วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ในยุคไทยรักไทย พวกทักษิณก็โจมตีฝ่ายที่ขัดขวางไม่ให้เขาได้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในนามประชาธิปไตย และ “ประชาชนส่วนใหญ่เลือกมา” นั่นย่อมหมายความว่าเขาเป็นพวกอำนาจใหม่
มาถึงยุคปัจจุบัน ทักษิณได้ครองอำนาจประเทศแทบเบ็ดเสร็จ ยกเว้นสถาบันทหารกับสถาบันกษัตริย์ แต่กระนั้นเขาก็ถูกโจมตีจากพรรคส้มว่าเป็นพวก “อำนาจเก่า”
คำว่า “พวก” อำนาจเก่านั้นไม่ได้หมายถึงทักษิณกับ “พรรคแดง” เท่านั้น แต่หมายถึงสถาบันทหารกับสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย เพราะทักษิณได้กลับประเทศอย่างเท่ๆ ก็เพราะพวกอำนาจเก่า
ทักษิณและพรรคแดงกลายเป็นพวกอำนาจเก่า และพรรคส้มเป็นพวกอำนาจใหม่
พรรคส้มก็เป็น “พวก” เช่นกันแต่พวกของพรรคส้มเป็นใคร หรือใครเป็นพวกกับพรรคส้ม คำตอบง่ายมาก ว่ากันตามข่าวและข้อมูลในโลกออนไลน์ก็ต้องบอกว่า คือประเทศมหาอำนาจตะวันตก กับพวกที่ต้องการจะแบ่งแยกดินแดน เรื่องนี้คนวงนอกอย่างผมไม่รู้แน่ชัด แต่ฝ่ายความมั่นคงรู้ดี
อีกคำหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของสาธารณชนก็คือ “เก่า” และ “ใหม่”
คำว่า เก่า นั้นให้ความรู้สึกนึกคิดว่าล้าหลัง ไม่ทันการณ์ หมดสภาพ ใช้ไม่ได้แล้ว ส่วนคำว่า ใหม่ นั้นตรงกันข้าม คือ ทันการณ์ ทันสมัย เป็นของจริง เป็นความหวัง มีอนาคต เราจึงเห็นพวกนักการเมืองมักจะตั้งชื่อพรรคโดยมีคำว่าใหม่ ต่อท้ายอยู่หลายพรรค ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
แม้แต่ชื่อรุ่นของคนก็มีคำว่า “คนรุ่นเก่า” กับ “คนรุ่นใหม่”
คำว่าใหม่ จึงใช้เป็นคำดูถูกเหยียบย่ำคำว่าเก่า
คำว่า “อำนาจเก่า” จึงหมายถึงพวกที่ครองอำนาจอยู่นั้นล้าหลัง ไม่ทันการณ์หมดสภาพ ใช้ไม่ได้แล้ว คำว่า “อำนาจใหม่”ก็หมายถึงพวกที่ทันการณ์ ทันสมัย เป็นของจริง เป็นความหวัง มีอนาคต
แต่ในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เราจะเห็นว่าคนรุ่นใหม่โง่งมยิ่งกว่ากระบือก็มาก คนเก่งก็พอมี เพราะมีประสบการณ์น้อยและอคติ ส่วนคนรุ่นเก่าที่รู้ดีมีประสบการณ์มาก ก็มีทั้งคนดีและคนชั่ว
ส่วนในเรื่องการเมือง แม้พรรคการเมืองเก่า - คนเก่า รู้ดีมีประสบการณ์มาก แต่ก็ใช้ไปในทางดีก็มี ทางชั่วร้ายก็มาก
ส่วนพรรคใหม่ - คนใหม่ส่วนมากนั้นโง่มากกว่าจะฉลาด มีแต่วาทะและสร้างภาพสร้างประเด็นให้คนสนใจ เกาะกระแสหาคะแนนเสียงอย่างหน้าด้านๆ ก็มาก
ดังนั้นอำนาจเก่าหรืออำนาจใหม่ก็ขึ้นอยู่กับคน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำ (เก่า - ใหม่) แต่ขึ้นอยู่กับสันดานคน และทั้งหมดก็ล้วนต้องการอำนาจทั้งนั้น
“อำนาจ” นั้นไม่มีเก่าหรือใหม่ อำนาจก็คืออำนาจ และมันเป็นที่หมายปองของคนจำนวนไม่น้อย เพราะผู้ที่มีอำนาจนั้นอยากได้อะไรก็มักจะได้อย่างใจ สามารถควบคุมและสั่งการได้แทบทุกเรื่อง จะผิดหรือถูก จะโกงหรือไม่โกงก็สั่งได้!
เหตุที่คนจำนวนมากต้องการอำนาจก็เพราะ “อำนาจเป็นสัญชาตญาณของสัตว์” ดูหมูหมาวัวควายไก่เป็ดก็เห็น มันจะต่อสู้แย่งชิงกัน ยอมเจ็บยอมตายเพื่อจะได้เป็นจ่าฝูง เพราะเมื่อเป็นจ่าฝูงแล้วมันก็สามารถควบคุมฝูงได้ ส่วนจะพาฝูงไปเป็นหรือไปตายในยามวิกฤตนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
มันต้องการเป็นจ่าฝูงไว้ก่อน!
จ่าฝูงนั้นได้ผสมพันธุ์ก่อนหรือแทบจะได้ผสมพันธุ์อยู่ตัวเดียว ได้กินก่อนและได้กินดีกว่า ได้ที่อยู่ที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า มันเป็นธรรมชาติของสรรพสัตว์ที่ต้องมีตัณหา คนก็เช่นกัน คือ “ตัณหาในอำนาจ”
แต่คนแตกต่างกับสัตว์ตรงที่มีความคิด คิดดีคิดชั่วได้
คนที่กระสันอำนาจมากเท่าไหร่ก็แสดงว่าเขามีสัญชาตญาณอย่างสัตว์มากเท่านั้น ถ้าถึงขนาดหน้ามืดตามัวจนไม่สนความดีความชั่ว นั่นก็คือสัตว์เดรัจฉานในร่างคน (ในชาติต่อๆ
ไปจิตของเขาก็จะสร้างรูปลักษณ์ที่เป็นสัตว์เดรัจฉานตามที่จิตของเขาเป็นในชาตินี้)
ดังนั้นไม่ว่าอำนาจเก่าหรืออำนาจใหม่ก็ล้วนแต่เป็นสัญชาตญาณของสัตว์ทั้งนั้น เมื่อมองเข้าไปในสังคมจะเห็นว่า มีผู้คนจำนวนมากและมากขึ้นทุกวันที่อยากมีอำนาจ นั่นหมายความว่าสังคมของเรากำลังจะกลายเป็นสังคมของสัตว์เดรัจฉานมากขึ้น
แต่ถ้ามีอำนาจแล้วสร้างคุณงามความดีสร้างประโยชน์สุขให้แก่สังคมนั้นก็ยังถือได้ว่าเป็นคน
วิมล ไทรนิ่มนวล

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี