ประเทศไทยเวลานี้ไม่ต่างจากละครโรงใหญ่ ซึ่งละครแต่ละเรื่อง ทั้งละครการเมืองและละครแอ๊กชั่นแนวบู๊ระห่ำประเภทอาชญากรรมที่เล่นกันอยู่ ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน คือผู้ร้ายลอยนวล
ได้นั่งติดตามข่าวกรณี“แป้ง นาโหนด”หรือนายเชาวลิต ทองด้วง วัย 37 ปี นักโทษแหกคุก ที่ใช้กุญแจสะเดาะตรวนหนีออกจากโรงพยาบาลมานานนับเดือน เปิดดูข่าวตั้งแต่เช้ายันดึกดื่นก่อนเข้านอนก็ต้องมีข่าวของ “แป้ง นาโหนด” เหมือนนั่งดูละครเรื่อง“โปลิศจับขโมย”
แต่ในละครนั้นใช้ตำรวจแค่สองคนตามล่านักโทษ ไม่ต้องใช้ตำรวจเป็นกองทัพเหมือนล่า “แป้ง นาโหนด”นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่หนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 22 ตุลาคม 2566
นายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด พื้นเพเป็นคนจังหวัดพัทลุง อาชีพเดิมเปิดอู่ซ่อมรถ เคยเล่นการเมืองท้องถิ่น ลงสมัครสมาชิก อบจ.พัทลุง แต่สอบตก ประวัติในทางคดีนั้น นอกจากคดีที่ร่วมกับพวกเข้าปล้นชิงตัวผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด ซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงตัดสินจำคุก 20 ปี 6 เดือน ก็ยังมีคดีติดตัวเกี่ยวกับยาเสพติด คดีอาวุธปืน และคดีความรุนแรงอีก 11 คดี อาทิ คดีสมคบค้ายาเสพติด คดีฟอกเงิน และคดีร่วมกันฆ่า อีกทั้งยังมีข่าวว่าถูก ปปง.อายัดทรัพย์ที่นำไปฝากพี่สาวในจังหวัดสงขลาโดยมีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท
คดี“แป้ง นาโหนด”ที่แหกคุกครั้งนี้ หน่วยราชการไทยทำประหนึ่งว่าใหญ่กว่าคดีนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เลี่ยงกฎหมายด้วยการออกมารักษาตัวนอกเรือนจำเสียอีก ถึงขนาดที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องสั่งการกำชับให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ ลงมาจัดการเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ
หลังเกิดเหตุสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทีมเป็นกองทัพออกไล่ล่า“แป้ง นาโหนด”ในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด ประกอบไปด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส รวมทั้งชุดแดนไทย 54 ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร จังหวัดเพชรบุรี, ตำรวจตระเวนชายแดน 43 หน่วยซิงก้า, ตำรวจตระเวนชายแดน 44 หน่วยลาซู พร้อมด้วยชุดสอบสวนจังหวัดพัทลุง มีอาวุธครบมือ จัดหนักจัดเต็ม มีทั้งกำลังชุดชำนาญเดินป่าและชำนาญแกะรอย รวมทั้งชุดแม่นปืนบนอากาศก็ยังมีเฮลิคอปเตอร์คอยบินสนับสนุนและสังเกตการณ์
ขณะที่กรมราชทัณฑ์โดยกระทรวงยุติธรรม จากตั้งค่าหัวนำจับ“แป้ง นาโหนด”ในตอนแรก 1 แสนบาท ก็ได้เพิ่มเป็น 1 ล้านบาท
ปรากฏว่าการปฏิบัติการไล่ล่านักโทษหนีคุกเพียงคนเดียวกว่าหนึ่งเดือนล้มเหลวไม่เป็นท่า แถมยังถูก“แป้ง นาโหนด”ตบหน้าจากการออกมาเผยแพร่คลิปแฉกระบวนการยุติธรรมของรัฐ โดยคลิปแรกถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งปิดศูนย์ปฏิบัติการไล่ล่า และวันรุ่งขึ้นถูกปล่อยซ้ำออกมาอีกหนึ่งคลิป ทั้งสองคลิปพูดถึงสาเหตุที่เขาต้องหลบหนีเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดี และมีการสาวไส้พาดพิงไปถึงอัยการ ตำรวจ และทหาร
ร้อนไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงยุติธรรม โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบคลิป“แป้ง นาโหนด”ว่ามาจากที่ไหน และส่งถึงใครเพื่อเป็นแนวทางการติดตามตัว รวมทั้งได้สั่งจเรตำรวจลงไปตรวจสอบว่ามีการพาดพิงตำรวจคนใดบ้าง มีข้อเท็จจริงอย่างไร เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ขณะที่สำนักอัยการสูงสุดก็ได้ตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามที่นักโทษแหกคุกผู้นี้แฉเรื่องอัยการเช่นกัน และสำหรับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่องดูเหมือนว่ายังเล่นละครต่อด้วยการมอบหมายให้กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบบุคคลในคลิป ว่าเป็นนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ“แป้ง นาโหนด”จริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม คดี“แป้ง นาโหนด”เมื่อเทียบกับคดีทุจริตโกงชาติโกงแผ่นดินของทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวแล้ว การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไทยต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทักษิณหนีไปอยู่ต่างประเทศ ไม่เคยมีการตั้งทีมไล่ล่าเพื่อนำตัวกลับมาติดคุก อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งข้าราชการและนักการเมืองยังบินไปกราบอกทักษิณถึงที่ จะมีก็ตำรวจไทยหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าทักษิณและน้องสาวพำนักอยู่ที่ใด
ผ่านไปกว่า 15 ปี เมื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”กลับมาก็ไม่ติดคุกอีก มิหนำซ้ำตำรวจ นักการเมือง และข้าราชการระดับสูง ยังแห่ไปต้อนรับนักโทษหนีคดีผู้นี้ถึงสนามบิน ราวกับว่าต้อนรับวีรบุรุษกลับบ้าน
ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โกงชาติโกงแผ่นดินนับแสนล้าน หอบเงินไปเสวยสุขในต่างประเทศ เดินทางไปไหนต่อไหนสะดวกสบายด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ไม่ต้องหลบหนีไปซ่อนตัวในป่าในเขา ชีวิตแสนสบายจริงๆ มิหนำซ้ำยังจัดรายการออกอากาศเผยแพร่ทางออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์ วิพากษ์วิจารณ์บ้านเมือง วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของไทย ยกหางตนเองว่าเป็นคนดีเลิศประเสริฐศรี แต่ไม่เคยยอมรับว่าที่ต้องหนีไปเพราะมีโทษคดีทุจริตคอร์รัปชั่นแต่กลัวติดคุกจึงต้องหนี
ในยามนี้ รัฐบาลตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมา รัฐมนตรีในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงสส.ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กลับนิ่งเฉยที่นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เลี่ยงกฎหมายไม่ยอมติดคุกโดยอ้างว่าป่วย เข้ารับการรักษาตัวโดยพักอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วันกลับมาจนถึงวันนี้รวมเป็นเวลา 97 วัน
นับว่าเป็น“นักโทษเทวดา”จริงๆ ครับพี่น้อง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี