@เบาหวานคืออะไร
โรคเบาหวาน หรือ Diabetes mellitus (DM) หรือที่เรียกทั่วไปว่า Diabetes เป็นโรคที่เกิดจาก การที่ร่างกายขาดฮอร์โมน“อินซูลิน” ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ทำหน้าที่ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด (ช่วยดึงน้ำตาลในเลือดเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้) หรืออาจเกิดจาก การที่ร่างกายสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ปกติแต่ร่างกายไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้เกิดภาวะการที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะพบน้ำตาลปนออกมาในปัสสาวะ
@เบาหวานเกิดในสัตว์กลุ่มใด
โรคเบาหวานนี้มักเกิดในสัตว์เลี้ยงที่มีอายุมาก โดยทั่วไปมักจะพบในสุนัขที่มีอายุประมาณ 7-9 ปี ส่วนในแมวจะพบที่อายุประมาณ 9-11 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในสุนัขและแมวที่อายุน้อยได้เช่นกัน
ในสุนัขจะพบว่าเกิดในสุนัขเพศเมียมากกว่าเพศผู้ ส่วนพันธุ์ที่พบบ่อย ได้แก่ พุดเดิ้ล (poodle) โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (golden retriever) ดัชชุนด์ (dachshund) ส่วนในแมว มักจะพบในเพศผู้ที่ทำหมันแล้ว และในแมวที่มีลักษณะอ้วนมากกว่า ซึ่งจะพบได้ในแมวทุกสายพันธุ์
@สาเหตุ
สาเหตุของโรคเบาหวานนั้น มีหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่พันธุกรรม ความเครียด ความผิดปกติของตับอ่อน เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ ความอ้วน และการได้รับยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ เป็นต้น
@อาการที่พบ
อาการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถสังเกตได้ง่าย นั่นคือสุนัขหรือแมวจะกินน้ำมากกว่าปกติ ปัสสาวะบ่อยและมาก กินอาหารเก่งกว่าปกติแต่น้ำหนักตัวลดลง บางรายจะพบภาวะกระจกตาขุ่น หรือต้อกระจก (cataract) ร่วมด้วย
@หากไม่รักษาจะเกิดปัญหาอย่างไร
ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเป็นโรคเบาหวานแล้วไม่ได้ทำการรักษาหรืออยู่ในช่วงการรักษาแต่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้จะส่งผลให้เกิดภาวะคีโตนในกระแสเลือด (ketosis) ซึ่งคีโตน (ketone) เป็นสารที่เกิดจากการที่ร่างกายสลายไขมันเพื่อเป็นแหล่งพลังงานทดแทนการใช้น้ำตาล เนื่องจากในสัตว์ป่วยด้วยโรคเบาหวานร่างกายจะไม่สามารถใช้น้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานได้นั่นเอง
การมีคีโตนในกระแสเลือดสูงจะทำให้สัตว์ป่วยซึมเบื่ออาหาร อาเจียน ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ ซึ่งจะทำให้สัตว์ตายได้ครับ
@การตรวจวินิจฉัย
การวินิจฉัยโรคเบาหวานนั้น สามารถทำได้คล้ายกับในคน คือนอกจากการสังเกตจากอาการแล้วเราจะใช้การตรวจเลือด โดยจะให้สัตว์อดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง แล้วทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดนั่นเองโดยในช่วงอดอาหาร ค่าปกติของน้ำตาลในกระแสเลือดจะมีค่าไม่เกิน 120 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
@การรักษา
การรักษาโรคเบาหวานค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากเจ้าของต้องพาสัตว์ไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดต่อเนื่องกัน แล้วทำเป็นกราฟเพื่อดูการขึ้น-ลงของน้ำตาลในเลือดในหนึ่งวัน (serial blood glucose curve) เพื่อคำนวณหาค่าที่เหมาะสมในการให้ฮอร์โมนอินซูลิน ให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตลอดทั้งวัน
@การดูแลสัตว์ป่วยจากเบาหวาน
นอกจากนี้ในการดูแลที่สำคัญสำหรับสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานนั่นคือ “การควบคุมอาหาร” ซึ่งอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์ป่วยนั้นควรเป็นอาหารที่มีเส้นใยอาหาร (fiber) สูงส่วนคาร์โบไฮเดรตที่สามารถให้ได้นั้น ควรเป็นชนิดที่ย่อยยาก เพื่อให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งในปัจจุบันจะมี “โภชนบำบัด” หรือ “อาหารที่ใช้ในการรักษา” ที่ทำเป็นเชิงธุรกิจสำหรับโรคเบาหวาน ซึ่งค่อนข้างสะดวกในการใช้ซึ่งอาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเจ้าของที่ไม่สะดวกปรุงอาหารเองให้สัตว์เลี้ยงป่วยเป็นโรคเบาหวานครับ
ขอเรียนย้ำว่า เมื่อท่านสังเกตเห็นสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติเหล่านี้ เช่น กินน้ำมาก ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมากกว่าปกติ กินอาหารเก่งแต่น้ำหนักตัวลดลง ท่านเจ้าของต้องอย่าลืมคิดถึงเรื่องโรคเบาหวานนะครับ ทางที่ดีควรพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไปครับ โรคนี้เป็นโรคที่อันตรายซึ่งสามารถทำให้สัตว์เลี้ยงของท่านตายได้ หากปล่อยทิ้งไว้หรือไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี แต่เจ้าของสามารถควบคุมและดูแลให้สัตว์เลี้ยงมีชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีจนแทบจะไม่ต่างจากสุนัขและแมวปกติเลยครับ
ผศ.นพ.ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี