทุกชนิดรสพอดีกิน ไม่ได้เผ็ดโลดโผนหรือรสจัดจนคอแห้ง ตำไทย ตำปู ตำปลาร้า ตำแตงกวา ตำมะม่วง ตำถั่วฝักยาว ตำกุ้งสด ตำไทยแครอท ซุบหน่อไม้ ให้เลือกตามอัธยาศัย
ไก่ย่าง
มีให้เลือกชนิดไก่บ้านและไก่เนื้อ ย่างสุกพอดีกินไม่แห้งจนเกินไป กลิ่นไก่หอมรวยรินจากควันเตาถ่าน สมกับที่เจ้าของร้านให้เป็นคำหน้าชื่อ ให้คะแนนเต็มเพราะไม่มีที่ติ
ย่างบนเตาถ่าน
ปีกไก่ทอด
ยังมีน่องไก่ทอด ปีกไก่ทอดที่ทอดได้แห้งรูดเนื้อไก่กินอร่อย เป็นส่วนที่บางคนโปรดปรานการแทะ
ไส้กรอกอีสาน
ไส้กรอกหมูรสเค็มแซมเปรี้ยวไม่มาก ทอดสะเด็ดน้ำมันจนแห้ง เข้ากันได้ดีถ้าแนมขมิ้นขาว และนานาผัก
เนื้อน้ำตก
แปลกใจเมื่อเข้าปากคำแรกที่สัมผัสคุณภาพความนุ่มละไมของเนื้อที่ดีกว่าร้านสเต็กอีกหลายร้านที่มีราคาชิ้นละแพงๆ เมื่อปรุงเป็นน้ำตกเคี้ยวได้ง่ายแม้แต่คนแก่ที่ฟันฟางไม่ค่อยดี
ลาบหมู
เนื้อหมูสับหยาบ เลือกหมูส่วนสันนอกแทบไม่ติดมัน ทุกคนย่อมเคยกินลาบมาก่อน แต่ลาบของที่นี่รสกำลังกินอย่างไม่ต้องตะขิดตะขวง
ลาบปลาดุก
เนื้อปลาดุกย่างยีหยาบๆ คลุกเคล้าเครื่องลาบ ผู้ที่กลัวความมันมักชื่นชอบ
เสือร้องไห้
ชิมเนื้อน้ำตกแล้วติดใจคุณภาพของเนื้อระดับที่เอาไปทำสเต็กได้สบายจึงลองสั่งเสือร้องไห้ ซึ่งไม่ทำให้ผิดหวังเลย ไม่แพ้เนื้อสันนอกวัวหรือทีโบน กระทั่งเนื้อโทมาฮ็อกไม่ได้เหนือกว่ากันกี่มากน้อย แต่ราคาต่างกันสุดกู่
ต้มแซ่บไก่ไข่อ่อน
เป็นต้มแซ่บไก่ที่แทบไม่เห็นเนื้อไก่ มีแต่เห็ดฟางกับไข่อ่อนไก่ลอยฟ่อง เป็นต้มแซ่บที่ใส่ใบมะขามอ่อน เห็นจากรูปหนใดมีอันน้ำลายสอทุกที
ในช่วงนี้ที่โควิด-19 ระบาด อาหารอีสานเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใส่กล่องใส่ถุงไปกินกันในครอบครัว โดยที่รสชาติของอาหารไม่ค่อยเพี้ยนเหมือนอาหารประเภทเส้น พืชผักสมุนไพรที่อยู่ในส่วนประกอบเหมาะกับสถานการณ์ บางคนเชื่อว่าช่วยรักษาโควิค-19 ด้วยซ้ำไป
ไก่ย่างน้อมจิตต์ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ที่ตั้งในตำแหน่งปัจจุบันค่อนข้างจะหาที่จอดรถยาก จึงขยายไปเปิดอีกร้านที่ถนนศรีนครินทร์ ซึ่งสร้างใหม่ใหญ่กว่าเดิม ทันสมัย มีที่จอดรถได้ง่าย ส่วนร้านเดิมที่เอกมัยเปลี่ยนเป็นเพียงร้านสาขา สรุปแล้วกิจการเติบโตได้ดีเพราะรสชาติอาหารที่สม่ำเสมอ สะอาด บริการดี
น้อมจิตต์ไก่ย่าง ศรีนครินทร์
ตรงข้ามศรีนครินทร์ ซอย 24
โทร: 02-7205071-2 092-3478418
น้อมจิตต์ไก่ย่าง สาขาเอกมัย
334 ซอยสุขุมวิท 63 (ปากซอยเอกมัย 18) คลองตันเหนือ กรุงเทพมหานคร 10110
โทร: 02-392-4019 02-392-1800
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี