วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ผมเติบโตเป็นวัยรุ่นในยุค 14 ตุลาคม 2516ผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งคนในยุคนั้นที่ต่อสู้เรียกร้อง “ประชาธิปไตย” เรียกตนเองว่า “คนเดือนตุลา” มาจนถึงวาระที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยพังทลาย และมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ได้ดูได้เห็นและได้เรียนรู้ชีวิตตัวเองและผู้คนมาพอสมควร จนเห็นว่าคนหนุ่มสาวไม่ว่ายุคไหนก็อยากมีอุดมการณ์เหมือนกับว่ามันเป็นสินค้าแบรนด์เนมชนิดหนึ่ง เมื่อมีแล้วก็ยึดมั่นถือมั่นมันไว้ด้วยความภาคภูมิใจ
“อุดมการณ์” ที่คนหนุ่มสาวในยุค “คนเดือนตุลา” ยึดมั่นถือมั่นก็คือ “ลัทธิสังคมนิยม” ที่พวกเขาเรียกว่าระบอบประชาธิปไตย
ต่อมาเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์พังทลายและคนป่าคืนเมือง หนุ่มสาวเหล่านั้นรวมทั้งคนที่ไม่ได้เข้าป่า บ้างก็เรียนต่อ บ้างก็ทำงาน บ้างก็เป็น NGO บ้างก็เป็นนักการเมือง และความยึดมั่นถือมั่นต่ออุดมการณ์สังคมนิยมเปลี่ยนไปบ้างก็มี ยังยึดมั่นถือมั่นอย่างเดิมก็มีแถมบางพวกยิ่งเข้มข้นขึ้นจนเป็นการสตัฟฟ์ตัวเองมาจนวันนี้
คนที่ยึดมั่นถือมั่นอุดมการณ์นั้นดูถูกเหยียดหยามคนที่ปล่อยวางอุดมการณ์ว่า “ทรยศต่ออุดมการณ์”
สำหรับคนพวกนี้ อุดมการณ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นอวัยวะหนึ่งของชีวิตที่จะต้องยึดมั่นไว้ตลอดชีวิต กระทั่งตายคาอุดมการณ์ไปคนแล้วคนเล่า โดยไม่ได้เห็นว่าอุดมการณ์ที่ตนยึดมั่นถือมั่นไว้นั้นไม่สามารถก่อรูปแปลงร่างเป็นความจริงได้เลย หลายคนที่เข้าไปมีอำนาจรัฐก็ได้แต่สร้างภาพว่าตนยังคงยึดมั่นต่ออุดมการณ์ แต่กลับรับใช้นายทุนเจ้าของพรรคเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเหมือนวัวลืมตีน สุดท้ายก็จะตายคาอุดมการณ์ไปอีกเช่นกัน
อุดมการณ์คืออะไร?
คือ “หลักที่วางไว้เป็นทางปฏิบัติเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายที่กำหนดหรือตามคำสอนของลัทธินั้นๆ มันเป็นความใฝ่ฝันที่จูงใจมนุษย์ให้บรรลุถึง”
ทั้งอุดมการณ์และเป้าหมายเป็นเพียงภาพในจินตนาการของมนุษย์ เขาเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เลอเลิศ เมื่อใครอยากยิ่งใหญ่เลอเลิศก็ต้องมีอุดมการณ์และปฏิบัติการให้บรรลุเป้าหมาย
สำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก...อุดมการณ์ใด ก็ไม่ยิ่งใหญ่เลอเลิศเท่ากับอุดมการณ์ลัทธิสังคมนิยม(คอมมิวนิสต์) แม้ว่าการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์นั้นจะต้องเอาชีวิตตนเข้าเสี่ยงกับคุกหรือตาย เพื่อเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตผู้อื่นนับร้อย นับพัน นับหมื่น นับแสน กระทั่งนับล้านที่คิดไม่เหมือนตน อย่างที่เคยเกิดในศตวรรษที่แล้ว
ในปัจจุบันก็ยังมีคนที่มีอุดมการณ์อย่างนี้มากมาย เป็นการสืบทอดและวนซ้ำอดีต พวกเขาไม่เรียนรู้อดีตแห่งความสูญเสียและเจ็บปวด กลับทึกทักว่า “แม้คนในอดีตทำไม่สำเร็จ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนรุ่นปัจจุบันจะทำไม่สำเร็จ” พวกเขาจึงพยายามเร่งเร้ากันว่า “ให้มันจบที่รุ่นเรา”
“จบที่รุ่นเรา” ก็เหมือนคนในอดีตอีก คือตัวเองจบ ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามจบ แม้จะชนะ ในที่สุดมันก็จะกลับคืนสู่ความสมดุลของชีวิตและสังคมแบบปุถุชน เพราะธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างนั้น
ไม่มีลัทธิอุดมการณ์ใดเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ได้ แม้จะกดขี่ ควบคุม บังคับด้วยอาวุธและคุก สุดท้ายมนุษย์ก็ต้องการเสรีภาพอยู่ดี เพราะชีวิตมนุษย์กำเนิดตามธรรมชาติและมาก่อนลัทธิอุดมการณ์ใดๆ
ลัทธิอุดมการณ์นั้นโดยตัวมันเองก็คือคุกหรือคอกนามธรรมที่จองจำมนุษย์ไว้
ส่วนชีวิตคือความเป็นจริง
ผมจึงเสียดายที่เห็น “คนรุ่นใหม่” ละทิ้งชีวิตตนเพื่อรับใช้อุดมการณ์ ยอมเสียอนาคตและยอมเสี่ยงคุกอย่างผยองว่าตนยิ่งใหญ่ อวดรู้และกร่างไปทั่วโลกออนไลน์ ทั้งที่ตนไม่ได้รู้จักลัทธิอุดมการณ์เลยว่าคืออะไร เป็นอย่างไร กำเนิดได้อย่างไร มีประโยชน์จริงหรือไม่ และมันได้ทำร้าย-ทำลายใครบ้าง
ซ้ำร้ายกว่านั้นก็ไม่ได้รู้จัก “ชีวิต”ว่าเป็นอย่างไร แม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง!
เกิดมาไม่นานนักก็รีบทำลายชีวิตตน เพื่อภาพฝันที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ แต่โง่จริง เจ็บจริง ติดคุกจริง ตายคาคุกจริง
วัยหนุ่มสาวคือวัยแสวงหา วัยศึกษาเรียนรู้ชีวิตและโลกและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มีเหตุผล แต่กลับเป็นทาสของลัทธิอุดมการณ์ เพียงเพราะว่ามันทำให้ตัวเองรู้สึกเป็นคนสำคัญ ได้รับเสียงชื่นชมแห่แหน เป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือคนที่มีชีวิตตามปรกติ มองไม่เห็นว่าตนกำลัง “บอนไซ” ชีวิตตัวเอง
การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่กลับไม่เห็นคุณค่า ไม่เห็นโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพของตนให้บรรลุถึงขั้นสูงสุดของความเป็นมนุษย์ บรรพชนบอกว่า “เกิดมาเสียชาติเกิด”
วิมล ไทรนิ่มนวล

'จาตุรนต์’ยัวะเปลี่ยนม้ากลางศึก ‘เพื่อไทย’ร้าวหนัก!
‘อนุทิน’ลั่นยึดพื้นที่เป้าหมายได้เกือบหมด ประเทศที่3อย่ายุ่ง กราบ2วีรบุรุษเนิน350
ปูพรมกวาดล้าง ต่างด้าวทำผิดก.ม.ทั่วไทย รวบแล้วกว่า1.3หมื่นราย
กทม.จมฝุ่นพิษ ค่าเกิน20พื้นที่ อยู่ในระดับสีส้ม กระทบสุขภาพ
‘ข้างบ้าน’ หลอนสะกดผู้ชมไม่แผ่ว! กวาดรายได้ 80 ล้าน มุ่งหน้าสู่ 100 ล้าน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี