ผู้เลี้ยงแมวหลายท่านคงจะประสบปัญหาเรื่องแมวที่เรารักมีอาการตาแฉะโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งปัญหานี้มักจะพบได้บ่อย โดยเฉพาะเจ้าของที่มีความใกล้ชิดกับแมวที่มักจะสังเกตเห็นอาการผิดปกติของดวงตาแมวได้ง่าย เช่นเห็นน้ำตาปริมาณมาก ตาแดง ตาปิด เป็นต้น ซึ่งสาเหตุของการตาแฉะนั้นมีมากมาย วันนี้ผมมีข้อมูลดีๆ จาก สพ.ญ.ศิวพร เพ่งพิศ สัตวแพทย์ประจำศูนย์โรคแมวเพื่อความเป็นเลิศ โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเล่าสู่กันฟังครับ
ลักษณะดวงตาปกติของแมว เป็นอย่างไร
เมื่อเรามองน้องแมวหน้าตรง จะพบว่า ดวงตาปกติของแมวนั้นจะต้องมีขนาดของดวงตาเท่ากันทั้ง 2 ข้าง รูปร่างของดวงตาก็จะเหมือนกัน รูม่านตาหรือตาดำทั้งสองข้างต้องมีขนาดเท่ากัน โดยขนาดของรูม่านตาของแมวนั้น สามารถปรับขนาดได้ตามปริมาณแสงในสิ่งแวดล้อมนั้นๆ และจะพบลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์มน้ำใสๆ ที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงดวงตาให้ชุ่มชื้น มีกระจกตาที่ใส สามารถมองทะลุเห็นสีของม่านตาแมวได้ สีของม่านตาแมวแต่ละตัวก็สามารถพบได้หลากหลายสี
ที่แตกต่างกัน เช่น สีเหลืองหรือสีฟ้า ในแมวบางสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ขาวมณี อาจพบสีของม่านตาทั้งสองข้างต่างกันได้ โดยอาจพบว่าตาข้างหนึ่งสีฟ้า ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง
คำว่าแมวตาแฉะจะหมายถึงอะไร
แมวตาแฉะ เป็นคำที่เจ้าของแมวมักเรียกกัน เมื่อสังเกตเห็นว่าน้องแมวมีขี้ตาหรือน้ำตาในปริมาณมากกว่าปกติ ซึ่งในบางครั้งอาจรวมไปถึงกรณีที่เห็นว่าแมวตาแดงหรือตาบวม ซึ่งมักเกิดร่วมกับอาการน้ำตาไหลด้วย แต่เมื่อเจ้าของพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ก็จะทราบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะการมีน้ำตาไหล (ocular discharge) นั้นสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาแฉะในแมวที่พบได้บ่อย มีอะไรบ้าง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการตาแฉะในแมวนั้นมีหลายประการ ได้แก่
- ตาเจ็บ จากการได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณดวงตา เช่น การต่อสู้กัน กัดหรือข่วน โดยอาจพบลักษณะการมีบาดแผลภายนอกดวงตา อาการตาแดงหรือเยื่อบุตาขาวอักเสบ (conjunctivitis) หนังตาที่สามโผล่ออกมา (third eyelid protrusion) หรือแผลหลุมบนกระจกตา (corneal ulcer) ร่วมด้วย
- โรคติดเชื้อ เช่น ไวรัสหวัดแมว ซึ่งในกลุ่มอาการนี้ มักพบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีน้ำมูก จาม ปากเจ็บ ช่องปากและลิ้น call อักเสบ ไม่กินอาหาร หรือโรคไวรัสบางชนิดอาจพบแมวตาแฉะร่วมกับช่องหน้าม่านตาอักเสบ (uveitis) ได้
- ภาวะโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง ภายในโพรงจมูกนั้น จะมีท่อน้ำตา (Nasolacrimal duct) ที่ต่อเชื่อมกันเพื่อให้น้ำตาบางส่วนระบายออกได้ทางจมูก ในแมวที่มีปัญหาในโพรงจมูกอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะท่อน้ำตาตัน (Nasolacrimal duct obstruction) ซึ่งทำให้แมวเหล่านี้มีน้ำตาไหลมากกว่าปกติได้
- ลักษณะเฉพาะในบางสายพันธุ์ เช่น แมวพันธุ์หน้าสั้นอย่างน้องแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย ด้วยลักษณะทางโครงสร้างสายพันธุ์ทำให้แมวในกลุ่มนี้มีท่อน้ำตาที่ทำหน้าที่ระบายน้ำตาออกมีรูปร่างผิดปกติทำให้ระบายน้ำตาออกได้ปริมาณไม่เท่าแมวสายพันธุ์อื่นๆ จึงดูว่าแมวมีตาแฉะเกือบจะตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องแมวมีอาการน้ำตาไหลมากกว่าปกติ เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น เจ้าของแมวไม่ควรนิ่งนอนใจ รวมถึงไม่ควรใช้ยาหยอดตาของคน (หรือของแมวตัวอื่น) หยอดตาให้แมวโดยที่เรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงด้วย เราควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยและประเมินสาเหตุ เพื่อที่จะรักษาได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที ซึ่งเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลมไม่ก่อให้เกิดปัญหาเรื้อรังตามมาได้ครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชาการวิภาคศาสตร์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี