ใครที่ชอบดูรายการเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในอเมริกา เคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมฆาตกรฆ่าต่อเนื่องส่วนมากถึงอาศัยอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือของอเมริกาที่เรียกว่า “มิดเวสต์”
สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับภูมิประเทศอเมริกา ขอเล่าคร่าวๆ พอให้เห็นภาพว่า อเมริกามีเส้นแบ่งระหว่างรัฐทางเหนือและรัฐทางใต้ที่เรียกว่า “เมสันและดิกสัน” ส่วนทางด้านตะวันออกนั้นติดมหาสมุทรแอตแลนติก โซนนั้นเรียกว่า “อีสต์โคสต์” ทุกรัฐน่าสนใจและเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มากมาย ชาวอังกฤษและชาวยุโรปล่องเรือมาขึ้นฝั่งที่นี่ ลงหลักปักฐานจนสร้างอาณานิคม 13 อาณานิคม อันเป็นรากฐานของการก่อตั้งประเทศอเมริกาในเวลาต่อมา
ส่วนฝั่งตะวันตกก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมีเทือกเขาตระหง่านและติดมหาสมุทรแปซิฟิก เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงาม อย่างแกรนด์แคนยอนหรือวนอุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน ใครที่อยู่รัฐแถวนี้มีเรื่องเที่ยวได้ตลอด อาณาบริเวณนี้คือเวสต์โคสต์
บริเวณตรงกลางค่อนไปทางเหนือนี่แหละคือดินแดนมิดเวสต์ เป็นที่ราบกว้างใหญ่ไพศาล จึงเป็นพื้นที่เพาะปลูก ไม่ติดมหาสมุทรใดๆ มีเพียงทะเลสาบน้ำจืดเท่านั้นเอง โซนอากาศหนาวสุดในอเมริกาไม่ใช่อลาสกา แต่เป็นแถบมิดเวสต์นี่แหละ แปลกแต่จริง 10 อันดับฆาตกรฆ่าต่อเนื่องสุดโหดล้วนมาจากแถบมิดเวสต์ทั้งสิ้น ดูเหมือนว่ามิตเวสต์อันแสนหนาวเหน็บและน่าเบื่อจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์คนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ
โหดจัดปลัดไม่ต้องบอกคงไม่มีใครเกินแม่นางคนนี้ นาง Belle Gunness ฆาตกรหญิงรายนี้แต่งงานกับสามีคนแรก มีลูกด้วยกันถึงสี่คน คู่สามีภรรยาเปิดร้านขนมปัง จนกระทั่งในปี 1900 ร้านขนมปังถูกไฟไหม้อย่างลึกลับ ทำให้สามีเสียชีวิต นางได้เงินจากกรมธรรม์ประกันภัยหลายฉบับ จนมีเงินซื้อฟาร์มในรัฐอินเดียนาเลยทีเดียว
แปดเดือนต่อมา สามีคนที่สองเสียชีวิต เธออ้างว่าสามีได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกน้ำร้อนลวกและถูกเครื่องบดเนื้อทุบหัว ทำให้เธอได้รับเงินประกันอีกมหาศาล จากนั้นเธอเริ่มลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์เพื่อมองหาสามีคนที่สาม พอนางหาเหยื่อรายใหม่ได้ จะเชิญบรรดาผู้ชายไปชมฟาร์มในรัฐอินเดียนา แล้วชายเหล่านั้นก็หายสาบสูญไปตลอดกาล ไม่มีใครรู้ว่าฆ่าคนไปแล้วกี่คน วันหนึ่งเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ. 1908 ไฟไหม้ฟาร์มวอดวาย ท่ามกลางซากปรักหักพัง พบศพนับสิบๆ ศพ ล้วนแต่เป็นเหยื่อนางทั้งสิ้น
ส่วนอีกรายก็ขนหัวลุกไม่แพ้กัน เรื่องราวเคสนี้ถูกนำไปสร้างเป็นหนังเรื่อง Psycho, Silence of the Lambs และ The Texas Chain Saw Massacre ฆาตกรโหดรายนี้ชื่อ Ed Gein เกิดและเติบโตที่วิสคอนซิน แม่เลี้ยงดูแบบแปลกๆ คือสอนให้กลัวผู้หญิง ผู้หญิงทุกคนเลวหมด นอกจากนั้นยังสอนให้เกลียดพวก LGBTQ คาดว่าน่าจะมาจากความเคร่งศาสนาของแม่
เอ็ดไปทำงานร้านฮาร์ดแวร์ เลิกงานก็กลับบ้านไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ทั้งที่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แม้ติดตุ้งติ้งอยู่บ้าง แต่คนที่รู้จักเอ็ดต่างรู้ดีว่าเอ็ดเป็นคนขี้อาย ไม่ชอบเข้าสังคม วันหนึ่งตำรวจบุกเคาะประตูบ้าน เพราะมีคนแจ้งความว่า Bernice Worden เจ้าของร้านฮาร์ดแวร์หายตัวไป ตำรวจเลยมาตามที่บ้านของเอ็ด เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปถึงกับผงะ เพราะเจอหัวเจ้าของร้านห้อยลงมาจากเพดานบ้านเอ็ด ราวกับเป็นเครื่องประดับ
ทั้งบ้านอวลกลิ่นเหม็นตลบ นอกจากหัวที่ห้อยต่องแต่งแล้ว ยังพบซากศพและชิ้นส่วนมนุษย์อีกเพียบ มีทั้งที่แขวนห้อยอยู่และตัดเป็นชิ้น ๆ เหมือนเครื่องประดับ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่กลายเป็นของใช้ในครัวเรือน เช่น เก้าอี้และชาม จากการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อวัยวะทั้งหมดภายในบ้าน พบว่าจำนวนศพที่อยู่ในบ้านมีทั้งหมดถึง 50 ศพด้วยกัน และเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ไม่เข้ากับร่างที่พบอีกมากมาย
รายถัดมานั้นโด่งดังมาก John Wayne Gacy ฆาตกรตัวตลกที่กลายเป็นตำนานในชิคาโก แน่นอนสิว่าเกิดในโซนมิดเวสต์อีกแล้ว ชิคาโกเป็นเมืองใหญ่ในรัฐอิลลินอยส์ หลายคนแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อรู้ว่าชายร่างท้วมอารมณ์ดี ชอบใส่ชุดตัวตลกคือฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง
การหายตัวไปของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีกลายเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดสยอง ต่อมาพบว่าชายที่ชอบแต่งตัวเป็นตัวตลกรายนี้คือ ฆาตกรสังหารเด็กหนุ่มไป 33 ศพ เป็นฆาตกรต่อเนื่องสุดโหด เมื่อมีเด็กหนุ่มหายตัวมากขึ้นๆ ตำรวจจึงเริ่มสงสัย สืบค้นต่อจนพบศพเน่าเฟะของเด็กหนุ่มถึง 33 คน จอห์นสารภาพว่ายังมีศพบางส่วนถูกทิ้งไว้ก้นทะเลสาบใกล้เคียง ถูกตัดสินลงโทษในข้อหาฆาตกรรม 33 กระทงและถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษในปี ค.ศ.1994 คดีนี้นับเป็นคดีสยองขวัญสั่นสะเทือนอเมริกา โดยเฉพาะย่านชิคาโก
ส่วนอีกรายเพิ่งได้รับการนำมาทำเป็นซีรีย์ในเน็ตฟลิกซ์เมื่อปีกลาย นั่นคือเรื่องของ Jeffrey Dahmer รายนี้เปิดซิงการฆ่าตอนอายุแค่ 18 เท่านั้นเอง เกิดในย่านมิดเวสต์เช่นเดียวกับรายอื่น เจฟฟรีย์เกิดในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ซึ่งอยู่ในโซนมิดเวสต์อีกนั่นแหละ
เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) ชายหนุ่มหน้าตาเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ใครจะคิดว่าภายใต้หน้าตาสงบเสงี่ยม ดาห์เมอร์สังหารเหยื่อมากถึง 17 ราย กลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องอันดับต้นของอเมริกา ดาห์เมอร์ก่อเหตุฆาตกรรมครั้งแรกในปี ค.ศ.1978 ขณะอายุเพียง 18 ปี จนกระทั่งถูกจับกุมในปี ค.ศ.1991 ตำรวจพบรูปถ่ายศพที่แยกชิ้นส่วน หัว และอวัยวะเพศชายถูกตัดขาด อ่างล้างมือเต็มไปด้วยกรดที่ดาห์เมอร์เคยใช้ปลิดชีพเหยื่ออีก 17 ศพ
รายละเอียดการพิจารณาคดีระบุว่าเจฟฟรีย์ “กิน” ชิ้นส่วนต่างๆ ของร่างกายเหยื่อ จึงถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค Necrophilia ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชชนิดรุนแรง แถมมีการร่วมเพศกับศพ จึงถูกตัดสินจำคุก 957 ปี แต่ถูกเพื่อนนักโทษฆ่าตายหลังจากถูกขังเพียงสองปี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี