ทุกปีในวันที่ 2 เมษายน จะมีการฉลองวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ผมเห็นความสำคัญของศูนย์ฯ ของการบริจาคอวัยวะมาก จึงพยายามไปร่วมงานทุกปี ทั้งๆ ที่ปีนี้ทางศูนย์จัดงานเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2566 ตั้งแต่ 09.00-12.00 น.และเป็นวันเดียวกับที่ลูกศิษย์ผม 2 คนแต่งงานกัน คือคุณหมออีฟ และคุณหมอป๊อบ และผมเป็นประธานในพิธีที่โรงแรม Anantara แต่โชคดีที่เป็นตอน 12.00 น. และโรงแรมอยู่ใกล้ รพ.จุฬาลงกรณ์ พอดี
ศูนย์ฯ เป็นศูนย์รับบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อระดับชาติ โดยเป็นองค์กรที่มุ่งดำเนินการเพื่อให้มีการบริจาคอวัยวะ และเนื้อเยื่ออย่างเพียงพอต่อการปลูกถ่ายอวัยวะภายในประเทศ มีการจัดการด้วยความเป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์และสังคม ภายใต้คุณภาพและการบริหารงานในระดับมาตรฐานสากล ตลอดจนมุ่งมั่นที่จะยกระดับความเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย
ศูนย์ฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพเป็นวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อระลึกถึงและบำเพ็ญกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตที่บริจาคอวัยวะของตนเองให้เป็นทานเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ทนทุกข์ทรมาน และสิ้นหวังในชีวิตได้มีชีวิตใหม่ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เพื่อให้ผู้ได้รับอวัยวะได้มีโอกาสแสดงน้ำใจขอบคุณความเอื้ออารีของผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิตต่อญาติผู้บริจาคอวัยวะ และเพื่อให้ศูนย์รับบริจาคอวัยวะได้มีโอกาสขอบคุณบุคคลและหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยมาตลอด
ศูนย์ฯ ได้ตั้งมาแล้ว 29 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 โดยประเทศไทยได้พัฒนาการรักษาผู้ป่วยที่อวัยวะสำคัญๆ เช่น หัวใจ ปอด ตับ ไต เสื่อมสภาพ ด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยในปี 2515 รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้ปลูกถ่ายไตให้แก่ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังสำเร็จเป็นครั้งแรก และในปี 2530 ได้ปลูกถ่ายตับ และปลูกถ่ายหัวใจให้แก่
ผู้ป่วยเป็นครั้งแรกเช่นกัน หลังจากนั้นได้มีโรงพยาบาลต่างๆ ให้การรักษาด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะมากขึ้น มีผู้ป่วยรอปลูกถ่ายอวัยวะเป็นจำนวนมาก แต่การปลูกถ่ายอวัยวะจะสำเร็จได้ต้องมีอวัยวะบริจาคจากผู้อื่น ซึ่งอวัยวะนี้มีที่มาจากผู้บริจาค 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้บริจาคที่มีชีวิต สามารถบริจาคไต หรือตับ ได้ ผู้บริจาคกลุ่มนี้ต้องเป็นญาติโดยสายโลหิต หรือคู่สมรสของผู้รับอวัยวะเท่านั้น หากผู้รออวัยวะไม่มีญาติหรือคู่สมรสที่บริจาคอวัยวะให้กันได้ หรือหมู่เลือด หรืออวัยวะเข้ากันไม่ได้ ผู้บริจาคมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ ฯลฯ ก็ต้องรออวัยวะจากผู้บริจาคกลุ่มที่สอง คือ ผู้บริจาคที่เสียชีวิตจากสมองตาย ที่สามารถบริจาคหัวใจ ปอด ตับ ไต ตับอ่อน ให้แก่ผู้อื่นได้
ศูนย์ฯ มีนโยบาย 1) สนับสนุนส่งเสริมให้มีการบริจาคอวัยวะให้มากเพียงพอต่อการปลูกถ่ายอวัยวะภายในประเทศ 2) จัดสรรอวัยวะที่ได้รับบริจาคอย่างเป็นกลาง เสมอภาค โดยไม่มีการซื้อขายอวัยวะ 3) นำอวัยวะที่ได้รับบริจาคไปใช้ให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
ศูนย์ฯ มีหน้าที่ 1) รับแจ้งผู้เสียชีวิตที่ญาติประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะตลอด 24 ชั่วโมง 2) ประสานงานระหว่างโรงพยาบาลที่ดูแลผู้เสียชีวิตกับโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยที่รอรับการบริจาคอวัยวะในการบริจาคอวัยวะ การผ่าตัดนำอวัยวะออก การเดินทางของทีมผ่าตัด และการขนส่งอวัยวะ 3) รับแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะจากผู้มีจิตกุศลตั้งแต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ 4) รับการลงทะเบียนผู้ป่วยรอรับการบริจาคอวัยวะจากโรงพยาบาลที่ทำการปลูกถ่ายอวัยวะทั่วประเทศ 5) ลงทะเบียนการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาคที่มีชีวิต และติดตามสุขภาวะของผู้บริจาคอวัยวะตลอดชีวิต6) จัดสรรอวัยวะที่ได้รับบริจาค 7) ติดตามผลการปลูกถ่ายอวัยวะของผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะทุกอวัยวะ 8) ให้การศึกษาอบรมพยาบาลประสานงานการปลูกถ่ายอวัยวะ 9) ให้บริการข้อมูล ข่าวสาร และการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะแก่วงการแพทย์และสาธารณชนโดยทั่วไป 10) จัดเก็บ จัดทำและบริการเนื้อเยื่อลิ้นหัวใจ, ผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น และหลอดเลือด11) สนับสนุนมาตรฐานของห้องปฏิบัติการเนื้อเยื่อเพื่อการจัดสรรอวัยวะและการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง 12) สนับสนุนน้ำยาถนอมอวัยวะและการเดินทางของทีมผ่าตัดนำอวัยวะออก
ผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะได้รับอนุมัติให้จัดทำโครงการตรวจรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลสมาชิกศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานโรงพยาบาลสมาชิกศูนย์รับบริจาคอวัยะ ในการรักษาผู้ป่วยด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะแล้วนั้นศูนย์รับบริจาคอวัยวะ จึงได้กำหนดแผนการตรวจรับรองโรงพยาบาลสมาชิกศูนย์รับบริจาคอวัยวะ จำนวน 44 แห่งทั่วประเทศ โดยในปี พ.ศ.2565 ศูนย์รับบริจาคอวัยวะได้ตรวจรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลสมาชิกฯ จำนวน 7 แห่ง โดยมีคณะกรรมการจากศูนย์รับบริจาคอวัยวะ และได้รับเกียรติจากกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายอวัยวะจากสถาบันต่างๆ เข้าร่วมตรวจรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล โดยเริ่มจากตรวจรับรองโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี