วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ตามความเชื่อของชาวฮินดู ตรงกับวัน สรัสวาตี บูชา ซึ่งก็คือ การบูชาต่อพระแม่สรัสวาตี เทพีแห่ง ภูมิปัญญา การเรียนรู้ ศิลปะ และ ดนตรี
ทุกปีในวันนี้ นักเรียนนักศึกษาของอินเดีย มักจะต้องบูชาต่อพระแม่เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในการเรียน ที่สำคัญก็คือ ต้องสอบให้ผ่านนั่นเอง
(วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ตามปฎิทินปัญจางของฮินดูระบุว่าเป็น วันปัญจามิ ศุกรา หรือ ขึ้น 5 ค่ำ เป็นวันสรัสวาตี บูชา - ภาพจากกูเกิ้ล)
ส่วนใหญ่ แต่ละบ้านมักจะหาซื้อรูปเคารพของพระแม่สรัสวาตี มาบูชาในบ้าน ส่วนรูปเคารพองค์เก่าของปีที่แล้วจะถูกนำไปวางใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือไม่ก็เอาไปลอยในแม่น้ำ
ในวันนี้ ชาวฮินดูมักจะเคร่งครัดต่อตนเองด้วยการรับประทานอาหารมังสวิรัติ เพื่อเป็นการถวายบูชาแด่พระแม่
แต่เมื่อข้ามมาถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ชาวอินเดียก็ต้องโศกเศร้าครั้งใหญ่อีกครั้งต่อการจากไปของ ลาตา มังเกชการ์ นักร้องเสียงโซปราโน(SOPRANO) สามารถร้องในระดับเสียงที่แตกต่างกันถึง 4 อ๊อคเตป(OCTAVES) จนได้รับการยกย่องว่า เป็นนกไนติงเกลแห่งอินเดีย
(ลาตา (ขวา) กับ อัชชา มังเกชการ์ (ซ้าย) พี่น้องศิลปินนักร้องของอินเดีย มีข่าวว่า อัชชา ล้มป่วยหนักหลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของพี่สาวของเธอ - ภาพจากกูเกิ้ล)
เธอเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2565 ด้วยอาการติดเชื้อโควิด 19 และรักษาตัวในโรงพยาบาลมาตลอดจะถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แล้วเธอจากไปขณะอายุ 92 ปี ทิ้งผลงานเพลงที่แสนไพเราะมากกว่า 3 หมื่นเพลงเอาไว้ข้างหลัง จนได้รับการบันทึกจากกินเนสส์ บุ๊ค ว่าเป็นนักร้องผู้มีผลงานมากที่สุด
เธอเกิดในครอบครัววรรณะพราหมณ์ บิดาชอบร้องเพลง และทำงานในแวดวงการแสดงตลอด ขณะอายุเพียง 5 ขวบ เธอก็ร่วมแสดงละครเพลงของบิดาของเธอแล้ว
เธอเข้าสู่วงการเพลงอย่างจริงจัง ด้วยการเริ่มต้นร้องเพลงประกอบภาพยนต์เป็นครั้งแรกขณะอายุ 12 ปีเท่านั้น แต่เพลงดังกล่าวถูกตัดออกไปจากภาพยนต์เสียก่อน
บิดาของเธอเสียชีวิตอย่างกระทันหันในปีถัดมา ครูวินายัก(MASTER VINAYAK) ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทภาพยนต์ และเป็นเพื่อนสนิทของบิดา จึงรับช่วงในการสนับสนุนเธอ และ อัชชา (ASHA) น้องสาวของเธอให้เป็นนักแสดง และ ร้องเพลงประกอบภาพยนต์ต่อไป
(กูแลม ไฮเด ผู้เห็นแววนักร้องดังในตัว ลาตา มังเกชการ์ - ภาพจากกูเกิ้ล)
แต่เส้นทางอาชีพของเธอมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเธอถูกวิจารณ์จากเจ้าของบริษัทภาพยนต์รายหนึ่งว่า “เสียงร้องของเธอ บางเกินไป” ทำให้มีผลกระทบต่องานของเธอ
แต่ครูเพลง และ ผู้กำกับฝ่ายดนตรี ที่ชื่อ กูแลม ไฮเด (GHULAM HAIDE) ไม่คิดเช่นนั้น และ มอบบทเพลงชื่อ DIL MERA TODAA , MUJHE KAHIN KA NA CHHORA ให้เธอขับร้อง
ที่น่าทึ่งก็คือ นายกูแลม ไฮเด ได้บอกว่า ในอนาคต เจ้าของภาพยนต์จะต้องมาคุกเข่าต่อหน้าเธอ เพื่อขอร้องให้เธอร้องเพลงในภาพยนต์ของพวกเขา
https://www.youtube.com/watch?v=Tf7-ArsQGHE
(คลิปวิดิโอ ที่ลาตา มังเกชการ์ โชว์พลังเสียงสุดยอดแม้จะสูงวัยแล้ว ด้วยการขับร้องเพลงประจำชาติ (NATIONAL SONG) (ไม่ใช่เพลงชาติ) ที่มีชื่อว่า VANDE MATRAM ที่แปลว่า ข้าขอคาระวะต่อแผ่นดินแม่ ประมาณนี้)
การณ์เป็นไปตามที่นายกูแลมได้ทำนายไว้
ลาตา มังเกชการ์ เป็นนักร้องคนแรกของอินเดียที่ขับร้องเพลงเพื่อให้นักแสดงไปลิปซิงก์ตอนถ่ายทำภาพยนต์ ที่เรียกว่า PLAYBACK SINGER ดาราหญิงผู้มีชื่อเสียงในวงการแทบทุกคนจะต้องใช้เสียงของเธอในการขับร้องเพลงในภาพยนต์ทั้งนั้น
(ทราเมนดรา ในภาพยนต์เรื่อง โชเลย์ – ภาพจากคลิปวิดีโอภาพยนต์เรื่อง โชเล่ย์)
อาทิเช่น เฮม่า มาลินี(HEMA MALINI) ในภาพยนต์เรื่อง โชเล่ย์ (SHOLAY) ที่ทราเมนดรา(DHRAMENDRA) แสดงร่วมกับ อามิตาป ปัจจัน ต่อมา เฮม่า มาลินี ก็แต่งงานกับ ทราเมนดรา หลังจากจบภาพยนต์เรื่องนี้แล้ว
ผมได้นำเอาลิงค์ของฉากหนึ่งในภาพยนต์เรื่อง โชเลย์ ที่มีเพลงของ ลาตา มังเกชการ์ มาให้ท่านผู้อ่านได้ชมครับ
https://www.youtube.com/watch?v=-CPPXeshdPI
หรือแม้แต่ ดาราสุดเซ็กซี่ของอินเดียอย่าง ดิมเพิล คาปาเดีย(DIMPLE KAPADIA) ที่ถูกกล่าวขวัญอย่างมากเมื่อเธอแสดงภาพยนต์เรื่อง BOBBY คู่กับ ริชชี คาปูร์
ที่ว่าเซ็กซี่ ก็เพราะในภาพยนต์เรื่องนี้ เธอแต่งกายด้วยกระโปรง หรือ กางเกง สั้นเหนือเข่า และ เสื้อไม่มีแขนเท่านั้น แต่ก็หนักหนามากสำหรับจริยธรรมของชาวอินเดียในช่วงทศวรรษที่ 1960-1970 จนทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้ถูกจัดอยู่ในระดับผู้ชมอายุต้องมากกว่า 18 ปีเท่านั้น
เมื่อราเยส คันนา ตกลงที่จะแต่งงานกับเธอ เขาต้องกวาดซื้อฟิล์มภาพยนต์เรื่องนี้ทั้งหมดไปเก็บเพื่อไม่ให้มีการฉายอีกต่อไป
(ดิมเพิล (คนขวา) กับลูกสาว ทวิงเคิล คันนา (คนซ้าย) กับ พระเอกอัคชัย กุมาร- ภาพจากวิกิพีเดีย)
กระนั้นก็ตาม ความรักระหว่าง ราเยส คันนา กับ ดิทเพิล คาปาเดีย ก็ไม่ตลอดรอดฝั่ง ต้องเลิกรากันไปในปีค.ศ. 1982 โดยมีลูกสาวร่วมกันหนึ่งคนชื่อทวิงเคิล ซึ่งต่อมาเป็นภรรยาของดาราดังอย่าง อัคชัย กุมาร ที่ผมเขียนถึงเมื่อหลายตอนก่อน
พิธีศพของ ลาตา มังเกชการ์ ถูกจัดอย่างสมเกียรติที่สุดในเมือง มุมไบ มีดารานักร้องนักแสดงจำนวนมากมาร่วมพิธี มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศเพื่อให้ประชาชนที่รักเธอได้ร่วมไว้อาลัย
(นาย นเรนทรา โมดี มาร่วมในพิธีศพของ ลาตา มังเกชการ์ นายกรัฐมนตรีโมดี แสดงการคาระวะต่อเธออย่างสูงสุดต้องการโค้งตัวพนมมือไหว้ต่อสามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ผลงานที่น่ายกย่องมาก -ภาพจากทีวีที่ถ่ายทอดพิธี)
แม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ก็ยังไปร่วมในพิธีศพด้วย
ว่ากันว่า พระแม่สรัสวาตี เทพีแห่งดนตรี เป็นผู้มารับเธอไปอยู่ด้วย เพราะเธอจากไปหลังจากวันสราวาตี บูชา เพียงวันเดียว
ลาก่อน นักร้องเสียงไนติงเกลที่ไม่มีใครเลียนแบบได้
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี