วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“ขบวนการเสื้อส้ม” นั้นสถาปนาพรรคอนาคตใหม่ขึ้นเป็นแกนกลางของขบวนการส้ม หรือเป็นสาขาหนึ่งของ“ยุทธศาสตร์ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์”เช่นเดียวกับขบวนการเสื้อแดงที่มี “ยุทธศาสตร์ย่อย” ที่พวกเขาเรียกว่า“แก้ว 3 ประการ” ได้แก่ 1.พรรคทักษิณ2.คนเสื้อแดง (+สื่อ+นักวิชาการ+เอ็นจีโอ) 3.กองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย (ตามที่อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ประกาศ)
ส่วนขบวนการเสื้อส้มมียุทธศาสตร์ย่อยมากกว่านั้น ได้แก่ 1.พรรคส้ม 2.คนเสื้อส้ม (+สื่อ+นักวิชาการ+นายทุนที่หนีคดีมาตรา 112+เอ็นจีโอ) 3.ประเทศมหาอำนาจ (ทำหน้าที่หนุนหลัง) 4.ผู้นำและพลเมืองของประเทศที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย รวมทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เป็นฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งจะเกิดจากนักการเมืองไทยทำกฎหมายให้พลเมืองต่างประเทศมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเช่นเดียวกับคนไทย เพื่อเป็นฐานเสียงของตน ส่วนใน 4 จังหวัดชายแดนก็ไม่สงบ ลอบยิง ลอบวางระเบิดเสมอมา ส่วนผู้นำประเทศก็อาจจะส่ง “กองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย” อย่างในสมัยเสื้อแดงก็ย่อมได้ เมื่อสถานการณ์ถึงขั้นจลาจล)
จึงเป็น “ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ”ไม่ใช่ “ยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมือง” อย่างในยุคพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอีกต่อไป เพราะป่าหายนะหมดแล้ว!
ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ย่อยนี้ดำเนินไปพร้อมกัน ตามหน้าที่และกลยุทธ์ของยุทธศาสตร์ ซึ่งบางยุทธศาสตร์ย่อยต้องปิดลับ แต่ยุทธศาสตร์ย่อยที่สาธารณชนเห็นมากที่สุดก็คือ “พรรคการเมืองส้ม”
พรรคส้มสำแดงบทบาททั้งในสภาและนอกสภา แต่ส่วนมากจะเป็นนอกสภาเพราะในสภามีผู้คนรับรู้น้อย ไม่มีคนดูการถ่ายทอดสดมากนัก แม้แต่ลิ่วล้อกองเชียร์ส้มก็มีน้อยคนที่จะดู และยิ่งไม่มีเลยที่จะดูจนจบ! ซ้ำยังเป็นเรื่องการพิจารณาร่างกฎหมายเสียส่วนมาก เรื่องการตรวจสอบมีน้อยกว่า และพรรคส้มก็ไม่มีความสามารถจะนำข้อมูลจริงมาเป็นหลักฐานยืนยันเหมือนนักการเมืองรุ่นอาวุโสได้ จึงได้แต่สำแดงโวหารว่ากุมความลับแล้วอ้างนั่นอ้างนี่ไปเรื่อยไม่รู้จบ
การออกมาพูดตามสื่อและในโลกออนไลน์มีประสิทธิภาพกว่ามาก แม้ทุกคนทุกฝ่ายไม่อยากฟังไม่อยากรู้ก็ต้องรู้ก็ต้องฟังส่วนลิ่วล้อกองเชียร์ส้มยิ่งเสพติดวาทกรรมเท่ๆ และรุนแรงจากพวกนักการเมืองของตนต่างก็เกิดอาการฟินและฝันเฟื่อง อยากให้สังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรมเกิดขึ้นโดยเร็ว!
ตอนนี้ พวกหัวขบวนทั้งนักการเมืองนักวิชาการ สื่อ เอ็นจีโอ ก็ระดม “วาทะและวาทกรรม” ไม่หยุด เหตุผลก็คือเร่งเร้าและเอาใจพวกลิ่วล้อกองเชียร์ไว้เป็นฐานคะแนนเสียงของพรรคตน อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือขบวนการส้มกำลังพลาดท่าเสียที เพราะ“ลิ้น” ของฝ่ายตนที่ด้อยค่า โจมตีทหาร และดูถูกเหยียดหยามคนที่เชียร์ทหารว่าโง่และคลั่งชาติ ไม่มีมนุษยธรรม ไม่เคารพสิทธิมนุษยชน
โปลิตบูโรของพรรคส้มจึงต้องสั่งสมุนในพรรคการเมืองให้ปลุกปั่นเร่งเร้าอารมณ์ของลิ่วล้อกองเชียร์ให้เร่าร้อนรุนแรงขึ้น ด้วยการให้ “รักชนก ศรีนอก” ออกมาประกาศ “อะไรที่ท่านรู้สึกไม่ดี ฝังรากลึกในประเทศนี้ เรามาช่วยกันล้างบางและวางหมุดหมายใหม่ได้ เพื่อให้ประเทศนี้สวยงามในแบบที่เราใฝ่ฝันกัน”
ส่วน “ศิริกัญญา ตันสกุล” ก็ประกาศว่า “ประเทศไทยวันนี้เดินมาจนสุดทางเปลี่ยนรัฐบาลไม่พอ ต้องเปลี่ยนประเทศไทย”
คำว่า “ล้างบาง” และ “เปลี่ยนประเทศ”มีความหมายเดียวกัน คือ “ปฏิวัติ”
ขบวนการเสื้อส้มต้องการปฏิวัติประเทศนี้ เพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองจาก “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เป็นระบอบอื่น
“ระบอบอื่น” ตามความใฝ่ฝันของขบวนการส้มก็คือ “ระบอบที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์”
ดังนั้นใครอยากเปลี่ยนประเทศตามความใฝ่ฝันของขบวนการเสื้อส้มก็เลือกพรรคส้ม ส่วนใครที่ต้องการรักษา “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ต้องล้างบางพรรคส้มแล้วปฏิรูปประเทศนี้ใหม่ ให้สวยงามในแบบที่เราใฝ่ฝันกัน”
นั่นคือประเทศที่พลเมืองไม่ถูกพวกแสวงหาอำนาจทำให้แตกแยก เพื่อพวกเขาจะได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจครองประเทศ สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาต้องสร้างพลเมืองที่มีวินัย มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมีความคิดสร้างสรรค์และสร้างคุณค่าในวิชาชีพของตน รักษาวัฒนธรรมของบรรพชนไว้ รักชาติและมีมนุษยธรรมด้วยหัวใจของมนุษย์ ไม่ใช่ใช้มนุษยธรรมที่คิดเอาเองเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือการแสวงหาอำนาจของใคร
การปฏิวัติจะต้องปลุกปั่นจัดตั้งมวลชนให้โง่หลงและใช้ความรุนแรง ต้องลงทุนด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของมวลชน ซึ่งจะเกิดขึ้นหรือไม่ สำเร็จหรือไม่ ก็ไม่มีใครทราบได้ แต่การปฏิรูปนั้นแต่ละคนจัดตั้งความรู้กับเจตนารมณ์ของตนได้ทันที และลงมือทำได้ตามศักยภาพของตน มันเป็นการลงทุนด้วยสติปัญญาที่มีแต่จะงอกงามเติบโต
# ล้างบางพรรคส้มด้วยยิ่งดี!
วิมล ไทรนิ่มนวล

สิ้นสุดทางสงสัย! 'ทนายไพศาล'ไขปมเข้าร่วม ปชป. เชื่อมั่น 'อภิสิทธิ์' คนดีมีสัจจะวาจา
'ธรรมนัส'ดันสินค้าเกษตรไทยโกอินเตอร์ ลงนามพิธีสารไทย-จีน เปิดตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้ง
แฉผู้พันเขมรสั่งวาง'ทุ่นระเบิด PMN-2' พื้นที่ช่องบก ก่อนทหารไทยเหยียบ (คลิป)
ฝืดคอ!!! 'ช้างศึก'หืดทุบ'ลอดช่อง' 3-2
'สันธนะ'ปูด'พล.ต.อ.'โทรมาต่อรองเรื่องหมายจับ ลั่นไม่กังวลถ้าต้องเข้าเรือนจำ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี