หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “สงครามเย็น”แต่อาจจะไม่เข้าใจแน่ชัดว่า สงครามเย็นมีจุดเริ่มต้นจากไหนและอะไรคือมูลเหตุสงครามเย็นคือสงครามที่ประเทศมหาอำนาจสร้างแสนยานุภาพทางการทหารไว้ข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม โดยอาจไม่ทำสงครามกันโดยตรงแต่จะสนับสนุนให้ประเทศพันธมิตรของตนเข้าทำสงครามแทนหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สงครามตัวแทน (proxy war) ส่วนมากเมื่อเอ่ยถึงสงครามเย็นแล้วหมายถึงสงครามระหว่างรัสเซียและอเมริกา หลังสงครามโลกครั้งที่สองโดยสงครามเย็นมีจุดเริ่มต้น จากการประกาศลัทธิทรูแมน ปี ค.ศ. 1947จนกระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1991

 

ลัทธิทรูแมนเป็นนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แฮร์รี เอส.ทรูแมน ประกาศเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1947 ว่าอังเคิลแซมจะสนับสนุนกรีซและตุรกี โดยให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการทหารเพื่อป้องกันมิให้ประเทศทั้งสองตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพี่หมีขาว

 

แฮร์รี เอส ทรูแมน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 33 ของสหรัฐอเมริกา รับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ ที่ถึงแก่อสัญกรรมไม่ว่าอเมริกันจะชื่นชมหมอนี่ยังไงก็ตาม แต่ประธานาธิบดีรายนี้คือคนที่อนุมัติให้มีการทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่น โดยไม่สนใจชีวิตและความสูญเสียของพลเมืองญี่ปุ่น เพียงเพื่อต้องการอวดแสนยานุภาพใส่พี่หมีขาวภาษาสมัยใหม่คงต้องบอกว่าอยากจะขิงใส่รัสเซียนั่นแหละ

หลังสงครามโลกครั้งที่สองสะบักสะบอมกันทั่วยุโรปเพราะภาวะสงคราม อาคารบ้านเรือนเสียหายทั่วทวีป ยกเว้นแต่อเมริกาเพราะไม่ได้เป็นสมรภูมิสงครามแต่อย่างใดแค่โดนถล่มหน่อยเดียวในเพิร์ลฮาเบอร์ ด้วยเหตุนี้แหละที่ทำให้อเมริกาตั้งตัวเองเป็นพี่เบิ้มหัวโจกโลกเพราะประเทศอื่นง่อยเปลี้ยจากพิษสงครามทั่วหน้า

ลัทธิทรูแมนมีใจความสำคัญว่า ลุงแซมจะสนับสนุนกรีซและตุรกี โดยให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการทหารเพื่อป้องกันมิให้ประเทศทั้งสองไปอยู่ใต้อุ้งตีนหมีขาว พูดง่ายๆ คือประเทศยูอย่าไปเข้าแก๊งค์เป็นคอมเรดกับไอ้หมีขาวนะเว้ย ถ้าเป็นเด็กดีตามที่ไอสั่ง ก็มาเอาถุงเงินไปจ้า ว่าแล้วลุงแซมส่งยิ้มฟันขาววาบๆ ให้ชาวโลกแบบเซลล์แมนขายรถมือสอง

ทรูแมนออกแถลงการณ์ท่ามกลางวิกฤตการณ์สงครามกลางเมืองกรีซ โดยอ้างว่าหากกรีซและตุรกีไม่ได้รับความช่วยเหลือโดยด่วนแล้วทั้งสองประเทศอาจตกอยู่ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์แน่นอนและจะสร้างผลกระทบร้ายแรงสุดๆ การที่ลุงแซมเข้ามาเสียบตรงนี้ได้มีที่มาที่ไป คือแต่เดิมอังกฤษนี่ดันตูดกรีซมาก่อนพอเจอสงครามโลกเข้าถึงกับร้องโอดโอย ตะโกนเรียกลุงแซมขอให้อเมริกามาเป็นเจ๊ดันกรีซแทนตัวเอง

จะว่าไปไอ้พี่หมีขาวก็ไม่ได้สดใสผุดผ่องเป็นยองใยอะไรนักเพราะอยากขยายอิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าไปในยุโรปตะวันออก ซึ่งมีประเทศแถวนั้นเป็นประเทศบริวาร เช่น ประเทศโปแลนด์ ฮังการียูโกสลาเวีย แอลเบเนีย บัลแกเรีย โรมาเนียและเชคโกสโลวะเกีย(ตอนนั้นยังไม่แยกประเทศ) แถมพี่หมีอยากคุมช่องแคบบอสพอรัสและช่องแคบดาร์ดะเนลล์ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเลยส่งกองทัพรุกรานตุรกีและกรีซซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของอังกฤษ

อังกฤษบอกไม่ไหวโว้ย ตอนนี้ ลำพังจะเอาตัวรอดยังลำบาก เลยกวักมือเรียกลุงแซมที่ยืนยิ้มอวดฟันขาวอยู่อีกฝั่งมหาสมุทรนั่นแหละ ประธานาธิบดีทรูแมนเลยประกาศลัทธิทรูแมนที่จะช่วยเหลือทางการเงิน หรือพูดง่ายๆว่า เอามาอุ้มไว้เองแทนอังกฤษพี่หมีขาวยืนหนวดกระดิกอยู่เร่าๆ ฝั่งขะโน้น ประกาศปังดังลั่นว่าหมู่เฮาเว้ย มาเป็นคอมมิวนิสต์กันเต๊อะ หมั่นไส้ไอ้ลุงแซมช่วยกันตบมันและลูกหาบออกไปหน่อย

ที่ลุงแซมเผือกเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาเป็นประเทศเจ้าหนี้ และเจ้าแห่งทุนนิยมที่ร่ำรวยสุดๆ อ้าว..แหง๋สิแกไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกเหมือนยุโรปนี่นะหากปล่อยให้ลัทธิคอมมิวนิสต์ขยายตัว จะทำให้อเมริกาต้องสูญเสียหนี้สินและแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่จ้องตาเป็นมัน

ลัทธิทรูแมนด้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันซึ่งมีเสียงข้างมากในรัฐสภาสหรัฐอเมริกา และส่งเงินช่วยเหลือจำนวน 400 ล้านดอลล่าร์ จนกลายมาเป็นรากฐานของนโยบายอเมริกาตลอดทวีปยุโรปและทั่วโลกนักประวัติศาสตร์ถือว่าการประกาศลัทธิทรูแมนเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเย็น

นอกจากประกาศลัทธิทรูแมนแล้ว อเมริกายังนำแผนมาร์แชลล์มาใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของยุโรปตะวันตก ซึ่งไอ้แผนมาร์แชลนี่เล่นเอาหมีขาวเต้นผางอีกรอบ งั้นขอสรุปรวบตึงเลยแล้วกันว่าทำไมแผนมาร์แชลล์คือแผนฟื้นฟูยุโรป

ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของลุงแซมมอบให้แก่ยุโรปตะวันตก โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการพังทลายทางเศรษฐกิจและฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมรัฐชาติของยุโรปตะวันตกขึ้นมาใหม่ โดยแผนมาร์แชลล์นี้ยุโรปได้รับมากกว่า 12พันล้านดอลลาร์ทั้งในรูปเงินกู้และเงินช่วยเหลือตลอดระยะเวลาระหว่างปีค.ศ. 1948-1951

แต่หมีขาวส่ายหน้าดิกๆ เพราะมองว่าไอ้แผนมาร์แชลล์นี่คือแผนอุบายของอเมริกา ที่จะดึงประเทศรอบรั้วบ้านหมีขาวเป็นในยุโรปตะวันออก ซึ่งควรจะมาเป็นลูกหาบคอนเรดของหมีขาว มาเป็นประชาธิปไตยแทน เรียกว่าเล่นเกมแย่งลูกหาบกันสุดติ่ง แบบนี้พี่หมีขาวบอกว่ากูยอมไม่ได้เลยบังคับเหล่าประเทศบริวารในยุโรปตะวันออกไม่ให้ยอมรับแผนมาร์แชล แถมเริ่มดำเนินแผนโมโลตอฟแทนซึ่งคือเป็นแผนฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจตามแบบคอมมิวนิสต์แทน

จากนั้นมีการรวมพลังลูกหาบลุงแซมในยุโรปและอเมริกาเหนือก่อกำเนิดองค์กรที่เรียกว่า “นาโต้” มุ่งยื่นตีนไปขวางหมีขาวไม่ให้เดินมาหักคอไปเป็นสหายหมีขาวนั่นแหละ นาโต้ (NATO) เกิดขึ้นเพื่อสกัดกั้นการแผ่อิทธิพลของรัสเซียมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งระบบพันธมิตรทางทหารในการถ่วงดุลอำนาจกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ และให้ความช่วยเหลือทางการทหารกับประเทศสมาชิกในกรณีที่ถูกคุกคามจากภายนอก รวมถึงส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

แรกก่อตั้งมี 12 ประเทศร่วมลงนามในสนธิสัญญา นาโต้ (NATO) ได้แก่ 1. อเมริกา 2. สหราชอาณาจักร 3. แคนาดา 4. เบลเยียม 5.เดนมาร์ก 6. ฝรั่งเศส 7. ไอซ์แลนด์ 8. อิตาลี 9. ลักเซมเบิร์ก 10.เนเธอร์แลนด์ 11. นอรเวย์ และ 12. โปรตุเกส ตอนนี้แผ่ขยายไป 30ประเทศ

พอตั้งนาโต้ พี่หมีขาวก็คำรามแล้วบอก ได้..เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวเจอกัน ว่าแล้วก็ตั้งองค์การสนธิสัญญา Warsaw ใน ค.ศ.1955 มีสมาชิกทั้งหมด8 ประเทศ ได้แก่ 1.รัสเซีย 2. เยอรมนีตะวันออก (ในเวลานั้น) 3. โปแลนด์4. เชกโกสโลวะเกีย 5. ฮังการี 6. โรมาเนีย 7. บัลแกเรีย และ 8.อัลแบเนีย แต่ไม่รอด เพราะองค์การสนธิสัญญา Warsawสิ้นสุดลงหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย

เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายหลายประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียต ประกาศเอกราชแล้วพุ่งเข้าใส่องค์การนาโต้ทันที พี่หมีขาวนั้นนั่งเลียแผลไปพลางทำตาปริบๆ แต่หมีขาวคือหมีขาวเห็นหน้าตาน่ารัก แต่บทโหดก็ไม่เบาหรอก พอตั้งตัวได้ก็เริ่มคำรามใส่ประเทศที่เคยอยู่ใต้จั๊กกะแร้ตัวเองโฮกๆเพราะหากประเทศเหล่านี้เข้านาโต้กันหมด เท่ากับว่ามีปืนใหญ่จ่อเรียงรายตรงรั้วบ้านฝั่งตะวันตกเพียบ

การที่ยูเครนกระดี๊กระด๊าอยากไปสุมหัวกับอียูและนาโต้คือสิ่งที่พี่หมีขาวยอมไม่ได้ เลยต้องตบผั๊วะเพื่อขิงอวดชาวโลกว่า ยูเครนอย่าเปรี้ยวตีนให้มากนัก เพราะชาวโลกรู้อยู่เต็มอกว่าใครหนุนหลังยูเครน บอกตรงๆเลยนะว่าไอ้ที่ซวยคือประชาชนทั้งในยูเครน รัสเซีย และชาวโลกตาดำๆ ที่รบกันทีไร น้ำมันพุ่ง สินค้าแพงทุกทีโควิดระบาดข้าวของก็แพงมหาโหดอยู่แล้วมาเจอราคาน้ำมันพุ่งนี่สาหัสจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว พี่ปูติ๊นนนนนน