สิงห์บุรีเป็นเมืองเก่าแก่ ตัวเมืองเดิมตั้งอยู่ที่ริมลำน้ำจักรสีห์ ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมือง แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ก็เป็นดินแดนประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นสมรภูมิรบที่ห้าวหาญของสายเลือดไทยที่เด็ดเดี่ยว สามารถใช้กลยุทธ์และหัวใจที่เสียสละเพื่อชาติ ปกป้องแผ่นดินไว้เพื่อลูกหลานไทย แม้จะเสียเลือด เสียเนื้อ จนหยดสุดท้าย จากห้วงเวลาของการสู้รบและเหนื่อยยาก เมื่อถึงยุคสมัยของพระพุทธเจ้าหลวง (ร.๕) เสด็จประพาสเมืองสิงห์  ทรงจอดเรือประทับที่บ้านหัวป่าก์ ชาวบ้านได้ข่าวจึงช่วยปรุงอาหารถวาย ต้นเครื่อง-แม่ครัวในยุคนั้นได้สืบทอดวิชาการปรุงอาหารรสเลิศ เกิดเป็นตำนานแม่ครัวหัวป่าก์เมืองสิงห์จวบจนปัจจุบัน ภูมิปัญญาในการหาเครื่องปรุงไม่ว่าจะเป็นพืช ผัก กุ้ง ปู ปลา ที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น มีความอุดมสมบูรณ์ของลำน้ำหลายสายเชื่อมโยงการดำเนินชีวิตของชาวบ้านริมน้ำ เป็นวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ การยังชีพด้วยการเกษตร

นอกจากนั้นยังปรากฏร่องรอยของตำนานแห่งนักรบไทย บ้านบางระจัน ซึ่งมีหลากเชื้อชาติต้นกำเนิดจากชาวลาวเวียง ลาวบ้านแป้ง ที่พลัดถิ่นจากสงคราม มาตั้งหลักปักฐานกลายเป็นชนพื้นบ้านแถบอำเภอพรหมบุรี ผสมกลมกลืนเป็นความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่สืบทอดมาจวบจนปัจจุบัน

ทางเข้าร้าน

ดังที่ได้เกริ่นว่าเมืองสิงห์เป็นเมืองปลา ทั้งลำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยคือต้นทางของอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ร้านนี้แม้เป็นร้านเล็ก ค่อนข้างจะซ่อนเร้น แต่เป็นตัวจริงเสียงจริงของร้านอร่อยแห่งเมืองสิงห์ ในความร่มรื่น ทุกเมนูปลาล้วนสดสนิท รสค่อนข้างจัดจ้าน ที่ควรเผ็ดก็เผ็ด ที่ควรหวาน ควรเค็ม เฉกเช่นรสที่รับถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ

ปลาค้าวทอดน้ำปลา

สมัยเมื่อไม่นานมานี้ ปลาค้าวแต่ละตัวที่พรานเบ็ดตกได้จากแม่น้ำตัวโตประมาณ 1-2 เมตร ปัจจุบันปลาโตไม่ทันให้คนกิน จึงเหลือเพียงขนาด ½-1 เมตร อย่างไรก็ตามเป็นปลาหนังเนื้อดีเยี่ยมของคนลุ่มน้ำนี้ ซึ่งชาวกรุงที่ไม่รู้จักเมื่อได้ชิมถึงกับฮือฮากันเป็นแถวๆ

ปลาแดงทอดกระเทียม

อยู่ในวงศ์ปลาเนื้ออ่อน มีสกุลรุนชาติ มีรูปร่างลักษณะคล้ายปลาน้ำเงินซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่ปากล่างยื่นน้อยกว่า ตาโต แต่ส่วนคางไม่เชิดขึ้น ปลาแดงถือเป็นปลาอีกชนิดหนึ่ง ที่มีราคาซื้อขายกันแพง ของร้านนี้ตัวใหญ่ขนาดประมาณ 10 นิ้ว ทอดกรอบโรยกระเทียมเจียวเคี้ยวได้ทั้งตัว

ปลาคังลวกจิ้ม

ปลาคัง หรือปลากดคัง พบได้ตามลุ่มน้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำแม่กลอง เป็นปลาแม่น้ำเนื้อดีที่นิยมกินอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีเนื้อมาก เนื้อนุ่ม และมีรสมันอร่อย ปัจจุบันพบได้น้อยตามธรรมชาติจึงทำให้เป็นปลาที่มีราคาสูง เนื้อปลาสดใหม่หั่นติดหนังลวกกับสมุนไพรแก้คาว จิ้มกินกับน้ำจิ้มปรุงพิเศษ เพียงเห็นก็น้ำลายสอ

ฉู่ฉี่ปลาน้ำเงิน

ตระกูลปลาหนังอยู่ในแหล่งน้ำสายหลักในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำโขง มีวรรณะของปลาแถวหน้า นำมาปรุงเป็นฉู่ฉี่ปลาเครื่องแกงเผ็ดที่โขลกกันสดๆ สั่งได้ทั้งฉู่ฉี่ที่ใช้ปลาสดหรือปลาทอด รสกลาง ออกหวานนิด ถ้าใครไม่ชอบหวาน ให้แจ้งได้ตอนสั่ง

ต้มยำปลาสายยู (ปลาลึง)

ปลาสายยู ปลาลึง ปลาโมงออดอ้อ เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ปลาสวาย มีลักษณะคล้ายปลาเผาะ อันเป็นปลาที่อยู่ในสกุลเดียวกันในแหล่งน้ำไหล พบในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง อีกหนึ่งชื่อที่กรมประมงตั้งให้ คือ "สายยูเผือก" เป็นปลาที่มีเนื้อหวานแน่น บั้งเป็นชิ้น ใช้ทำต้มยำน้ำใส หอมเครื่องต้มยำ โรยหน้าผักชีใบเลื่อย ปรุงได้เปรี้ยว เผ็ดกลมกล่อม เป็นรสต้มยำตามมาตรฐาน ซดแล้วหูตาถึงกับสว่างไสว

แกงป่าไก่บ้าน

เครื่องแกงป่าโขลกเองวันต่อวันได้กลิ่นถึงกับจามไปตามกัน ระดมใส่ผัก มะเขือนานาชนิดเท่าที่หาได้เหมือนนายพรานเดินป่าแกงกินกันเอง แม้ไม่มีไก่ป่า ก็ได้ไก่พื้นบ้านเหนียวสู้ฟันเล็กน้อย เป็นสูตรแกงป่าอีกหนึ่งสูตรของภาคกลาง ถ้าวัยรุ่นได้กินน่าใช้สำนวนว่า “อร่อยจนต้องตะโกน”

ไข่เจียวโบราณ

เจียวได้กรอบฟู ข้างในไข่ซ่อนด้วยหอมแดง ใบโหระพา พริกขี้หนู กินคู่กับแกงป่า ราวคู่ตุนาหงัน

หมูป่าผัดเผ็ด

ปัจจุบันหมูป่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อกินเนื้อเป็นอาหาร หรืออาจจะเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้านของบางคนก็ได้ โดยมีการทำฟาร์มหมูป่าหรือผสมพันธุ์กับหมูบ้านโดยทั่วไป ขนของหมูป่าแต่ละเส้นจะยาวและหยาบมาก มีรูขุมขนที่หนังจะรวมกันเป็นกระจุกละ 3 เส้น แต่ละรูขุมขนมีขน 1 เส้น ขณะที่รูขุมขนของหมูบ้านจะกระจายไปทั่วตัวไม่รวมเป็นกระจุก หมูป่าแท้จะไม่ค่อยมีมัน หนังก็จะเคี้ยวได้สบาย กรุบกรอบ  

หมูผัดเผ็ดทั่วไปนั้นโดยมากจะเจอเนื้อหมูเหนียว หนังแข็ง อาจจะเจอหมูแก่ก็ได้ ร้านที่ทำอร่อยจะเริ่มต้นจากการเลือกหมูส่วนพื้นเนื้อท้องที่มีชั้นมันบาง และต้องรอบรู้วิธีการแก้เหนียวด้วยการหั่นบาง บางร้านอาจต้มให้เนื้อหนังนุ่มก่อนเอามาผัดเผ็ดด้วยเครื่องแกงโขลกสด ใส่หัวกะทิเข้มข้นอย่างไม่ขี้เหนียว

กบสับผัดเผ็ด

กบสับจนละเอียดไม่มีกระดูกมากวนใจแทงแก้มแทงปากเนื้อร่วน เผ็ดกลางๆ ใส่พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับ โปรยใบกะเพราแดงหอมเข้ม ช่วยให้เจริญอาหารเป็นอย่างดี

อาหารที่นี่รสชาติพื้นบ้านเหมาะยิ่งกับบรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ คล้ายการล้อมวงกินข้าวยามบ่ายคล้อยที่ใต้ร่มไม้ริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นร้านอร่อยของคนเมืองสิงห์ ยังมีปลาที่ไม่ค่อยได้พบ เช่น ปลาสังฆวาส ปลาเทโพ ปลาม้า ปลาไหล ปลาเนื้ออ่อน ฯลฯ แต่ละวันปลาที่ได้อาจจะไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับเมื่อคืนหาได้ปลาอะไร อีกทั้งปลาช่อนแม่ลาก็เป็นปลาช่อนที่ชื่อดังกระฉ่อนไปทั่วประเทศ

ร้านหนุงหนิง

เลขที่ 36 หมู่ 9 ตำบลต้นโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี 16000

เปิด : เวลา 11.00-21.00 น.

โทรศัพท์ : 08-8634-1910 และ 08-2198-9997

Facebook : ร้านอาหารหนุงหนิง ปลาแม่น้ำสิงห์บุรี

พิกัด 14°51'07.9"N 100°25'21.1"E

ภาพถ่าย มีรัติ รัตติสุวรรณ และจาก Facebook ของร้าน