มีเพื่อนที่ติดตามคอลัมน์ ราชดำเนินอเวนิว ถามมาว่า เห็นโพลของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เรื่องที่เขาถามประชาชนว่า อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีรึยัง รู้สึกอย่างไร ?
ผมเห็นแล้วครับ แล้วก็เห็นด้วยว่า เพื่อนพ้องหลายคน เดือดเนื้อร้อนใจมาก หากนายกรัฐมนตรีเป็นไปตามโพลที่ว่านั้น ขณะเดียวกับที่มีไม่น้อยที่ผมเห็นว่า พวกเขายิ้มกริ่มในใจ เหมือนจะบอกว่า “คราวนี้ถึงตาฉันบ้างล่ะ”
สำหรับผม ผมเฉยๆ
ผมเฉยมาตั้งแต่ที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ บรรหาร ศิลปอาชา และต้องเฉยหนักขึ้น เมื่อมีนายกรัฐมนตรี คือนังปู นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
และก็จะยิ่งเฉยหนักขึ้น ถ้าหลานสาวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้รับเลือกให้เป็น นายกรัฐมนตรี
พวกเขามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็โดยที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างนั้น ต้องมีพรรคการเมืองเสนอชื่อเอาไว้ พรรคการเมืองนั้นต้องได้เสียงข้างมาก มากพอที่จะทำให้เสียงในรัฐสภา (สภาผู้แทนราษฎรรวมกับเสียงวุฒิสภา) ลงมติให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรี
อย่างนี้แล้ว จะเอาอะไรไปขวางเขา
มีคนที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค เป็นกรรมการบริหารพรรค เขาไม่คิดจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง พอใจที่จะเป็นมือเป็นตีนให้เขา และเรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องปิดบังซ่อนเร้น ประชาชนก็พอใจที่จะเลือกพวกเขาเข้าสภา
ประชาชนพอใจอย่างนั้น
ส่วนที่ไม่พอใจ รู้ว่าถูกหลอกใช้ เขาก็หนีไปตั้งพรรคใหม่ เช่นกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ นายโภคิน พลกุล เป็นต้น
กลุ่มที่พอใจจะเป็นขี้ข้า ก็เป็นขี้ข้าต่อไป เลียตูด เลียก้นลูกสาวของเจ้านายต่อไป
นี่คือวิถีของประชาธิปไตย แบบเลือกตั้ง !
ก่อนนี้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งซ่อม ผู้สมัครรับเลือกตั้งรายหนึ่ง มันหาเสียงบอกว่า จะทำให้ค่ารถไฟฟ้าที่คนกรุงเทพฯใช้ เหลือ 20 บาท ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งก็เชื่อมัน ทั้งที่ค่าโดยสารรถไฟฟ้านั่น ผู้แทนราษฎร ไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องเลย
พอได้เป็นผู้แทนราษฎรแล้ว ไอ้หมอนั่นมันไม่เคยพูดเรื่องนี้อีกเลย
ต่อมามีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้สมัครคนหนึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลนังปู ออกมาประกาศว่า เขาทนไม่ได้กับการทุจริต
แต่ตลอดเวลาของรัฐบาลนังปู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรออกมาเตือนเรื่องจำนำข้าว 15,000 บาททุกเมล็ด นั้นเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต ปรากฏในภายหลังว่ามีการทุจริตจริงๆ รัฐมนตรีหลายคนรัฐบาลนังปูต้องติดคุก
ตัวนังปูต้องขึ้นศาล ที่ปล่อยให้มีการทุจริต นางบอกว่าจะสู้ตามวิถีประชาธิปไตย ถึงวันตัดสิน นางก็หนีตามพี่ชายขี้โกงของนาง
ไม่เห็นนายคนนี้ (นายชัชชาติ) รังเกียจการทุจริตสมัยนางปูเลย
เรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าก็เหมือนกัน บอกว่า ทำให้เหลือ 30 บาทได้
พอได้รับเลือกบอก อาจจะต้องเป็น 59 บาท
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ประชาชนรู้ไหม เห็นไหม
แน่นอน ประชาชนต้องรู้ต้องเห็น เพราะเงินภาษีส่วนหนึ่งต้องนำไปใช้หนี้ให้กับความเสียหายจากการจำนำข้าว ของรัฐบาลสมัยนางปู
ทุกวันนี้ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด
ประชาชนรู้ไหมว่า ทักษิณมันโกง มันทุจริต มันต้องหนีคุก มันต้องหาคนมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยให้มันกลัประเทศได้อย่างเท่ห์ๆ ตั้งแต่ สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แล้วมันกลับได้ไหมเล่า ?
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน ที่ประชาชนจะไม่รู้ไม่เห็น
แต่ประชาชนก็จะเอาอย่างนี้
เชิญเลยครับพี่น้อง !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี