วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ผมเติบโตเป็นวัยรุ่นในยุค 14 ตุลาคม 2516ผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งคนในยุคนั้นที่ต่อสู้เรียกร้อง “ประชาธิปไตย” เรียกตนเองว่า “คนเดือนตุลา” มาจนถึงวาระที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยพังทลาย และมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ได้ดูได้เห็นและได้เรียนรู้ชีวิตตัวเองและผู้คนมาพอสมควร จนเห็นว่าคนหนุ่มสาวไม่ว่ายุคไหนก็อยากมีอุดมการณ์เหมือนกับว่ามันเป็นสินค้าแบรนด์เนมชนิดหนึ่ง เมื่อมีแล้วก็ยึดมั่นถือมั่นมันไว้ด้วยความภาคภูมิใจ
“อุดมการณ์” ที่คนหนุ่มสาวในยุค “คนเดือนตุลา” ยึดมั่นถือมั่นก็คือ “ลัทธิสังคมนิยม” ที่พวกเขาเรียกว่าระบอบประชาธิปไตย
ต่อมาเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์พังทลายและคนป่าคืนเมือง หนุ่มสาวเหล่านั้นรวมทั้งคนที่ไม่ได้เข้าป่า บ้างก็เรียนต่อ บ้างก็ทำงาน บ้างก็เป็น NGO บ้างก็เป็นนักการเมือง และความยึดมั่นถือมั่นต่ออุดมการณ์สังคมนิยมเปลี่ยนไปบ้างก็มี ยังยึดมั่นถือมั่นอย่างเดิมก็มีแถมบางพวกยิ่งเข้มข้นขึ้นจนเป็นการสตัฟฟ์ตัวเองมาจนวันนี้
คนที่ยึดมั่นถือมั่นอุดมการณ์นั้นดูถูกเหยียดหยามคนที่ปล่อยวางอุดมการณ์ว่า “ทรยศต่ออุดมการณ์”
สำหรับคนพวกนี้ อุดมการณ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นอวัยวะหนึ่งของชีวิตที่จะต้องยึดมั่นไว้ตลอดชีวิต กระทั่งตายคาอุดมการณ์ไปคนแล้วคนเล่า โดยไม่ได้เห็นว่าอุดมการณ์ที่ตนยึดมั่นถือมั่นไว้นั้นไม่สามารถก่อรูปแปลงร่างเป็นความจริงได้เลย หลายคนที่เข้าไปมีอำนาจรัฐก็ได้แต่สร้างภาพว่าตนยังคงยึดมั่นต่ออุดมการณ์ แต่กลับรับใช้นายทุนเจ้าของพรรคเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเหมือนวัวลืมตีน สุดท้ายก็จะตายคาอุดมการณ์ไปอีกเช่นกัน
อุดมการณ์คืออะไร?
คือ “หลักที่วางไว้เป็นทางปฏิบัติเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายที่กำหนดหรือตามคำสอนของลัทธินั้นๆ มันเป็นความใฝ่ฝันที่จูงใจมนุษย์ให้บรรลุถึง”
ทั้งอุดมการณ์และเป้าหมายเป็นเพียงภาพในจินตนาการของมนุษย์ เขาเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เลอเลิศ เมื่อใครอยากยิ่งใหญ่เลอเลิศก็ต้องมีอุดมการณ์และปฏิบัติการให้บรรลุเป้าหมาย
สำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก...อุดมการณ์ใด ก็ไม่ยิ่งใหญ่เลอเลิศเท่ากับอุดมการณ์ลัทธิสังคมนิยม(คอมมิวนิสต์) แม้ว่าการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์นั้นจะต้องเอาชีวิตตนเข้าเสี่ยงกับคุกหรือตาย เพื่อเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตผู้อื่นนับร้อย นับพัน นับหมื่น นับแสน กระทั่งนับล้านที่คิดไม่เหมือนตน อย่างที่เคยเกิดในศตวรรษที่แล้ว
ในปัจจุบันก็ยังมีคนที่มีอุดมการณ์อย่างนี้มากมาย เป็นการสืบทอดและวนซ้ำอดีต พวกเขาไม่เรียนรู้อดีตแห่งความสูญเสียและเจ็บปวด กลับทึกทักว่า “แม้คนในอดีตทำไม่สำเร็จ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนรุ่นปัจจุบันจะทำไม่สำเร็จ” พวกเขาจึงพยายามเร่งเร้ากันว่า “ให้มันจบที่รุ่นเรา”
“จบที่รุ่นเรา” ก็เหมือนคนในอดีตอีก คือตัวเองจบ ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามจบ แม้จะชนะ ในที่สุดมันก็จะกลับคืนสู่ความสมดุลของชีวิตและสังคมแบบปุถุชน เพราะธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างนั้น
ไม่มีลัทธิอุดมการณ์ใดเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ได้ แม้จะกดขี่ ควบคุม บังคับด้วยอาวุธและคุก สุดท้ายมนุษย์ก็ต้องการเสรีภาพอยู่ดี เพราะชีวิตมนุษย์กำเนิดตามธรรมชาติและมาก่อนลัทธิอุดมการณ์ใดๆ
ลัทธิอุดมการณ์นั้นโดยตัวมันเองก็คือคุกหรือคอกนามธรรมที่จองจำมนุษย์ไว้
ส่วนชีวิตคือความเป็นจริง
ผมจึงเสียดายที่เห็น “คนรุ่นใหม่” ละทิ้งชีวิตตนเพื่อรับใช้อุดมการณ์ ยอมเสียอนาคตและยอมเสี่ยงคุกอย่างผยองว่าตนยิ่งใหญ่ อวดรู้และกร่างไปทั่วโลกออนไลน์ ทั้งที่ตนไม่ได้รู้จักลัทธิอุดมการณ์เลยว่าคืออะไร เป็นอย่างไร กำเนิดได้อย่างไร มีประโยชน์จริงหรือไม่ และมันได้ทำร้าย-ทำลายใครบ้าง
ซ้ำร้ายกว่านั้นก็ไม่ได้รู้จัก “ชีวิต”ว่าเป็นอย่างไร แม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง!
เกิดมาไม่นานนักก็รีบทำลายชีวิตตน เพื่อภาพฝันที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ แต่โง่จริง เจ็บจริง ติดคุกจริง ตายคาคุกจริง
วัยหนุ่มสาวคือวัยแสวงหา วัยศึกษาเรียนรู้ชีวิตและโลกและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มีเหตุผล แต่กลับเป็นทาสของลัทธิอุดมการณ์ เพียงเพราะว่ามันทำให้ตัวเองรู้สึกเป็นคนสำคัญ ได้รับเสียงชื่นชมแห่แหน เป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือคนที่มีชีวิตตามปรกติ มองไม่เห็นว่าตนกำลัง “บอนไซ” ชีวิตตัวเอง
การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่กลับไม่เห็นคุณค่า ไม่เห็นโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพของตนให้บรรลุถึงขั้นสูงสุดของความเป็นมนุษย์ บรรพชนบอกว่า “เกิดมาเสียชาติเกิด”
วิมล ไทรนิ่มนวล

ถึงอ่างทองแล้ว! ชายพิการปั่นจักรยานจาก'แม่สาย-กรุงเทพฯ' กราบพระบรมศพ'พระพันปีหลวง'
เยี่ยม'น้องลูกชิ้น' เด็ก16ปีหนัก180 กก. แม่สุดปลื้มลูกชายจะกลับมาเดินได้
'โฆษกรัฐบาล'แจงนโยบาย'แก้ไขหนี้เสียต่ำแสน' ลดเงื่อนไขชำระ ให้ลูกหนี้กลับเข้าระบบ
'ในหลวง-พระราชินี'พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆเฝ้าฯถวายเงิน
สวยงามแปลกตา! ยอดเขาแหลม ที่ทองผาภูมิ เปล่งประกายสีทองอร่าม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี