โชคชัยสเต๊กเฮ้าส์ สาขาวิภาวดี

ราว 50 ปีก่อน มีตึกสูง 26 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท บริเวณตรงข้ามซอยพร้อมพงษ์ระหว่างถนนสุขุมวิทซอย 24 และ 26  เป็นตึกสูงที่สุดของกรุงเทพฯ ในสมัยนั้น (2512) ซึ่งเป็นช่วงสงครามเวียดนาม ชื่อ “ตึกโชคชัย” เป็นที่น่าตื่นเต้นของผู้คนสัญจรบริเวณถนนสุขุมวิทเพราะเด่นเป็นสง่าเพียงตึกเดียวในย่านนั้นโดยคุณโชคชัย บูลกุล เป็นเจ้าของ

ตึกโชคชัยสร้างเสร็จในปีพุทธศักราช 2514 ยุคฟาร์มโชคชัยกำลังรุ่งเรือง มีกิจการส่งเนื้อวัวให้กองทัพอเมริกันที่กำลังรบอยู่ในเวียดนาม เป็นตึกสูงแห่งแรกที่สุดในประเทศไทย ในตึกมีทั้งร้านค้า สำนักงาน ชั้นที่ 23 เป็นที่ตั้งของโชคชัยสเต็กเฮ้าส์ เหล่าลูกค้าในชุดโก้หรูนั่งกินสเต็ก พร้อมชมวิวกรุงเทพฯ สุดลูกหูลูกตา ในยุคที่ชานเมืองกรุงเทพฯ ย่านลาดพร้าว บางเขน ยังมีการทำนากันอยู่

“โชคชัยสเต็กเฮ้าส์” ภัตตาคารในสไตล์ลูกทุ่งอเมริกันเป็นร้านแรกๆ ที่มีบริการเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งเนื้อเลี้ยงเองที่ฟาร์มปากช่อง

ด้วยอุดมการณ์และความใฝ่ฝันของนักสัตวบาลแห่งตำนานคาวบอยไทย ดร.โชคชัย บูลกุล ได้มุ่งมั่นแผ้วถางและปรับเปลี่ยนพื้นที่จากป่ารกทึบบริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ด้วยการริเริ่มการเกษตรแบบผสมผสานบนพื้นที่เพียง 250 ไร่ รวมถึงได้บุกเบิกกิจการฟาร์มโคเนื้อ โดยนำเข้าโคเนื้อสายพันธุ์อเมริกันบราห์มัน และสายพันธุ์แซนต้าเกอร์ทูดิส มาเลี้ยงพร้อมไปกับการยกระดับสายเลือด และพัฒนาสายพันธุ์โคพื้นเมืองของไทย

ต่อมาได้เริ่มตั้งภัตตาคาร ‘โชคชัยสเต็กเฮ้าส์’ สาขาแรกขึ้นบนชั้น 23 ของอาคารโชคชัย เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์เนื้อโคคุณภาพดีของฟาร์ม ให้บริการแก่ผู้เช่าอาคารสำนักงานและลูกค้าทั่วไป

ภายหลังช่วงเวลาของการปฏิรูปภาพลักษณ์องค์กร (Rebranding) เมื่อรากฐานของฟาร์มเข้มแข็งขึ้น ประกอบกับการมีความรู้ ประสบการณ์ และการเข้าใจจุดอ่อน จุดแข็งที่มีผนวกกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ จึงก่อให้เกิดนวัตกรรมทางธุรกิจขึ้น นั่นคือ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบครบวงจร เป็นอีกจุดหนึ่งที่เลื่องลือในหมู่นักเดินทางที่ผ่านไปมาจากการเที่ยวเขาใหญ่จะต้องแวะ โดยมีบริการนำชมฟาร์ม และร้านอาหารให้พักเหนื่อยด้วยไอศกรีมนมสดแสนอร่อยที่ได้รับความนิยม และเป็นเจ้าแรกๆ ของร้านสเต็กในละแวกนั้น

ในยุคที่โควิด-19 กำลังระบาดอย่างรุนแรงในระยะนี้ ที่นี่เป็นหนึ่งในภัตตาคารที่มีบรรยากาศภายในร้านดูสะอาด ระบบการรักษาป้องกันเชื้อโรคที่เคร่งครัดมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยวางเจลแอลกอฮอล์ไว้ทั่วร้าน และพยายามไม่ให้ลูกค้าต้องสัมผัสกับส่วนต่างๆ ให้มากที่สุด เช่น เมนูอาหารไม่ได้พิมพ์เป็นเล่มให้ต้องหยิบจับพลิกอ่าน หากแต่พิมพ์เป็นแผ่นโปสเตอร์ติดบนบอร์ดติดล้อเลื่อนมาให้อ่าน อีกทั้งเป็นฉากกั้นกันละอองระหว่างโต๊ะป้องกันการกระจายให้รู้สึกสามารถนั่งอย่างสบายใจ

ตู้บ่มเนื้อ

ตู้ Dry-Aged มาตั้งโชว์อยู่ในร้านให้เราได้เห็น เนื้อที่ชำแหละเป็นส่วนๆ วางเรียงรายบนชั้นเพื่อการบ่ม (Dry-Aged) ตามระยะเวลาโดยขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่ใช้ การบ่มเนื้อนั้นช่วยให้เนื้อนุ่มและเพื่อเพิ่มรสชาติเข้มข้น

ซีซ่าสลัด (220 บาท)

เริ่มต้นมื้อค่ำด้วยซีซ่าสลัดผักสดกรอบกระตุ้นต่อมหิว ราดน้ำสลัดครีมข้น ทั้งนี้อาจจะเลือก “โชคชัยโคลด์คันทรีสลัด” (220 บาท ) หรือสลัดทูน่า (200 บาท) หากเกรงจะอิ่มเกินสามารถเริ่มด้วยซุปหัวหอม (150 บาท) ซุปครีมเห็ด (90 บาท) หรือซุปครีมข้าวโพด (90 บาท) ถ้าจะให้ครบสูตรก็ต้องมีขนมปังเนย (60 บาท) ตามกันไป

เนื้อสเต็กมีให้เลือกหลากหลาย

ด้วยชื่อเสียงของคนเลี้ยงวัวเจ้าแรกๆ ของประเทศ ย่อมรู้จักการชำแหละเนื้อส่วนต่างๆ ตามกรรมวิธีอย่างชำนาญทั้งวิธีการบ่มเนื้อ อีกทั้งการย่างเนื้อคือศิลปะอย่างหนึ่งไม่ต่างจากศิลปะของกาแฟ เนื้อวัวก็ต้องมาจากสายพันธุ์ที่ดี ภูมิประเทศที่ดี ให้อาหารวัวตามธรรมชาติ โดยการเดินเล็มแต่หญ้าและการนอนที่พอเหมาะ ไปจนถึงวิธีปรุงที่ดึงรสชาติออกมาให้ได้มากที่สุด การสั่งให้ย่างเนื้อตามขนาดความสุกที่ลูกค้าต้องการ ได้เนื้อชุ่มน้ำมันแต่ไม่ติดมัน จนให้ความนุ่มไม่เหนียวหอมกลิ่นควันถ่านไม้จางๆ โดยจุดเด่นของเนื้อที่นี่ คือความชุ่มฉ่ำไม่ว่าจะสั่งเนื้อส่วนใดก็ตามจะมีความฉ่ำรสเนื้อทั้งสิ้น   

จัดแบ่งวรรณะของเนื้อพอคร่าวๆ คือ เทนเดอร์ลอยสเต็ก (Tenderloin) นิวยอร์คสเต็ก (New York) พอร์เตอร์เฮ้าส์ (Porterhouse) ทีโบนสเต็ก T-Bone) ริบอายสเต็ก (Rib Eye) ไพรม์ริบ สเต็ก (Prime Rib) ส่วนสนนราคานั้นชั่งตามน้ำหนัก (ขนาดกลางหรือขนาดใหญ่) มีราคาตั้งแต่ชิ้นละ 990 บาท ถึง 1,400 บาท

นอกจากนี้ยังมีสเต็กหมูคุโรบูตะ ชนิดทีโบนหมู ไพรม์ริบหมู พอร์คช็อป สำหรับผู้ไม่กินเนื้อ ราคาย่อมเยาอยู่ระหว่างชิ้นละ 510-550 บาท

สเต็กปลาแซลมอนกับสลัด (520 บาท)

เป็นปลาแซลมอนจากนอร์เวย์ ย่างให้หนังปลาเกรียมสวย เนื้อปลาฉ่ำ ให้เนื้อสัมผัสอันชัดเจนที่แตกต่างจากเหล่าแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์ม

สเต็กเบอร์เกอร์หมูคุโรบูตะ (340 บาท)

เบอร์เกอร์ที่ร่ำลือกันไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำว่าถอดแบบเบอร์เกอร์แบบอเมริกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน นอกจากหมูคุโรบูตะแล้ว ยังมีชนิดเนื้อโชคชัยดรายเอจ โชคชัยวากิว (390บาท)  และโชคชัยพรีเมียมสเต็กเบอร์เกอร์ (360 บาท )ให้เลือกตามถนัด

Chokchai Roast Prime Rib (2,000 บาท)

 เนื้อนำเข้าเกรดสูงจากอเมริกา เป็นการอบข้ามคืนจนเนื้อมันนุ่มแทบละลายในปาก ใช้อบจากเนื้อชิ้นใหญ่ ด้านนอกเกรียมแต่เนื้อในฉ่ำหวาน เมื่อสุกได้ที่นำแล่จนบางพอดี จะบอกว่าเนื้อนุ่มกว่าการย่างแบบสเต็กมาก เมื่อราดน้ำซอสจนชุ่ม ให้ความหอมนุ่มจนได้สัมผัสวัฒนธรรมการกินเนื้อแบบอังกฤษอีกอย่างหนึ่ง  

ตู้โชว์สารพัดเค้ก

ไอศกรีมบราวนี่ซันเดย์ (180 บาท)

ไอศกรีมช็อกโกแล็ตนมสดกินคู่กับบราวนี่สำหรับผู้หลงใหลช็อกโกแลตได้ละเลียดอย่างสุขเกษม

ร้านได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ ด้วยบรรยากาศคาวบอยสุดเท่ดังเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยความทันสมัยและมุมบาร์ที่เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องดื่มมากมาย

โชคชัยสเต็กเฮาส์

294 หมู่ 8 ถ. วิภาวดีรังสิต ต. คูคต อ. ลำลูกกา จ. ปทุมธานี

โทร. 02-532 0168,02-532-0168,02-532-0169

เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 23.00 น.

ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 64 เป็นต้นไปให้บริการเฉพาะซื้อกลับบ้าน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

ส่งฟรีระยะ 10 กม.แรก เมื่อสั่งอาหาร 600 บาทขึ้นไป ผ่าน Line : @chokchaisteakhouse

E-Mail: steakhouse@farmchokchai.com

Website : https://www.chokchaisteakhouse.com/

Facebook : https://www.facebook.com/ChokchaiSteakhouse

Line : @chokchaisteakhouse

Instagram : chokchaisteakhouse

ภาพถ่าย แพรไพลิน ศุกลรัตนเมธี และ www.chokchaisteakhouse.com