เป็นคนไทยปกติที่มีสำนึกรักบ้านเกิดย่อมหงุดหงิดตามง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า เมื่อทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิดที่เขมรมาวางไว้ในเขตแดนไทย และอาจจะรู้สึกไม่ทันอกทันใจกับการออกมาอธิบายของรัฐบาลที่ไร้ความสามารถไปเสียทุกด้าน แถมยังอยู่ใต้บัญชาของคนที่ยังไม่แน่ว่าวิกลจริตหรือไม่
แต่คนไทยก็ยังพอจะอดทนต่อไปได้อีกหน่อย เมื่อฝ่ายทหารโดยกองทัพภาคที่ 2 ออกมายืนยันผลพิสูจน์ว่า กับระเบิดหรือทุ่นระเบิดทำลายบุคคลนั้น เป็นของใหม่ แทรกซึมเข้ามาขุดวางกันใหม่ๆ และตอนนี้เริ่มมีการเคลียร์พื้นที่ คาดว่าจะมีอีกเป็นร้อย
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศกว่าจะออกมาแถลงการณ์ประท้วงว่า เหตุการณ์ก็ผ่านไป 5 วันแล้ว ดูเหมือนหน่วยงานต่างๆ ในประเทศนี้จะไม่มีคำว่า“เร่งด่วน” อยู่ในมโนสำนึก
เขมรเป็นหนึ่งในประเทศที่ลงสัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้, สะสม, ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งลงสัตยาบันกันเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่าอนุสัญญาออตตาวา มีเป้าหมายเพื่อขจัดทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทั่วโลก
แต่เขมรเสียอย่าง กฎกติการมารยาทใดๆ ไม่ต้องถามถึง เหมือนกับว่าเป็นเผ่าพันธุ์ชนิดหนึ่งที่พูดจาภาษาคนไม่รู้เรื่อง
แต่ถ้าพูดไม่ให้เสียน้ำใจกัน การที่เขมรเข้ามาขุดคูเลต แทรกซึมเข้ามาวางทุ่นระเบิด ขนคนมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมโดยเจตนาเพื่อก่อกวน และการยื่นเอกสารต่อศาลระหว่างประเทศเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของปราสาท 3 แห่งในเขตประเทศไทย หรือย้อนไปตั้งแต่สมัยเขาพระวิหาร พอจะบ่งบอกได้ไหมว่า ประเทศไทยที่ดูเหนือกว่าทุกด้าน ทั้งฐานะทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตผู้คน เอาเข้าจริงสู้เหลี่ยมคมของเขมรไม่ได้เลย
ประเทศไทยมีระดับการศึกษาโดยรวมสูงกว่าเขมรแน่นอน เรามีดอกเตอร์และนักวิชาการที่ฉลาดล้ำเดินจะชนกันหัวร้างข้างแตก แต่สู้อดีตทหารวัยรุ่นที่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยอย่าง ฮุนเซน คนเดียวยังไม่ได้
หรือว่า เรากำลังพยายามทำตัวเป็นผู้ดีของสังคมโลก ผู้เปี่ยมไปด้วยความสุภาพ เยือกเย็น และเมตตาธรรม ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีหรอกที่ประเทศไหนจะมาดูดำดูดี หรือยกยอปอปั้นคุณงามความดีของประเทศไทยโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ
ได้ประโยชน์ก็จะหวานใส่ยกให้เป็น “มหามิตร” แต่พอไม่ได้ประโยชน์ก็จะกลายเป็นมิตรหมาๆโดยทันที
ถ้ามองสภาพทางภูมิศาสตร์ ไทยกับเขมรก็ไม่แตกต่างกันมาก ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับ 4 ประเทศ คือ พม่า, ลาว, เขมร และมาเลเซีย ส่วนที่เหลือเป็นทะเล เขมรก็มีพรมแดนติดกับ 3 ประเทศ คือ ไทย, ลาว และเวียดนาม ส่วนที่เหลือติดทะเล หากมองว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ พื้นที่ 5-6 ประเทศแถวนี้ก็ต้องถือว่าสำคัญไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
แม้ว่าตอนนี้มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ตั้งท่าจะเล่นงานเขมรเรื่องการเป็นศูนย์ใหญ่ของการพนันและมิจฉาชีพระดับโลก ประเทศมหาอำนาจอื่นๆ ก็ยังไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาอย่างชัดเจน นั่นก็อาจจะบอกเป็นนัยได้ไหมว่า นอกจากเกมการเมืองแบบป่าวประกาศครึกโครม เขมรยังเล่นเกมลึกอีกหลายด้าน
คนไทยส่วนใหญ่รู้ดีว่า เขมรปกครองโดยระบอบฮุนเซน อย่างเบ็ดเสร็จ หรืออย่างน้อยก็ 95 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 5 เปอร์เซ็นต์ให้ดูว่าเป็นประชาธิปไตยและมีฝ่ายค้านบ้างไม่ให้น่าเกลียด ทั้งๆที่ฐานะทางเศรษฐกิจอ่อนแอ สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนเขมรไม่ได้ดีเด่แต่อย่างใด แต่ไม่มีใครรู้ว่า ฮุนเซน เล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศอย่างไร จึงดำรงความเป็นประเทศกัมพูชาเอาไว้ได้อย่างแข็งแรงในเวทีโลก
เขาอาจจะต่อสายกับบรรดาผู้นำประเทศยักษ์ใหญ่ อยู่เสมอก็เป็นได้ และจะเป็นสาเหตุหรือไม่ที่เขมรเล่นเกมรุกกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยโดยไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกัน เอาแค่ละเมิดเอ็มโอยูที่ทำระหว่าง 2 ประเทศ ก็นับนิ้วมือและนิ้วเท้าไม่พอแล้ว
ถ้าเราไม่เรียนรู้บทเรียนที่ผ่านมาในความสัมพันธ์กับเขมร และยังคิดว่าประเทศไทยเหนือกว่าทุกด้าน วันนี้เขมรแค่วางทุ่นระเบิดตามชายแดนไทยวันหน้าเขมรอาจจะดึงประเทศมหาอำนาจเข้ามาแทรกแซงไทยเต็มรูปแบบ
อย่านึกว่าเป็นไปไม่ได้
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี