ดูไปก็สงสารพลเมืองอเมริกัน เพราะลุงโจ ไบเดนทำเหมือนยูเครนเป็นลูกรัก อยากได้อะไรก็ทุ่มให้สุดๆตอนนี้ไปโผล่ที่ยูเครน หอบเงินไปให้อีกตั้ง 500 ล้านดอลลาร์แม้จะรู้ว่าไอ้โคตรเขี้ยวอย่างลุงแซมไม่เคยช่วยเหลือใครฟรีๆโดยไม่กดเครื่องคิดเลขหากำไรไว้ล่วงหน้าแต่ก็ไม่ควรให้พลเมืองอเมริกันต้องน้อยอกน้อยใจแบบนี้
ไม่เชื่อมาดูผลโพลล์ล่าสุดกันหน่อย ตอนเกิดสงครามยูเครน-รัสเซียใหม่ๆ เซเลนสกี้จะเอาอะไร ลุงโจไบเดนพร้อมเปย์อย่างป๋าทุกสิ่งอย่าง ทั้งเงินทั้งอาวุธแถมพลเมืองอเมริกาบางส่วนสนับสนุนยูเครนอย่างคึกคักแต่พอนานเข้าๆ ผลกระทบสงครามยูเครนทำให้สินค้าราคาแพงขึ้นพรวดพราดอย่างน่าขนลุกทำให้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจปากท้องของตัวเองมากกว่าสงครามไกลบ้านตัวเอง
ผลสำรวจครั้งใหม่โดยสำนักข่าวเอพีร่วมกับศูนย์เอ็นโออาร์ซีพบว่าชาวอเมริกัน 48% เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลส่งอาวุธให้ยูเครน ส่วน29% คัดค้าน อีก 22% เฉยๆแต่หากเทียบกับในเดือนพฤษภาคมปีกลาย ตอนนั้นคนอเมริกัน 60%เชียร์ให้ส่งอาวุธให้ยูเครน ส่วนเรื่องการส่งเงินไปช่วยเหลือยูเครนคนอเมริกัน 37% เห็นด้วย 38% คัดค้าน และ 23% เฉยๆจะเห็นว่าตัวเลขการคัดค้านมากกว่าสนับสนุน
ผลโพลล์แสดงความเชื่อมั่นในตัวลุงโจ ไบเดน ลดวูบ ลุงโจ ไบเดน บอกว่า จะช่วยเหลือยูเครนจนกว่าจะขับไล่ทหารรัสเซียพ้นจากประเทศแต่ลองหันไปดูรอบตัวทั่วทุกรัฐบ้างเถอะรัฐสภาและประชาชนอเมริกันเริ่มทนไม่ไหวเรื่องค่าใช้จ่ายก้อนโตที่อเมริกาควักให้ยูเครน รวมแล้วราวๆ 113,000 ล้านดอลลาร์ ชาวอเมริกัน 19% มั่นใจว่าไบเดนจัดการสถานการณ์ในยูเครนได้ 37% มั่นใจบ้างและ 43% ไม่ค่อยมั่นใจ สรุปว่าส่วนมากไม่มั่นใจนั่นแหละ
คนอเมริกันยังเห็นชอบถึง 63% ให้แซงก์ชันเศรษฐกิจต่อรัสเซียแต่ลดลงจาก 71% ในการสำรวจเดือนพฤษภาคม 2022คือปีก่อนชูจั๊กกะแร้เชียร์กันตั้ง 71% ตอนนี้ลดเหลือแค่ 63%ผู้ตอบแบบสำรวจ 59% ระบุว่า ความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความสำคัญมากกว่าการแซงก์ชันรัสเซียผลการสำรวจชิ้นนี้มาจากการสอบถามความคิดเห็นชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่1,068 คนระหว่างวันที่ 26-30 มกราคมที่ผ่านมา
ที่แสบสาหัสไปกว่านั้นคือเวลามีปัญหา แทนที่รัฐบาลจะรีบมาดูแลกลับทำเหมือนไม่แคร์คนในบ้านตัวเองอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดการกราดยิงในมหาวิทยาลัยที่มิชิแกนเขียนถึงเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ถัดมาอีกนิดคือรถไฟบรรทุกสารเคมีพลิกคว่ำในเมืองอีสต์ปาเลสไตน์ รัฐโอไฮโอสารเคมีอันตรายรั่วไหลและไฟไหม้ควันพิษโขมงจนต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
แต่ปัญหาขณะนี้คือบางครอบครัวเตรียมย้ายออกจากเมืองนี้แบบถาวรเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ที่นี่หลังเกิดเหตุสารเคมีรั่วออกจากรถไฟตกราง
ชาวเมืองหลายคนบอกว่ายังไม่กล้าดื่มน้ำเพราะพบไอพิษลอยไปตามแม่น้ำโอไฮโอ แถมปลาตายลอยฟ่องเพียบชาวเมืองบอกว่ายังไม่ได้รับทราบความจริงใดๆเกี่ยวกับสารเคมีที่รั่วจากรถไฟเลยขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ายังมีหลายอย่างที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพของชาวเมือง จากพิษของสารเคมีที่รั่วไหลออกมาหลังรถไฟตกรางชาวบ้านแจ้งว่าปวดหัวแสบตาโดยไม่ทราบสาเหตุสัตว์ตายเพียบหลังเหตุรถไฟตกราง
เมืองนี้มีประชากรเพียง 4,700 คน อาศัยอยู่ที่นี่อย่างสุขสงบด้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาขบวนรถไฟสินค้าที่บรรทุกสารเคมีของบริษัทรถไฟ นอร์โฟล์ค ซัทเธิร์นตกรางจนเกิดเพลิงไหม้รถไฟและสินค้าที่เป็นสารเคมีบนรถไฟเกิดควันพิษลอยฟุ้งไปทั่วเมือง ซึ่งอาจปนเปื้อนในแหล่งน้ำชาวเมืองต้องอพยพ โดยเพิ่งทยอยกลับบ้านในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแม้บริษัทรถไฟระบายสารเคมีมีพิษทั้งหมดออกจาก 5 ตู้โดยสารที่ตกรางและทำลายทิ้งทั้งหมดด้วยการเผาแบบควบคุมไปแล้วแต่ชาวเมืองก็ยังไม่วางใจ
ไมค์ ดีไวน์ ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ ยืนยันว่าทั้งคุณภาพอากาศและคุณภาพน้ำในเมืองอีสต์ปาเลสไตน์ปลอดภัย แต่ก็ยอมรับว่าชาวเมืองหวาดผวาที่จะอยู่ในเมืองนี้อีกต่อไปทำให้เกิดการประชดประชันถึงขั้นทำภาพล้อว่าจะประกาศเปลี่ยนเมืองนี้ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนเผื่อจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาลบ้างหันมาดูรัฐอิลลินอยด์ เหตุเกิดที่ชิคาโกใครไปใครมาชิคาโกต้องลงที่สนามบินโอแฮร์
สนามบินโอแฮร์เป็นสนามบินขนาดใหญ่ระดับประเทศถือเป็นหน้าตาและด่านแรกของชิคาโกแต่ตอนนี้สนามบินอันหรูหราใหญ่โตแห่งนี้กลายเป็นที่พักอาศัยของคนจรจัดไปแล้ว สร้างความตกใจให้ผู้โดยสารที่ลงจากเครื่องเพราะคนจรจัดนอนกันเหลื่อนเทอร์มินอล ทุกคนกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยสาเหตุที่ฝูงคนไร้บ้านแห่เข้ามานอนในสนามบินถึงคืนละ 200-300คนเพราะหลบอากาศหนาว จริงๆแล้วทางการชิคาโกมีบ้านและสถานที่รับรองคนจรจัดเหล่านี้ พร้อมอาหาร
แต่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพวกนี้ถึงลงทุนนั่งรถออกมาไกลถึงนอกย่านใจกลางชิคาโกเพื่อมานอนในสนามบินโอแฮร์
พนักงานภายในสนามบินช่วงกะกลางคืนที่เทอร์มินอล 1 และเทอร์มินอล 2 ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ไม่มีใครรู้สึกปลอดภัยทั้งตัวเธอและเพื่อนร่วมงานเคยมีประสบการณ์ถูกคนไร้บ้านในสนามบินคุกคามมาแล้ว คนเหล่านี้ทิ้งขยะเกลื่อนภายในห้องน้ำสนามบิน
พวกคนไร้บ้านไม่เพียงแต่ปัสสาวะบริเวณทางเดินของเทอร์มินอลแต่ยังเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำด้วย บอกตรงๆ ว่ากลัวถ้าต้องเจอแบบนี้โดยเฉพาะถ้ามาถึงสนามบินตอนกลางคืนแล้วเจอคนเหล่านี้เกลื่อนเต็มสนามบิน
พอเจ้าหน้าที่สนามบินแจ้งตำรวจ ตำรวจในชิคาโกดี๊ดีบอกว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้จนกว่าจะมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นเอ้า..แบบนี้ก็ได้เหรอ
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งเโพสต์ภาพคนไร้บ้านนอนบนพื้นภายในเทอร์มินอลที่ 2ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายโพสต์ภาพคนไร้บ้านไม่กี่คนกำลังอาศัยอยู่ภา
ยในสนามบินในสภาพตีนเปล่า มาพร้อมสัมภาระทั้งจักรยานขยะกลาดเกลื่อนบริเวณประตูซึ่งเป็นกระจกและบันไดเลื่อน
แต่ละคืนจะมีกลุ่มคนไร้บ้านจำนวนเกือบ 300 คนเข้ามาอาศัยอยู่ในสนามบิน ตั้งแต่บริเวณรอรับกระเป๋าเดินทางไปจนถึงอาคารเทอร์มินอลโดยสารทั้ง 5 แห่งภายในท่าอากาศยานที่ถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 4 ของอเมริกา
แม้จะเป็นเรื่องที่ทางการแต่ละรัฐต้องดูแลแต่นี่คือสวัสดิภาพของพลเมืองอเมริกันโดยรวมที่รัฐบาลกลางจะต้องเอาใจใส่ไม่ใช่เอาแต่โอ๋ประเทศอื่นเพียงเพราะอยากได้หน้าและอยากค้าอาวุธ
.................................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี