ตอนนี้สถานการณ์การระบาดในอเมริกาน่ากลัวมาก ยอดป่วยสะสมพุ่งไปสามล้านสี่แสนกว่าราย ตายไปหนึ่งแสนสามหมื่นกว่าๆ รัฐที่เคยเป็นเขตระบาดอย่างนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีก็เริ่มซาๆ ลง แต่กลับกลายเป็นว่ารัฐที่อยู่ทางใต้ กลายเป็นเขตระบาดแทบทุกรัฐ ก่อนหน้านี้มีการคาดเดาตามหลักสถิติกันว่า จุดพีคสุดจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน ตอนนั้นยอดป่วยรายวันอยู่ที่สามหมื่นกว่าๆ ชาวโลกก็ตบอกผางกันแล้ว
มีคนถามว่าอเมริกาเข้าสู่การระบาดรอบสองหรือยัง ผู้เขียนบอกตรงๆ ว่าไม่รู้จริงๆ เพราะรอบแรกยังหนักหนาสาหัส ไม่เคยมีช่วงไหนที่เบาบางลงเลย ดูจากยอดป่วยรายวันแล้ว อาจจะเข้าสู่ระลอกสองแล้วก็ได้ เพราะแต่ก่อนยอดป่วยรายวันคือสามหมื่นกว่าๆ ตอนนี้พุ่งไปวันละเจ็ดหมื่นกว่า อเมริกาเลยครองความเป็นเจ้าโรคมาต่อเนื่องยาวนาน และคงกลัวบราซิลแย่งตำแหน่ง เลยรีบป่วยรีบตายกันเกลื่อนประเทศ ไม่ยอมให้ใครแซง
ตอนนี้อันดับหนึ่งถึงห้าคือ รัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย ฟลอริด้า เท็กซัส และนิวเจอร์ซี่ ที่น่าห่วงมากคือฟลอริด้าและเท็กซัส แต่ละวันยอดป่วยพุ่งไปวันละหมื่นกว่าทั้งสองรัฐ เล่นเอาคนไทยในสองรัฐนี้หายใจไม่ทั่วท้อง ที่ต้องจับตามองคือรัฐทางใต้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แอริโซน่า จอร์เจีย หลุยส์เซียน่า นอร์ธแคโรไลน่า เวอร์จิเนีย เทนเนสซี่ เซาธ์แคโรไลน่า และแอละบาม่านี่ป่วยกันงอมแงม
อาทิตย์นี้มีเรื่องที่ชาวโลกทำตาปริบๆ เมื่อฟังเรื่องจบ ชาววัยสามสิบคนหนึ่งคิดว่าเรื่องโควิด 19 เป็นแค่ข่าวลือ พอมีปาร์ตี้ที่เชิญคนป่วยโควิดมาร่วม เลยไปร่วมงาน เพราะมีเงื่อนไขว่า ใครป่วยเป็นโควิดจากงานปาร์ตี้ จะได้เงินที่ลงขันกัน สุดท้ายแทนที่จะได้เงิน ก็ป่วยจนเสียชีวิตในที่สุด
เล่ามายืดยาวนี่เพราะจะเล่าประสบการณ์ที่ตนเองเพิ่งเจอมา เมืองที่ผู้เขียนอยู่นั้นเป็นเมืองเล็กๆ แต่มีการระบาดสูงมาก จำได้ว่าผู้เขียนพยายามหาซื้อหน้ากากอนามัยตั้งแต่ช่วงระบาดในอู่ฮั่น ก็หาไม่ได้เลย แถมข้าวสารก็ขาดตลาดอีกด้วยช่วงนั้น ในยามยาก มีเพื่อนคนไทยในเฟซบุ้คถามไถ่มาว่าขาดเหลืออะไรบ้าง พอรู้ว่าขาดข้าวก็ส่งมาให้เป็นกระสอบ ด้วยความห่วงใยในฐานะคนไทยด้วยกัน
บางรัฐที่ไม่ใช่เขตระบาด ยังพอหาสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในการป้องกันตัวได้ นั่นคือ เจลล้างมือ ทิชชูเปียกแบบฆ่าเชื้อโรค 99.9 เปอร์เซนต์ และสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคแบบฆ่าเชื้อได้ 99.9 เปอร์เซนต์ รัฐของผู้เขียนนั้นขาดทุกสิ่งอย่างที่ว่านั่นแหละ
ทีนี้ประเด็นคือ ผู้เขียนเป็นเบาหวานและความดัน อายุก็ไม่ใช่น้อย แถมอวบระยะสุดท้าย ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงอันดับหนึ่ง จึงใช้วิธีอยู่แต่ในบ้าน ทำงานจากบ้าน สั่งซื้ออาหารสดแห้งออนไลน์แล้วขับรถไปเปิดท้ายรับ เดือนละหน
ถุงพลาสติกจะไม่เอาเข้าบ้าน แต่จะยืนเช็ดทุกสิ่งด้วยทิชชชูเปียกฆ่าเชื้อหน้าบ้าน แล้วผึ่งบนโต๊ะในบ้าน ตามวิถีนิวนอร์มอลที่เหนื่อยมาก พัสดุไปรษณีย์จะไม่เอาเข้าบ้าน แต่จะเช็ดด้วยทิชชูเปียกฆ่าเชื้อทีละชิ้น แต่ทั้งทิชชูเปียก น้ำยาฆ่าเชื้อ แอลกฮอล์ และเจลไม่มีขายเลย เพื่อนคนไทยที่อยู่รัฐอื่นจึงอาสาส่งข้าวของที่จำเป็นให้
มีน้องคนหนึ่งที่ผู้เขียนไม่เคยเจอหน้าค่าตากันเลย เมตตาส่งข้าวสาร อาหารแห้ง ทิชชูเปียก น้ำยาฆ่าเชื้อ แม้แต่กระดาษเช็ดก้นมาให้ เพราะรู้ว่าผู้เขียนอยู่ในฐานะลำบาก ที่ต่อให้มีเงินซื้อ ก็ไม่สามารถหาของได้ สั่งได้ แต่ไม่มีของ เลยทำใจทุกหนว่า มีอะไรก็กินก็ใช้อย่างนั้น แต่สามสิ่งในการป้องกันตัวขาดอย่างสิ้นเชิง
น้องคนที่ว่าส่งทิชชูเปียกมาให้หลายหน ผู้เขียนอยู่อเมริกามา 20 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องของหาย ล่าสุดน้องคนนี้ส่งทิชูเปียก 5 กระป๋อง แบบกระป๋องละ 75 แผ่นมาให้ นาทีนี้ทิชชูเปียกหาไม่ได้แทบทุกรัฐ ถือเป็นของหายากและมีค่ามาก พวกกักตุนเอาไปขายตลาดมืดแพงจนขนลุก น้องส่งมาตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน แต่กล่องไปค้างที่ไปรษณีย์เดนเวอร์นานมาก เช็ควันที่ 28 มิถุนายนก็ยังอยู่ที่นั่น ถือว่าผิดปกติ เพราะส่งของข้ามรัฐใช้เวลาแค่ 3-5 วันเท่านั้นเอง
ทั้งผู้เขียนและน้องคนส่งต่างร้อนใจเลยแจ้งตามเรื่อง พอแจ้งไปปุ๊บ กล่องเริ่มเดินทาง จนมาถึงบ้านผู้เขียนวันที่ 7 กค. ซึ่งผู้เขียนนั้นนั่งรอรถไปรษณีย์ทุกวัน จนรู้เวลานำจดหมายมาส่ง พอกล่องมาถึงก็แปลกใจอย่างยิ่ง เพราะสภาพการแพคของไม่เหมือนที่น้องเคยแพค ผิดวิสัยของน้องที่แพคของแน่นหนาและประณีตทุกหน
เมื่อเปิดออกมาถึงกับอึ้ง เพราะข้างในเหลือเพียงทิชชูเปียกกระป๋องเดียวให้ดูต่างหน้า คิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะขโมยเสียเอง จึงเขียนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเฟซบุ้คของตนเอง และมีหลายสื่อนำไปทำข่าวในเวลาต่อมา
ที่แปลกใจมากกว่าเรื่องไปรษณีย์อเมริกันขโมยทิชชูเปียก คือคนไทยในอเมริกาออกมาปกป้องไปรษณีย์ว่า ไปรษณีย์ไม่ขโมยอย่างแน่นอน แล้วกล่าวหาทั้งคนส่งและผู้เขียนว่าสร้างเรื่องขึ้นมาเอง เลยกลายเป็นเรื่องตลกที่ว่า หากไปรษณีย์ไทยขโมย ทุกคนจะรุมด่าไปรษณีย์ไทยอย่างเมามัน แต่ถ้าไปรษณีย์ฝรั่งเป็นโจร คนไทยบางส่วนจะอวยอเมริกันแล้วด่าคนไทยต้นเรื่อง
นาทีนี้หลายคนยังมีตรรกะว่าฝรั่งไม่ชุ่ย..ฝรั่งไม่ชั่ว อเมริกันแสนดีไม่เคยทำตัวต่ำ อเมริกันไม่ขี้ขโมยหรอก..คนไทยบางคนบอกว่าอยู่อเมริกามานาน 30-40 ปี นานกว่าผู้เขียนไม่เคยเจอแบบนี้ แต่อะไรที่ไม่เคยเกิด ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริงไม่เคยเจอปัญหานี้เช่นกัน จนวันนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เรื่องนี้ไม่ใช่แค่สิ่งของที่หายแต่คือไว้เนื้อเชื่อใจทั้งมวลที่เคยมีให้
คนไทยบางคนบอกว่า ตนเองทำงานไปรษณีย์ในอเมริกา ออกมาแบกรับร้อนตัวแทนไปรษณีย์ทั้งอเมริกา ทั้งที่ทุกหน่วยงานทุกแห่งในโลกมีทั้งคนดีคนเลว แม้ว่าจะทำหน้าที่อย่างสุจริต แต่ไม่สามารถรับประกันพฤติกรรมเพื่อนร่วมงานทั้งอเมริกาได้หรอก กลับร้อนตัวอวยฝรั่ง จนไม่แยแสทุกข์ร้อนเพื่อนร่วมแผ่นดินเกิด เพียงเพราะอยากอวยว่าอเมริกาแสนดี แทนที่จะใช้ความเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ถามว่า สามารถช่วยอะไรได้ไหม กลับปกป้องฝรั่งแล้วด่าคนไทยด้วยกัน
ทุกสังคมทุกหน่วยงานทุกองค์กรมีคนดีและคนไม่ดี น่าแปลกใจมากที่คนไทยบางกลุ่มออกรับแทนฝรั่งโดยไม่รู้สึกว่า..นี่คือความทุกข์ของคนไทยคนหนึ่ง ที่ไม่มีทิชชู่เปียกป้องกันตัวในยามวิกฤติเพราะเกิดการสูญหายโดยไปรษณีย์ กลับอวยฝรั่งอย่างนั้นอย่างนี้..
เคยเห็นคลิปที่ฝรั่งอเมริกันนี่แหละขับรถตระเวณไปขโมยพัสดุข้าวของที่วางไว้หน้าบ้าน...ต่อให้ทำงานไปรษณีย์ในอเมริกา ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าไปรษณีย์อเมริกาทุกแห่งเต็มไปด้วยคนดีมีศีลธรรม
หนักกว่านั้นคือน้องคนส่งเขียนเมล์แจ้งไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทางไปรษณีย์ตอบกลับมาว่าไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้ และบอกอีกว่าคงถูกคนอื่นขโมยไป แต่ไม่ใช่ไปรษณีย์แน่นอน โถ..ตอแหลไม่เนียนเลย ถ้ามีคนมาอุ้มกล่องไปจากหน้าบ้านผู้เขียนจริง ขโมยจะเอาไปทั้งกล่อง ไม่ใช่เหลือไว้แค่กระป๋องเดียวแบบนี้
หมดเรื่องไปรษณีย์ขโมยของไปแล้ว มาเจออีกเรื่อง อย่างที่เล่าว่าเจลล้างมือขาดตลาดทุกรัฐ เลยมีเจลล้างมือยี่ห้อแปลกๆ ออกมาวางขายในห้าง ซึ่งของที่ขายในห้างจะมีการรับประกันแล้วว่าได้มาตรฐาน ก่อนหน้านี้เพื่อนคนไทยรัฐอื่นส่งเจลล้างมือมาให้สองขวด ขวดลิตรกับขวดเล็ก วันนี้หน่วยงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคมีรายชื่อว่า ยี่ห้อไหนที่อันตราย เพราะลักลอบใช้เมทิลแอลกฮอลล์มาทำเจล
หวยมาออกที่ผู้เขียนจนได้ เพราะขวดที่เพิ่งใช้หมดไปคือขวดอันตรายนั่นเอง ทั้งที่เขียนข้างขวดว่าทำมาจากเอทิลแอลกฮอล์ แต่กลับใช้เมทิลแอลกฮอล์ทำ ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ เพราะเพิ่งใช้หมดไปหมาดๆ และยังเหลือขนาดขวดลิตรอีกขวดที่จะต้องโยนทิ้งไป
นอกจากยี่ห้อที่ผู้เขียนใช้จนหมดขวดแล้วยังมีอีกหลายยี่ห้อมาก แสดงว่านาทีนี้ไม่เหลือมาตรฐานแบบอเมริกันอีกแล้ว ทั้งที่อเมริกันทุกคนเคยมั่นใจว่า ข้างของสินค้าในห้างคือสินค้าที่ผ่านการรับรองและได้มาตรฐาน ในยามที่เกิดโรคระบาดทำให้ได้เห็นด้านมืดของพลเมืองผู้ศรีวิไล หน้ากากที่สวมใส่กระเทาะหลุดล่อนตกแตกให้ชาวโลกเห็น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี