จีนแคะที่เรารู้จักมีชื่อเรียกทางการว่า “ฮากกา” เป็นกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งของชาวจีนฮั่นมีพื้นเพมาจากบริเวณแม่น้ำหวงทางตอนเหนือ อพยพลงใต้เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในสงครามเมื่อหลายศตวรรษก่อน แต่เนื่องจากชาวพื้นถิ่นกวางตุ้งได้จับจองพื้นที่อุดมสมบูรณ์ริมทะเลเป็นผู้ย้ายถิ่นฐานดั้งเดิมจนหมด ทำให้ชาวจีนแคะจำนวนมากจำต้องใช้ชีวิตในเขตภูเขาของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งการอพยพย้ายถิ่นนี้ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมีการส่งต่อให้อพยพไปยังประเทศอื่นๆ แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากอพยพมาที่เหมยโจวในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา

ชาวจีนแคะแบ่งคร่าวๆ เป็นสองกลุ่ม คือแคะลึกและแคะกึ่งเขา ล้วนเน้นเรื่องหลักการและคุณธรรมมาก ทำให้มีนิสัยที่เห็นเด่นชัดคือ ขยัน ประหยัด มัธยัสถ์ กล้าหาญ เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ใฝ่ศึกษา เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊  ชาวจีนแคะจึงนิยมเป็นนักการเมือง และรับราชการ โดยจีนแคะส่วนใหญ่มีอุดมการณ์รักชาติ นิสัยก็แกร่งกล้า ผิดแผกจากจีนใต้กลุ่มอื่นอย่างชัดเจน ตั้งแต่โบราณจึงมีชาวฮากกาสอบได้เป็นจอหงวนมากที่สุด มีนักการเมืองชื่อโด่งดังเป็นทหารและนักปฏิวัติ เช่น หงซิ่วฉวน หัวหน้าขบถไท่ผิง ดร.ซุนยัตเซ็น นายพลจูเต๋อ เติ้งเสี่ยวผิง เย่ เจี้ยนอิง นายพล 5 ดาวยุคปัจจุบัน หลี่เติงฮุยอดีตนายกรัฐมนตรีของไต้หวัน ลีกวนยูผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ ส่วนในประเทศไทยได้แก่ตระกูลล่ำซำเจ้าของธนาคารกสิกรไทย นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริษัท นิคมอุตสาหกรรมอมตะ เป็นต้น

ในประเทศไทยชุมชนชาวแคะใหญ่ที่สุด อยู่ที่บ้านห้วยกระบอก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี อำเภอท่าเรือ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเบตง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสงขลา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย

ในร้านวุฒิกอ

ด้านอาหารการกิน มีภัตตาคารเปิดบริการอยู่หลายร้านทั่วประเทศ ตั้งกระจัดกระจายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  โดยมากจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแคะที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวฮากกาผู้เชี่ยวชาญการทำเต้าหู้ ลูกชิ้นแคะ หมูสามชั้นนึ่งผักแห้ง  เป็นต้น ร้านวุฒิกอ คือหนึ่งในตำนานอร่อยของอาหารแคะย้ายมาจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลานานกว่า 50 ปี เริ่มจากการรับทำโต๊ะจีน ฝีมือจึงไม่เป็นสองรองจากใครในยุทธจักร

ก๋วยเตี๋ยวแคะเย็นตาโฟ (65 บาท)

“เย็นตาโฟ” มีที่มาจากอาหารแคะเดิมเรียก “ยองเถ่วฟู” (酿豆腐 สำเนียงฮากกา) เรียกเพี้ยนจากคำนี้นั่นเอง เมื่อก่อนเคยกินตามหาบเร่ในสวนลุมพินี หรือตามงานวัดตามจังหวัด เมื่อก่อน เรียก “เต้าหู้ต้มยำ” บางครั้งก็เรียก “ก๋วยเตี๋ยวผักบุ้งไต่ราว” ที่แผงขายก๋วยเตี๋ยวจะเห็นขึงลวดเป็นราวไว้ในตู้กระจก เอาผักบุ้งจีนหรือผักบุ้งไทย ปลาหมึกกรอบทั้งตัว แขวนห้อยระโยงระยาง ในน้ำก๋วยเตี๋ยวเห็นเป็นสีแดงนั้นของเดิมเป็นการใส่อั่งขัก (红曲สำเนียงแต้จิ๋ว) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งเพาะเลี้ยงในข้าวสุก แล้วหมักจนเม็ดข้าวเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม บ้างก็ผสมเต้าหู้ยี้แดง ซึ่งซอสอั่งขักนี้ยังใช้ปรุงอาหารแคะอีกหลายอย่าง

เต้าหู้ยัดไส้นึ่ง (55 บาท)

เนื้อสัมผัสเต้าหู้นุ่มเนียน ผ่าสี่แล้วยัดไส้ด้วยเนื้อหมูสับปรุงรส จิ้มกินกับน้ำจิ้มหรือซอสตามชอบ โดยมากจะเห็นใส่ในก๋วยเตี๋ยวแคะ

ลูกชิ้นหัวผักกาดนึ่ง (55 บาท)

ลูกชิ้นที่ปั้นอย่างเรียบง่ายด้วยการขูดหัวผักกาดผสมแป้งท้าวยายม่อมแล้วเอานึ่งจนสุกสีใส จิ้มกินกับพริกสับน้ำซีอิ๊วแบบครึ่งไทยจีน ได้สัมผัสความหยุ่นๆ เหนียวๆ อร่อยอย่างนึกไม่ถึง

ลูกชิ้นเผือก (55 บาท)

เผือกทำอะไรก็อร่อย ขูดเผือกเป็นเส้นเคล้าแป้งปรุงรสแล้วปั้นเป็นลูก ทอดจนผิวนอกเกรียม กินกับน้ำจิ้มบ๊วยรสเปรี้ยวหวาน ต่างกับเผือกทอดของจีนกวางตุ้งที่ใช้เผือกกวนสอดไส้ปั้นเป็นก้อนรีเหมือนลูกรักบี้ ทอดกินกับน้ำจิ้มบ๊วยเหมือนกัน แต่รสชาติไปคนละแบบ

เคาหยกผักเหมยไช่ (120 บาท)

เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของชาวจีนโดยทั่วไป นัยว่าต้นกำเนิดจากหูหนานและกวางตุ้ง บ้างก็ว่าเป็นของชาวจีนแคะ มีวิธีการปรุงที่พิถีพิถันสลับซับซ้อนหมักหมูกรอบหั่นบางกับเครื่องยาจีนที่แตกต่างกันตามสูตรใครสูตรมัน แล้วรองจานด้วยผักแห้งเหมยไช่นึ่ง บางทีก็ใช้เผือกทอดแผ่นเท่าหมูรองแทนผัก หน้าตาเคาหยกที่นี่อาจจะดูไม่ค่อยหล่อเหลา แต่ความอร่อยนั้นไม่เหมือนเจ้าอื่นแน่นอน

คากิผัดเปรี้ยวหวาน (120 บาท)

คากิสับเป็นท่อนโต ดูเผินๆ คล้ายคากิพะโล้ ต้มได้นุ่มจนหนังหมูย้วย ต่างจากพะโล้ตรงที่ใช้สมุนไพรไม่เหมือนกัน กลิ่นอายจึงหอมไปอีกแบบ

ไก่ต้มราดซอสเบตง

ไก่ 3 สายพันธุ์ต้มแล้วสับได้สวยวางเรียงราย โรยกระเทียมเจียว ราดด้วยน้ำซอสสูตรเบตง กลิ่นซีอิ๊วหอมมีเสน่ห์ หนังไก่บางเนื้อนุ่ม ทุกชิ้นสับมาติดหนังกรุบ คนละโทนกับไก่ไหหลำหรือไก่แต้จิ๋ว

หมี่เบตงแคะแห้ง (60 บาท)

เส้นหมี่จากเบตงมีเส้นใหญ่กว่าบะหมี่ทั่วไปหน่อย ทรงเครื่องกับเต้าหู้ ลูกชิ้นแคะหลายชนิด สั่งมาชามเดียวได้กินลูกชิ้นแทบทุกชนิด

ซาลาเปา (ลูกละ 28 บาท)

มีไส้ 3 ชนิด เนื้อหมูแดง หมูสับ และไส้ครีม ปั้นแบบลูกโตไส้ทะลัก กินลูกเดียวจวนอิ่ม ตัวแป้งนุ่มละไม ให้อยู่แถวหน้าของวงการซาลาเปาแห่งประเทศไทย

เลขที่ 5 ถนนเอกชัย ซอยเอกชัย 112 แขวงบางบอนเหนือ กทม. 10150

เปิด 09.00น.-15.00น. (หยุดวันจันทร์)

โทร.098 919 5691

business.google.com/dashboard/l/01634867257697213319?hl=th