อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี - ท้าวศรีสุนทร วีรสตรีแห่งเมืองถลาง
ฝ่ายทัพเรือพม่าเลียบฝั่งเข้ามา
ยึดเมืองตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่งตามทาง
แล้วข้ามสู่เกาะ มุ่งเหมาะเมืองถลาง
เคราะห์ดีมีนาง พี่น้องนารี
เจ้าเมืองม้วยมรณ์ ลงไปเสียก่อน
ที่ทัพสาคร ข้ามมาราวี
แต่คุณหญิงจัน ไม่ไพร่ไพรี
นางมุกภคินี อยู่ด้วยช่วยกัน
“สามกรุง”
พังเดือน ลูกทีมเถ่าชิ่วสุทัศน์ คอลัมน์ตู้กับข้าวแห่งแนวหน้าออนไลน์ ชีพจรลงเท้าอีกแล้ว ครั้งนี้ลงใต้ไปจังหวัดภูเก็ตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กลอนข้างบนพังเดือนท่องติดปากมาจากไหนไม่แน่ใจ แต่อ่านแล้วคงเดาไม่ยากว่าจะชวนไปกินไปเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดที่เป็นเกาะเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทย
เบิกโรงด้วย บะหมี่ แป๊ะเถว อยู่แถวหัวมุมถนนดีบุก ตรงข้ามโรงเรียนปลูกปัญญา ร้านเปิด 10 โมงถึงบ่ายแก่ เราไปถึงร้าน 4โมงเย็นแล้ว เรียกว่าเป็นลูกค้าโต๊ะสุดท้ายของวัน บะหมี่เกี๊ยวแห้ง 1 ชาม น้ำ 1 ชาม เหลือบไปเห็นเมนูข้างกำแพงก็สงสัยว่า “ยี่หูเอ่งฉ่าย” คืออะไร เลยสั่งมาลอง ลักษณะเหมือนเกาเหลาเย็นตาโฟแห้ง เน้นปลาหมึก ปรุงรสมากลมกล่อมพอดี ปลาหมึกแช่ก็อร่อย ไม่รู้คิดไปเองไหมว่าอร่อยกว่ากินที่กรุงเทพฯ นอกจากปลาหมึก ยังมีหมูแดง ไข่ต้ม ลูกชิ้นปลา และเส้นหมี่ทอดโรยหน้ามาด้วย ตอนยกมาเสิร์ฟ ป้าคนทำบอกให้ชิมก่อน อย่าเพิ่งปรุง และไม่ต้องปรุงจริงๆ เอาไป 4 ดาวเลย ส่วนบะหมี่ก็จะเป็นเส้นกลมใหญ่กว่าที่เคยกิน เส้นไม่ได้เหนียวนุ่ม แต่อร่อย เกี๊ยวห่อด้วยหมูสับไม่ใช่หมูเด้ง เคยกินผักบุ้งกับปลาหมึกแบบนี้ที่ปีนัง แต่ซอสที่ราดไม่กลมกล่อมเหมือนของบ้านเรา สรุปแล้วชื่อ “ยี่หูเอ่งฉ่าย” ในเมนูก็คือ ยี่หูเป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน แปลว่าปลาหมึก ส่วนเอ่งฉ่ายนั้นคือผักบุ้ง
จากร้านบะหมี่แป๊ะเถว เดินย้อนไปแวะร้านเย็นตาโฟอีกร้านที่อยู่ไม่ไกลกัน ชิมเกาเหลาเย็นตาโฟ อีกสัก 1 ชาม ร้านนี้มีดีที่กุ้งชุบแป้งทอดโปะหน้ามาด้วย แต่ซอสเย็นตาโฟของร้านแป๊ะเถวกลมกล่อมกว่า ร้านนี้มีแม่ครัวช่วยกัน 3 คน จนชาวบ้านขานกันว่า เย็นตาโฟสามพี่น้อง
กินคาวแล้วต้องตามด้วยหวาน มาถึงภูเก็ตต้องกินโอ๋วเอ๋ว มีให้กินแห่งเดียวที่จังหวัดนี้ ขับรถไปที่ตลาดหล่อโรงหรือตลาดต้นฉำฉาที่รู้จักกันดีในจังหวัด ร้านใกล้จะปิดแล้วได้มา 2 ถ้วย โอ๋วเอ๋วถั่วแดง กับโอ๋วเอ๋ววุ้นดำหรือเฉาก๊วยนั่นเอง ดูหน้าตาแล้ว จะเรียก บิงซูภูเก็ต ก็ไม่ผิด เป็นน้ำแข็งใสราดน้ำแดง มีวุ้นกลิ่นกล้วยจางๆ ซึ่งวุ้นนี้ทำจากเมล็ดโอ๋วเอ๋ว ไม่มีส่วนผสมของวุ้นเลย แต่ผสมกับกล้วยตามกรรมวิธีเก่าแก่ นอกจากกินชื่นใจแล้วยังมีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ราคาก็น่ากินสัก 3 ถ้วย แค่ 12 บาท แต่กินถ้วยเดียวก็พอ นอกจากหวานแล้วที่ตลาดหล่อโรงนี้ยังมีอาหารอีกหลายชนิด เช่น ปอเปี๊ยะสด โลบะ ผัดไทย หมี่หุ้น แต่เรามาเย็น ร้านใกล้เก็บแล้ว มาใหม่พรุ่งนี้ดีกว่า
กลับมาตั้งหลักที่พัก หลายเสียงแนะนำข้าวมันไก่เมา อยู่ตรงกันข้ามตลาดหล่อโรง ปาท่องโก๋โกชัย และน้ำเล่งเต๊ ทั้ง 3 อย่างนี้ เปิดร้านตอนมืด
ราว 2 ทุ่ม เดินทางไปสำรวจ ร้านโกชัยข้าวมันไก่เมา ที่ว่ากันว่าร้านนี้นักท่องราตรียามดึกนิยมแวะกินก่อนกลับบ้าน จึงเป็นขวัญใจบรรดาคอสุรา เห็นข้าวมันราดน้ำจิ้มที่วางอยู่ทุกโต๊ะชนิดไม่หวงน้ำจิ้ม ไก่ชิ้นพอดีคำ ไม่ตบไก่จนแบน มีถ้วยน้ำซุปร้อนๆ เห็นหม้อน้ำซุปหม้อใหญ่ตั้งเตาไว้ตลอด ระหว่างนั่งกินข้าวมันไก่ เห็นมี Delivery หลายเจ้าแวะเวียนมารับอาหารอยู่เนืองๆ จากข้าวมันไก่ก็ไปต่อที่โกชัยปาท่องโก๋ ปาท่องโก๋ตัวละ3 บาท กรอบนอก แต่ไม่นุ่มใน มีสังขยาสีเขียวกับสีส้ม ถ้วยละ 5 บาท ไว้กินคู่กัน นอกจากปาท่องโก๋ ยังมีรายการอาหารอีกหลายอย่าง
ขับรถวนรอบเมืองเก่าภูเก็ต ผู้คนบางตากว่าทุกครั้งที่เคยมา ไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย 3 ทุ่มกว่าไปรอที่หน้าร้าน Pizza หน้าห้างโรบินสัน สักพักมีรถเข็นคันหนึ่งเข้ามาจอด ผู้คนที่อยู่แถวนั้นทยอยเดินไปล้อมรถ สั่งคนละ 4-5 ขวด ได้ยินพี่สาวคนหนึ่งสั่งน้ำขม แล้วยื่นขวดน้ำเปล่าขวดใหญ่ให้ แม่ค้ารินน้ำสีเข้มออกน้ำตาลดำจากกาใส่ขวด ที่คนภูเก็ตเรียกน้ำเล่งเต๊ เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งทำมาจากอ้อยดำ นำมาทำน้ำอ้อยต้ม มีน้ำอ้อยมันขมด้วย เมื่อถามแม่ค้าจึงถึงบางอ้อว่ามีทั้งแบบขมและแบบหวาน จึงสั่งน้ำขม 1 ขวด แม่ค้าถามว่าเคยกินไหม ตอบว่าไม่เคย แม่ค้าจึงรินใส่ถ้วยน้อยให้ชิม รสขมจริง จึงขอเอาน้ำเล่งเต๊ไปชิมดีกว่า แม่ค้าหยิบขวดที่แช่ในลังน้ำแข็ง ดื่มแล้วเย็น ชุ่มคอ ชื่นใจ หวานน้อยกว่าที่คิดไว้มาก เขาบอกว่ามีที่ภูเก็ตเพียงแห่งเดียว เราซดหมดขวดและซื้อกลับอีก 2 ขวด ขนาด 600cc ขวดละ 20 บาท ในเวลาไม่ถึง 5 นาที น้ำเล่งเต๊ที่แช่มาในลังโฟมพร่องไปถนัด ถ้าใครมาภูเก็ต แนะนำว่าต้องมาชิมให้ได้ ชื่อน้ำเล่งเต๊ 100 ปี (คำเรียกแต้จิ๋วคือน้ำเลี่ยงแต้) ร้านนี้เปิดดึกประมาณ 4 ทุ่ม คงหมดไม่เกินเที่ยงคืน
น้ำเล่งเต๊
เริ่มวันใหม่ กินโรตีเป็นอาหารเช้าที่ ร้านโรตีเจ้าฟ้า นอกจากโรตี ไข่ดาวกินคู่กับน้ำแกง มีทั้งมัสมั่น แกงกะหรี่ น้ำแกงไม่ข้นมาก นอกจากนี้ยังมีข้าวหมกไก่ และอาหารจานเดียวอีกหลายอย่าง ที่เห็นแวะซื้อทุกคนคือไก่ทอดที่ขายอยู่หน้าร้านโรตีเจ้าฟ้า โรยหอมเจียวอร่อยจริง
โรตีเจ้าฟ้า
เช้าวันต่อมาไปตลาดหล่อโรงอีกครั้งได้ชิมอีก 2 เมนู ปอเปี๊ยะสดหล่อโรง อร่อยที่น้ำราด เครื่องแน่น อันละ 15 บาท กิน 2 อัน กำลังพอดี แล้วไปต่อที่ โลบะจี้กุ่ย โลบะ คือเครื่องในหมูต้มพะโล้แล้วเอามาทอด นอกจากเครื่องใน ยังมีแป้งทอด เกี้ยนทอด รวมมาด้วย เราเลือกกินแต่แป้ง ปอเปี๊ยะทอด สอบถามคนกินเครื่องในแล้ว ไม่พูดอะไร นอกจากพยักหน้าบอกรู้งี้มากินนานแล้ว เกี้ยนทอด คือ ตับห่อเต้าหู้แล้วเอาไปทอด กินแล้วไม่รู้เลยว่าเป็นตับ ยังคิดว่าคือเผือก มาที่ตลาดหล่อโรงที่เดียว มีทั้งคาว หวาน อาหารหลายอย่าง ตัวตลาดอาจดูบ้านๆ แต่มันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการกินอาหารพื้นเมือง มีที่จอดรถอยู่หลังตลาดด้วย
เกี้ยนทอด
หมี่สะปำ
กินอาหารเรียกน้ำย่อยไปแล้ว ไปต่อที่ หมี่สะปำยายเนียร ร้านดูกว้างขวางคนละแบบกับตลาดหล่อโรง เส้นบะหมี่เส้นใหญ่ผัดแบบน้ำขลุกขลิก รสชาติดีอีกแล้ว ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม หมี่แบบนี้เค้าว่าเป็นสไตล์จีนฮกเกี้ยนคล้ายราดหน้ากับผัดซีอิ๊วผสมกัน คาดว่าถ้าอยู่ภูเก็ตอีกไม่กี่วันน้ำหนักต้องเพิ่มแน่นอน ขนาดกลัวน้ำหนักเพิ่มยังอุตส่าห์แวะด้วยความตะกละ
เห็นรถเข็นขายไก่ทอดไก่ทรงเครื่องอยู่ทั่วไปที่ภูเก็ต แต่ร้านไก่ทอดบังหมัดที่เคยอ่านผ่านตาจากโซเชียลว่า ไก่ทรงเครื่องเด็ดมาก ลองชิมแล้วไม่ผิดหวัง ไก่ย่างแล้วราดน้ำซอสคงเป็นสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน น้ำราดมีกลิ่นหอมเครื่องเทศ เค็มหวานเผ็ดครบรส กินกับข้าวเหนียวที่โรยหอมเจียว ไม่เหมือนที่กรุงเทพฯ
ตกเย็นไปร้านโอวต้าวจี้เปี่ยน สั่งโอวต้าว 1 จานแบบธรรมดา และหมี่หุ้น 1 ถ้วย อ่านในเมนู โอวต้าวมีส่วนผสมหลักคือแป้ง ไข่ เผือก แคบหมู และหอยติบ หอยติบ คือหอยนางรมตัวเล็ก นั่งรอสักครู่ อาหารยกมาทั้ง 2 อย่าง โอวต้าว คล้ายหอยทอด แต่ไม่ได้ใส่ถั่วงอกลงไปผัดด้วยกัน ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม แต่ถ้าไม่กินเผ็ดต้องแจ้งตอนสั่งด้วย ถ้ากินกับซอสพริกคงอร่อยไปอีกแบบ ส่วนหมี่หุ้นเป็นเส้นหมี่ขาวผัดกับซีอิ๊วดำ กินคู่กับน้ำซุปกระดูกหมู รสชาติดีทั้ง 2 จาน
ถ้าต้องการเติมความเค็ม มีซีอิ๊วขาวยี่ห้อท้องถิ่น จากภูเก็ต ตรัง หรือสุราษฎ์ธานี
โอวต้าว
ซี่อิ๊วพื้นบ้าน
หมี่หุ้น
ก่อนกลับที่พัก ผ่านตลาดหล่อโรงอีกแล้ว เห็นคนมุงซื้ออะไร จึงอดไม่ได้แวะเข้าไปดู เป็นขนมหวานแบบถาด มีขนมชั้น เปียกปูน ตะโก้ ลองซื้อมาชิมไม่ผิดหวัง ชิ้นละ 10 บาท อร่อยเกินราคา ต้องจดไว้
ขนมหวานหล่อโรง
โจ๊กใส่ไข่
มื้อเช้าวันใหม่ไปหาของกินที่ตลาดชิงปลา หาดในยาง พบแผงข้างทางริมทะเล ได้บรรยากาศโอโซนสดชื่นคลอเสียงทะเล โต๊ะเก้าอี้ตั้งบนพื้นทรายชาดหาดผสมเสียงพูดคุยภาษาท้องถิ่น ทำให้โจ๊กถ้วยนี้ อร่อยเกินราคา 35 บาท
โรตีเนื้อหนานุ่ม
จากนั้นไปแวะตลาดสดเทศบาลเทพกระษัตรี ชิมโรตีคู่กาแฟร้อน ต้องบันทึกไว้มาภูเก็ตคราวหน้าต้องมากินโรตีเจ้านี้ โรตีเนื้อหนานุ่ม เคี้ยวได้แน่นเต็มคำ ทอดมากรอบกำลังดี โรยนมน้ำตาล 2 แผ่น ชาร้อน 1 แก้ว กาแฟ 1 แก้ว ในราคา 35 บาทเท่านั้นเอง ถูกและดี
มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ตลองแวะชิมร้านที่ยังไม่มีใครแนะนำ คุณอาจเจอร้านประจำของคุณเองเพราะภูเก็ต ชื่อนี้ มีของกินให้เลือกมากมาย
ปล. อาหารต่างๆ ที่ได้ไปชิมมา เป็นร้านข้างทางธรรมดาๆ ที่คนเดินดินกินข้าวแกง เป็นประจำ สามารถลองลิ้มชิมรสได้ทุกมื้อ เป็นความคิดเห็นและรสนิยมส่วนตัว ไม่มีสแตนด์อิน ไม่มีสลิงใดๆ นะคะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี