สมัยเรียนชั้นประถม เราหลายคนคงเคยท่องบทอาขยานที่ว่า ....
“เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
ได้ประโยชน์หลายสถานเพราะการเรียน จงพากเพียรไปเถิดจะเกิดผล
ถึงลำบากตรากตรำก็จำทน เกิดเป็นคนควรหมั่นขยันเอยฯ”
ผมนึกถึงอาขยานบทนี้ขึ้นมาทันที ที่เห็นการกลับลำของทักษิณและพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการเรียกร้องให้ยกเลิกหรือมีการแก้ไขมาตรา 112
ที่ผ่านมามีเด็ก 2 กลุ่ม ยืนอยู่แถวหน้าในการเรียกร้องนี้
เด็กกลุ่มหนึ่งอยู่บนถนน คือ กลุ่มนักศึกษาและเยาวชนหลากหลายชื่อ เป็นต้นว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, เยาวชนปลดแอก, ประชาชนปลดแอก, คณะราษฎร 2563 ฯลฯ ข้อเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ของกลุ่มนี้เริ่มดังขึ้นอย่างจริงจังในการชุมนุมเคลื่อนไหว ตั้งแต่วันที่ 3 และ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563 โดยทนายอานนท์ นำพา และ รุ้ง ปนัสยา ตามลำดับ และต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้โดยมีแกนนำอีกหลายคนมาสืบทอด
เด็กอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ในรัฐสภา หรือเคยอยู่ในรัฐสภา ซึ่งก็คือนักการเมืองที่เป็นแกนนำในพรรคอนาคตใหม่ และ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวในเวลานี้ ที่ยืนยันให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และยืนยันว่าการแก้ไขไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ที่ว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้”
แต่ทว่า เด็ก 2 กลุ่มที่อยู่บนถนนและที่อยู่ในรัฐสภา ล้วนถูกผู้ใหญ่ 2 กลุ่มบนถนนและในรัฐสภา หลอกลวงทอดทิ้ง
เด็กบนถนน ถูกแกนนำกลุ่มเสื้อแดงขี้ข้าทักษิณทอดทิ้ง ประสานเสียงกันต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านสถาบัน อยู่แท้ ๆ แต่พวกผู้ใหญ่เสื้อแดงมันเก๋าเกมกว่า มันไม่มาพร่ำเพรื่อให้โดนจับโดนฟ้องเป็นรายวันเหมือนพวกเด็ก ๆ เห็นท่าไม่ไหว มันก็ฉากหลบไปเฉย ๆ ปล่อยให้เด็กออกไปสู้อยู่ฝ่ายเดียว
เด็กในรัฐสภาก็ถูกพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในอาณัติของทักษิณทอดทิ้ง แรก ๆ ก็ทำท่าเอาจริงจะแก้ไขมาตรา 112 ให้ได้เหมือนกัน แต่พอทักษิณกลับลำ พรรคเพื่อไทยก็ถอยฉาก ปล่อยให้เด็ก ๆ ในพรรคก้าวไกลโดดเดี่ยวอยู่พรรคเดียว
อ้อ... ลืมไป นอกจากปล่อยให้เด็ก ๆ ในพรรคก้าวไกลโดดเดี่ยวแล้ว ยังปล่อยให้เด็กทารกในพรรคอีกคนหนึ่งของตนต้องหน้าแตกที่ออกตัวแรงจะแก้ไขมาตรา 112 โดยไม่คิดว่าเจ้าของพรรคซึ่งมีพฤติกรรมจ้องโจมตีทำลายสถาบันมาโดยตลอด จะมากลับลำเอาตอนนี้
“เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา”
ที่ผ่านมา ยังไม่รู้อีกหรือว่าทักษิณนั้นมันปลิ้นปล้อนตลบตะแลงแค่ไหน
เมื่อถูกยึดอำนาจใหม่ ๆ มันบอกบิ๊กบังว่า “ผมเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ ผมหยุดแล้ว หยุดเป็นหยุด”
แล้วจนทุกวันนี้ มันเคยหยุดไหม ?
เมื่อมันยุให้พวกเสื้อแดงออกมาต่อสู้เพื่อมัน มันบอกว่า “ถ้าเมื่อไหร่เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำประชาชนเดินเข้ากรุงเทพฯ ทันที”
แล้วมันเคยทำตามที่มันพูดไหม ? มิหนำยังพาครอบครัวของมันเดินชอปปิ้งซื้อของแบรนด์เนมอยู่ที่ดูไบโดยไม่สนใจชะตากรรมของคนเสื้อแดงที่มันหลอกให้เขามาสู้เพื่อมัน
เมื่อหนังสือพิมพ์ เดอะไทมส์ สื่อใหญ่อังกฤษไปสัมภาษณ์มันที่ดูไบหลังจากที่ฮุนเซ็นแต่งตั้งให้มันเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ มันบอกเดอะไทมส์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีส่วนรับรู้ต่อเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยองคมนตรีจับมือกับนายพลระดับสูงเพื่อกระทำรัฐประหารรัฐบาลของมัน และจากนั้นมันก็ให้ขี้ข้าของมันเคลื่อนไหวถึงขั้นจะเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ยังรื้อความทรงจำเกี่ยวกับทักษิณว่า ครั้งหนึ่งมันเคยพูดกับทูตสหรัฐฯ ว่า หนึ่งในวาระของมัน คือการถอดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (มาตรา 112) ออกจากประมวลกฎหมายอาญา มันบอกว่าประเทศไทยไม่สามารถอ้างความเป็นประชาธิปไตยได้ ตราบใดที่ยังมีการขู่จะเล่นงานด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
แต่มาวันนี้ เมื่อมันส่งลูกสาวเข้าไปเป็นที่ปรึกษาในพรรคเพื่อไทย เตรียมวางตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป มันดูลู่ทางแล้วเกรงจะเสียคะแนน มันเลยกลับลิ้นบอกว่า ตัวกฎหมายมาตรา 112 ไม่เคยมีปัญหา ที่เป็นปัญหาคือคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและคนที่นำประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกในสังคม
เชื่อน้ำลายมันได้หรือ ?
เขียนถึงตอนนี้แล้ว พลันอาขยานที่เคยท่องตอนเด็ก ๆ อีกบทหนึ่ง ก็ผุดลอยขึ้นมาในห้วงคิดคำนึง
“บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน”
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
8 พฤศจิกายน 2564
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี