พัฒนาการของการมองเห็นตามช่วงวัย
- แรกคลอด : มองเห็นแสงได้ แต่ยังไม่เห็นภาพตรงกลางชัดเจน เห็นแค่ภาพด้านข้าง 2-3 อาทิตย์หลังจะเห็นได้มากขึ้น
- 1 เดือน เห็นแสงสว่างและวัตถุสีมากขึ้น
- 2-4 เดือน เริ่มจ้องมองวัตถุ มองตามวัตถุเคลื่อนไหวได้ อาจมีตาเขชั่วคราวจากการประสานของกล้ามเนื้อตายังไม่สมบูรณ์
- 5-8 เดือน เห็นภาพสามมิติ มองใกล้ไกลได้ จำหน้าพ่อแม่ได้
- 9-12 เดือน ตามองเห็นใกล้เคียงกับผู้ใหญ่
- 3-4 ปี การทำงานประสานของตาและมือดี
- วัยเข้าโรงเรียน จำตัวอักษร ท่องจำได้
- ถ้าเด็กคลอดก่อนกำหนด จะนับพัฒนาการช้าลงตามจำนวนวันและเดือนที่คลอดก่อนกำหนด เช่น ถ้าคลอดก่อนกำหนด 2 เดือน จะเริ่มนับพัฒนาการเทียบเท่าแรกคลอดหลัง 2 เดือนไปแล้ว
ควรตรวจคัดกรองตาเมื่อไหร่
- ตั้งแต่แรกคลอด หมอเด็กจะตรวจคัดกรองการสะท้อนแสงของตา การกะพริบตา และม่านตา ถ้าพบความผิดปกติจะส่งต่อหมอตา
- 6-12 เดือน ตรวจคัดกรองตาเหล่ ตาเข
- ช่วงก่อนเข้าเรียน ช่วงอายุ 3-4 ปี ตรวจคัดกรองค่าสายตา สั้น ยาว เอียง ตาเหล่ตาเข
- ช่วงก่อนเข้าเรียน หากตรวจตาไม่มีความผิดปกติ แนะนำยังคงต้องตรวจตาทุกปี เพราะเด็กสมัยใหม่ใช้เวลากับหน้าจอมาก อาจสายตาสั้นได้
ใช้เวลาตรวจประมาณ 15-20 นาทีต่อเคส แต่ถ้าหมอตาสงสัยเพิ่มเติมอาจจะต้องหยอดยาขยายม่านตา ดูจอตาและขั้วประสาทตา ใช้เวลาตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง
โรคทางกรรมพันธุ์ถ้าพ่อแม่มี ควรพาลูกมาตรวจกับหมอตา
- ตาขี้เกียจ ตาเหล่ตาเข มะเร็งในลูกตา ต้อกระจก ต้อหิน โรคพวกนี้ อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม ได้ควรนำลูกไปตรวจกับหมอตา
การวัดค่าสายตาในเด็ก
แรกคลอด : มองตามวัตถุหรือแสงไฟได้ไหม
ก่อนเข้าเรียน : ดูรูปภาพชี้จับคู่ได้ไหม
เด็กโต : อ่านตัวเลข ตัวอักษรได้
การวัดสายตาสั้น ยาว จะไม่เหมือนผู้ใหญ่ จากเด็กมีการเพ่งตาค่อนข้างเยอะ ค่าสายตาอาจไม่แม่นยำ ต้องใช้ยาหยอดขยายม่านตา เพื่อคลายกลัามเนื้อตาจะช่วยให้ได้ค่าแม่นยำกว่า ดังนั้น การวัดสายตาในเด็กควรพาไปหาหมอตาดีกว่า
ตาบอดสี เริ่มตรวจในเด็กเลยไหม
- เริ่มตรวจตอนชั้นประถมจากสามารถอ่านตัวเลข 2 หลักได้ โรคนี้มักพบในผู้ชาย ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นโรคที่สังเกตเองไม่ได้ ต้องรับการตรวจคัดกรอง
ตรวจสามมิติ เริ่มตรวจได้ตั้งแต่ตอนอายุ 2-3 ปี
การมองเห็น 3 มิติ จำเป็นต่อการเรียนต่อในบางอาชีพอาจสามารถแก้ไขได้ ถ้าตรวจได้ตั้งแต่เด็กๆ ถ้าอายุมากแล้วอาจรักษาได้ยากขึ้น
ปัญหาทางตาที่พ่อแม่ไม่ควรเพิกเฉย ควรพามาพบหมอตา
1. กะพริบตา ขยี้ตา แสดงถึงภาวะภูมิแพ้ขึ้นตา หรืออาจขยี้ตาจากสายตาสั้นได้
2. มีจุดสีที่ตาขาว เช่น สีแดงแสดงถึงภาวะเลือดออกมีเส้นเลือดเปราะบาง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นอันตรายต่อการมองเห็นของเด็ก จุดสีน้ำตาลที่ตาขาวซึ่งอาจเป็นปานหรือเม็ดสีที่ผิดปกติ
3. ม่านตาขยายใหญ่ อาจมีความผิดปกติของระบบประสาท
4. จุดดำลอยไปมา จากน้ำวุ้นลูกตาเสื่อม
5. ขัดตาไม่สบายตาช่วงเปลี่ยนฤดู อาจมีขี้ตา ตาแดงตามมาได้ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ
6. ตาปิดไม่สนิทตอนนอน อาจทำให้กระจกตามีลอยถลอก ต้องใช้น้ำตาเทียมช่วย
7. มีคราบขี้ตา เปลือกตาอักเสบ หรือน้ำตาไหลเอ่อจากท่อน้ำตาอุดตัน
8. ตาเหล่ ตาเข
9. เด็กเอียงคอ ปิดตาข้างเดียว
10. ตาไม่จ้องมองตามวัตถุ ตากระตุก กลอกไปมา นานเกินอายุ 4 เดือนควรไปตรวจ
11. หนังตาตกในเด็กต้องรีบพามา เพราะอาจทำให้เกิดภาวะตาขี้เกียจตามมา อาจต้องผ่าตัดเพื่อดึงหนังตาขึ้น
- ตาขี้เกียจ เกิดจากการพัฒนาการของการมองเห็นที่ผิดปกติไปในเด็ก ทำให้การมองเห็นไม่พัฒนาเท่าที่ควรเกิดจากได้หลายสาเหตุ เช่น ตาเหล่ ตาเข ต้อกระจกแต่กำเนิด กระจกตาหรือตาดำมีฝ้ารอยแผลเป็น หรือสายตาสั้นยาว เอียง ที่ต่างกัน 2 ข้างมากๆ เป็นต้น
- ต้อหินในเด็ก สังเกตได้ใน 3 เรื่องได้แก่ 1. น้ำตาไหล 2. แพ้แสง 3. ตากระตุกและกระจกตาใหญ่กว่าปกติ ต้องพามาพบหมอตา
- ต้อกระจกในเด็ก เกิดได้จากหลายปัจจัย
1. ตั้งแต่แรกคลอด จากติดเชื้อไวรัส หัด หรือพวกกลุ่มโรคซินโดรมต่างๆ ในเด็ก
2. เกิดขึ้นตามมาภายหลัง จากติดเชื้ออักเสบในม่านตาทานยาสเตียรอยด์เป็นประจำ หรืออุบัติเหตุทางตา
ตาเหล่เทียม เกิดจากเนื้อหัวตาเด็กกว้างไป หมอตรวจได้แสงตกกลางม่านตาปกติ ไม่ได้มีภาวะตาเขจริง สามารถตรวจติดตามและเฝ้าดูได้
สังเกตว่าลูกสายตาสั้นได้อย่างไร
1. ชอบทำกิจกรรมมองใกล้ เช่น จ้องเกมใกล้ๆ จอ และเด็กจะหมดความสนใจไปได้ง่าย 2. อ่านหนังสือข้ามบรรทัดไป หรือไม่ชอบอ่านหนังสือ 3. เวลาวาดรูป หรือเขียนหนังสือชอบหันหัวด้านข้าง
ป้องกันสายตาสั้น : มีกิจกรรมกลางแจ้ง วิ่งเล่น ลดเวลาหน้าจอ
ช่วง 1 ขวบ ไม่แนะนำใช้หน้าจอเลย ช่วง 2 ขวบ ให้ใช้แค่จำเป็น และในเด็กโต ถ้ามีภาวะสมาธิสั้น อาจจะต้องลดจำนวนชั่วโมงการใช้หน้าจอลง
ยาหยอดตาช่วยชะลอสายตาสั้นได้ไหม
- ช่วยได้ ปัจจุบันเป็นทางเลือกในการรักษา ขึ้นกับว่ามีการเปลี่ยนแปลงสายตาสั้นเร็วไหม ถ้าเปลี่ยนแปลงเร็ว จะช่วยชะลอสายตาสั้นได้ 50-60% แต่ข้อเสียคือ ต้องมารับยาทุกเดือน ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และต้องใช้ระยะยาวถึงอายุ 12-13 ปี
บรรยายโดย นพ.วรัศช์ภรณ์ พลอยประสิทธิ์
จัดทำโดย นศพ.ณิชารีย์ ศรีงาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี