เจ้าของแมวหลายท่านคงเคยประสบปัญหาน้องแมว“สเปรย์ปัสสาวะทั่วบ้าน” ทั้งตามเฟอร์นิเจอร์ ตามสิ่งของต่างๆ รวมถึงตามผนังบ้าน เพื่อเป็นการแสดงความเป็นใหญ่ในอาณาบริเวณ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้แมวตัวอื่นรู้ว่า “นี่คือพื้นที่ของข้า ใครอย่าแตะเด็ดขาด”
พฤติกรรมนี้เป็นสัญชาตญาณและพฤติกรรมปกติที่เราสามารถพบได้เสมอ เนื่องจากในมุมมองของแมวนั้น การปัสสาวะแสดงอาณาเขตเป็นการแสดงความยิ่งใหญ่ เป็นการ “ประกาศศักดา” ของแต่ละตัว
ซึ่งหากอธิบายตามหลักวิชาการก็คือ เกิดจากฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (testosterone) หรือ “ฮอร์โมนเพศผู้” ที่สร้างจากอัณฑะ ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ทำให้แมวมีพฤติกรรมก้าวร้าวรวมถึงการปัสสาวะเรี่ยราดนี้ครับ
ตามหลักทฤษฎีแล้ว การจะลดพฤติกรรมนี้ ก็ต้องกำจัดไปที่ต้นตอของการสร้างฮอร์โมนที่ทำให้เกิดพฤติกรรม นั้นคือ “ลูกอัณฑะ”ดังนั้น “การทำหมันเพศผู้” หรือ “การตอน” จึงเป็นวิธีที่นิยมเลือกใช้กัน ซึ่งพบว่าประมาณร้อยละ 90 ให้ผลเป็นที่พอใจทีเดียว
แต่ภายหลังการทำหมัน ก็ไม่ได้ทำให้พฤติกรรมการปัสสาวะเรียราดนั้นหายขาดทันที (อย่างที่เจ้าของคาดหวัง) เสมอไปนะครับ แมวที่ได้รับการทำหมันแล้ว จะค่อยๆ ลดความบ่อยของพฤติกรรมปัสสาวะเรี่ยราดลง โดยที่บางตัวอาจต้องรอเวลานานถึง 6 เดือนหลังทำหมันทีเดียว
ทั้งนี้มีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อระยะเวลาการหายไปของพฤติกรรมปัสสาวะเรี่ยราดนั้น ได้แก่
1. ระดับฮอร์โมน ถึงแม้การทำหมันโดยผ่าตัดลูกอัณฑะจะทำให้แหล่งผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนก็ตาม แต่ฮอร์โมนที่ยังคงอยู่ในกระแสเลือด ต้องการเวลาในการย่อยสลายจนกว่าจะหมดไป(นอกจากนี้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนนั้นยังถูกสร้างได้จากต่อมหมวกไตอีกด้วย แม้จะในปริมาณไม่มาก แต่ก็อาจมีพฤติกรรมดังกล่าวหลงเหลืออยู่ได้)
2. อายุแมว แมวที่ได้รับการทำหมันก่อนวัยเจริญพันธุ์ (ก่อน 6-8 เดือน) จะหยุดพฤติกรรมปัสสาวะเรี่ยราดได้เร็วกว่าแมวในวัยเจริญพันธุ์ (เนื่องจากในแมวหนุ่มหรือแมวโตที่ทำพฤติกรรมปัสสาวะเรี่ยราดมาเป็นประจำ อาจเป็นที่คุ้นเคยกับการกระทำดังกล่าวจึงต้องใช้ระยะเวลาสักพัก)
3. ความเครียด บ้านไหนที่มีแมวหลายตัว ควรมีกระบะทรายแมวแยกกัน (ถ้าตัวละกระบะได้ก็จะดี) โดยวางในพื้นที่ห่างกันพอสมควร และเก็บสิ่งขับถ่ายออกจากกระบะทรายให้บ่อยขึ้น นอกจากนี้ การมองเห็นแมวตัวผู้ตัวอื่นนอกบ้าน ก็ทำให้เกิดความเครียดได้ ดังนั้น การปิดผ้าม่านหรือป้องกันไม่ให้แมวมองออกไปนอกบ้าน จะช่วยลดความเครียดได้พอสมควรครับ
4. ฟีโรโมน แมวบางตัวมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงหลังทำหมัน และยังคงปัสสาวะเรี่ยราดอยู่ กรณีนี้ควรใช้ “ฟีโรโมนสังเคราะห์” ฉีดในบริเวณบ้าน หรือใช้แบบเสียบปลั๊ก โดยใช้เฉพาะบริเวณที่แมวชอบไปถ่ายปัสสาวะ เพื่อให้แมวรู้สึกผ่อนคลายและสบาย
5. โรคติดเชื้อในระบบขับถ่ายปัสสาวะ เจ้าของสามารถสังเกตจากการที่แมวมีอาการปัสสาวะบ่อย โดยอาจเกิดร่วมกับอาการเบ่งเวลาขับถ่าย อาจมีเลือดปนมากับปัสสาวะ และมีไข้ร่วมด้วย กรณีนี้ควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป
โรคติดเชื้อในระบบขับถ่ายปัสสาวะที่ทำให้แมวมีอาการปัสสาวะเรี่ยราดนั้น อาจเป็นได้ตั้งแต่ การอักเสบของท่อทางเดินปัสสาวะส่วนปลาย กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือการเกิดนิ่วได้ ซึ่งนิ่วในกระเพาะปัสสาวะแมวนั้น มีหลายชนิด มีความแตกต่างกันในการให้ยาหรืออาหารเพื่อการรักษา ถ้าให้ยาไม่ถูกต้อง นอกจากแมวจะไม่หายแล้ว ยังอาจมีอาการดื้อยาตามมาอีกด้วย
เมื่อเราทราบถึงปัจจัยต่างๆ เหล่านี้แล้ว ก็จะเข้าใจว่าเหตุใดหลังทำหมันแมวตัวผู้แล้ว จึงยังมีอาการปัสสาวะเรี่ยราดอยู่ การช่วยให้อาการที่ไม่พึงประสงค์นี้หายไป ทำได้โดยลดความเครียดให้กับแมวและคอยสังเกตว่าอาการที่ยังคงอยู่นี้ ไม่ใช่อาการป่วยอันเนื่องมาจากการติดเชื้อในท่อทางเดินปัสสาวะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ภาควิชาสูติศาสตร์ เธนุเวชวิทยา และวิทยาการสืบพันธุ์ครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี