คำถามนี้อาจอยู่ในใจของเจ้าของหลายท่าน วันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้ให้คลายสงสัยกันครับ ทุกท่านคงจะทราบดีว่า ในขณะที่สุนัขเป็นสัด จะมีของเหลวสีแดง ซึ่งอาจเป็นน้ำใสๆ หรืออาจข้นคล้ายเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งเป็นอาการที่สำคัญของสุนัขที่อยู่ในระยะ “การเป็นสัด” โดยสิ่งนี้ เป็นอาการที่ “เจ้าของสุนัขไม่พึงประสงค์“ เพราะนอกจากจะทำให้พื้นบ้านผนัง และอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านเลอะเทอะเปรอะเปื้อนแล้ว ยังเป็นการดึงดูดสุนัขตัวผู้ให้มาเห่าหอนอยู่รอบๆ บ้าน สร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างมาก
สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุให้เจ้าของต้องพาสุนัขไปผ่าตัด “ทำหมัน” เพื่อลดปัญหาดังกล่าว แต่ในบางรายก็อาจเกิดปัญหาว่า ทำหมันไปตั้งเป็นปีแล้ว ทำไมเจ้าตูบของเรายังมี “ประจำเดือน” อยู่อีกล่ะ???
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า “วงรอบการเป็นสัดของสุนัข”ไม่เหมือน “วงรอบประจำเดือนของคน” นะครับ
สิ่งที่เรียกว่า “เมนส์” หรือ “ประจำเดือน” ของคนนั้น เกิดจากการลอกหลุดของผนังมดลูกที่ไม่มีการตั้งท้อง ที่เกิดขึ้นหลังไข่ตกไปแล้วดังนั้น การที่ผู้หญิงมี “เมนส์” จึงเป็นการบ่งบอกว่า “ไม่ท้อง” ซึ่งในหนึ่งเดือนจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น 1 ครั้ง เราจึงเรียกว่า “ประจำเดือน”
แต่ในสุนัขนั้น แม้ว่าการมีเลือดจากช่องคลอดของสุนัข ซึ่งบ่งบอกว่าสุนัขอยู่ในช่วงเป็นสัดก็ตาม แต่เราไม่สามารถเรียกว่าประจำเดือนได้ เนื่องจากสุนัขมีวงรอบการเป็นสัดและตกไข่เพียง “2-3 ครั้งต่อปี” และเลือดที่พบนั้นไม่ได้เกิดจากการลอกหลุดของผนังมดลูกเหมือนในคน แต่เกิดจากการแทรกลอดออกมาจากผนังหลอดเลือด จึงจะแตกต่างจาก “ประจำเดือน” ในคนอย่างชัดเจนครับ
การมีเลือดจากช่องคลอดของสุนัขนั้น เป็นระยะก่อนไข่ตก ซึ่งบ่งว่าอยู่ในช่วงการเป็นสัด สุนัขจะแสดงอาการ “ยอมรับการผสมพันธุ์” การมีเลือดและการแสดงอาการผสมพันธุ์ของสุนัขนั้น เป็นอิทธิพลของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งสร้างจากรังไข่ ดังนั้น การตัดที่ต้นตอของปัญหาโดยการผ่าตัดทำหมัน (ซึ่งสัตวแพทย์จะใช้วิธี “ตัดมดลูกและรังไข่ออกทั้งหมด” ที่เรียกว่า Ovariohysterectomy) จะทำให้สุนัข “ไม่มีการสร้างไข่ได้” และ “ไม่มีการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน” ดังนั้นสุนัขก็จะ “ไม่มีเมนส์” รวมทั้ง “ไม่ควรมีการแสดงอาการเป็นสัด” ได้อีก
@ แล้วเลือดที่พบนั้น มาจากอะไรล่ะ
ในกรณีที่ผิดปกติ ที่ยังพบของเหลวสีแดงคล้ายเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดหลังผ่าตัดทำหมันไปแล้ว อาจมีสาเหตุมาจาก 2 กรณีหลัก คือ
1. การมี “รังไข่” หรือ “ชิ้นส่วนของรังไข่” หลงเหลืออยู่ในช่องท้องหลังผ่าตัด อาจเกิดจากไม่ได้ตัดรังไข่ออก หรือตัดรังไข่ออกไม่หมด รวมถึงมีเศษเนื้อเยื่อรังไข่ตกลงไปในช่องท้อง แล้วมีเส้นเลือดมาเลี้ยงชิ้นเนื้อรังไข่นี้ทำให้ไข่ขนาดเล็กๆ ภายใช้ชิ้นเนื้อมีการเจริญเติบโต สร้างฮอร์โมนและตกไข่ได้รวมถึงแสดงอาการเป็นสัด มีเลือดไหลจากช่องคลอด และยอมรับการผสมพันธุ์จากตัวผู้ได้ แต่เนื่องจากมดลูกถูกตัดออกไปแล้ว สุนัขจึงไม่มีการตั้งท้องเกิดขึ้น
2. การที่มี “คอมดลูก” หรือ “ส่วนของมดลูก” เหลืออยู่ (รวมถึง อาจมีรังไข่เหลืออยู่ด้วย) ต้องเรียนให้ทราบว่า การสร้างฮอร์โมนเพศในสุนัขเพศเมียนั้น นอกจากรังไข่ที่ทำหน้าที่หลักในการสร้างแล้ว ยังสามารถสร้างได้จากต่อมหมวกไตอีกด้วย ซึ่งนอกจากฮอร์โมนเอสโตรเจนแล้ว ยังมีฮอร์โมน“โปรเจสเตอโรน” ซึ่งมีผลทำให้ผนังมดลูกส่วนที่เหลืออยู่ มีการสร้างสิ่งคัดหลั่ง ซึ่งอาจตามมาด้วยการอักเสบติดเชื้อ และมีเลือดออก โดยเลือดที่ออกในกรณีนี้จึงเป็นเลือดที่เกิดจากการอักเสบ ไม่ใช่เลือดจากภาวะเป็นสัดแบบปกติ
หากมีสุนัขที่เข้ารับการผ่าตัดทำหมันด้วยวิธีตัดรังไข่และมดลูกออกแล้ว สุนัขยังมีเลือดไหลจากช่องคลอดอยู่ เราควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา
หากมีสาเหตุจากกรณีแรก คือ มีรังไข่หรือชิ้นส่วนรังไข่หลงเหลืออยู่ แต่เจ้าของสามารถทนต่อความรำคาญเรื่องเลือดที่ไหลเปรอะเปื้อน รวมถึงทนต่อพฤติกรรมผสมพันธุ์ที่ดึงดูดสุนัขเพศผู้ได้ ก็อาจไม่ต้องทำอะไร เพราะสุนัขก็จะ “ไม่มีลูก” ถึงแม้จะได้รับการผสมพันธุ์ก็ตาม
แต่หากเกิดจากกรณีที่ 2 คือ มีคอมดลูกหรือส่วนของมดลูกเหลืออยู่นั้น หากมีการติดเชื้อ ก็อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบติดเชื้อของส่วนของมดลูกที่หลงเหลืออยู่ได้ ทั้งนี้ กรณีที่เกิดเลือดหรือของเหลวไหลออกจากช่องคลอด ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม สุนัขควรได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมจากสัตวแพทย์นะครับ
การตรวจวินิจฉัย สามารถทำได้โดย
1. การตรวจค่าเม็ดเลือดสมบูรณ์
2. การเอกซเรย์ และ/หรือ อัลตราซาวนด์ เพื่อยืนยันว่ามีการอักเสบของตอที่เหลืออยู่ของมดลูกหรือคอมดลูก หรือมีรังไข่ หรือส่วนหนึ่งของรังไข่หลงเหลืออยู่
แต่ถ้ารังไข่ที่เหลืออยู่มีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถตรวจพบโดยใช้อัลตราซาวนด์ได้ สัตวแพทย์จะใช้วิธี “ฉีดฮอร์โมน” กระตุ้นการเจริญของไข่ ถ้ามีรังไข่ที่ทำงานหลงเหลืออยู่ สุนัขจะแสดงอาการเป็นสัด ก็ให้พาสุนัขไปยืนยันการเป็นสัดอีกครั้งโดยใช้ “การตรวจเซลล์เยื่อบุผนังช่องคลอด” ต่อไป
การรักษา
หากวินิจฉัยแล้วพบ การหลงเหลืออยู่ของรังไข่ ส่วนหนึ่งของมดลูกหรือคอมดลูกก็ตาม การรักษาทำได้โดย “การผ่าตัดเปิดช่องท้อง” เพื่อตัดส่วนที่มีการอักเสบของมดลูก หรือเนื้อรังไข่ที่คงค้างอยู่ในช่องท้องนั้นออก ซึ่งในการผ่าตัดจะต้องทำการวางยาสลบและเปิดผ่าช่องท้องเพื่อตัดเอาสิ่งที่หลงเหลือเหล่านั้นออก
เมื่อท่านผู้อ่านทราบข้อมูลดังนี้แล้ว หลังจากนำสุนัขไปผ่าตัดทำหมันหากยังพบว่าสุนัขมีเลือดไหลจากช่องคลอดอยู่ ซึ่งแม้เป็นระยะเวลาหลายเดือนหรือเป็นปีภายหลังการผ่าตัด ก็ควรพาสุนัขกลับไปปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยยืนยัน และให้การรักษาต่อไปครับ ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ ภาควิชาสูติศาสตร์เธนุเวชวิทยาและวิทยาการสืบพันธุ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี