จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2564 ของผู้สูงอายุ ผมขอสรุปประเด็นใหญ่ๆ ที่สำคัญให้พวกเรารับทราบ 3 ประเด็น คือ
1) การศึกษา ยังไม่ดีพอ กล่าวคือ จบปริญญาตรีมีเพียง 6.4% เท่านั้น (ดีขึ้นจากปี 2560 ที่มี 5.4%) และจบต่ำกว่าประถมศึกษาถึง 64.5% (เช่นกัน ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2560 ซึ่งมีถึง 68.7% ที่เรียนจบต่ำกว่าชั้นประถมศึกษา)
2) ผู้ที่เกษียณ มีเพียงประมาณ 5% ที่มีอิสรภาพทางการเงิน หมายความว่ามีรายได้จากทรัพย์สิน(หุ้น กองทุน บ้านเช่า รถเช่า ฯลฯ) เหนือรายจ่าย พูดง่ายๆ อยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน
3) ประชาชนสูงอายุขึ้น แต่เต็มไปด้วยโรค NCDs-non communication diseases หรือโรคไม่ติดต่อ ซึ่งก็คือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่ไม่เหมาะสมมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งเป็นโรคที่ป้องกันได้ ถ้ามีความรู้และมีวินัย
ผมอยากให้ประชาชนมีอายุยืนขึ้น แต่ต้องอย่างมีคุณภาพ จนช่วงสุดท้ายของชีวิต หรือพูดง่ายๆ เป็นภาษาอังกฤษว่า นอกจาก “add years to life” แล้วยังต้อง “add life to years”
ผมสอนลูกศิษย์ ประชาชนมาเสมอว่า อาวุธที่เราควรจะมีเพื่อที่จะมีชีวิตอย่างมีคุณภาพ ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านและมีความสุข แต่ละคนต้องมีคุณสมบัติ 4 ประการ คือ หนึ่ง เหนือสิ่งอื่นใด ต้องเป็นคนดี สอง ต้องเป็นคนที่เก่ง พื้นฐานของการที่จะเก่งได้ต้องมีโอกาสเรียน เรียนเป็น (เด็กไทยเป็นล้าน ไม่มีโอกาสเรียน หรือเข้าเรียนแต่คุณภาพของโรงเรียน ครู ยังไม่ได้มาตรฐาน) จับประเด็นเป็น มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต (เพราะความรู้ เทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงตลอด) และจะต้องเก่ง 7 อย่าง ซึ่ง 7 อย่างนี้มีความสำคัญมากๆ สำหรับทุกๆ คน โดยเฉพาะผู้บริหารประเทศ รัฐบาล ทุกหน่วยงาน คือ เก่งคิด เก่งคน เก่งงาน เก่งเงิน เก่งเวลา เก่ง “ขาย”-คือ พูด เขียน อธิบาย เสนอผลงาน เก่ง-แต่ต้องเป็นข้อมูลที่เป็นความจริง และของที่จะ “ขาย” ต้องดี และต้อง “ขาย” เก่ง และสุดท้ายคือ เก่งฟัง
นอกจากดี เก่ง แล้ว ซึ่งอาจพอแล้วสำหรับบางคน แต่สำหรับผมต้องมีความรอบรู้อีกด้วย รู้ไปทุกเรื่อง ในระดับหนึ่ง พูดเรื่องหมอก็ได้ การลงทุนก็ได้ การเมือง ต่างประเทศ ฯลฯ ได้หมดในระดับหนึ่ง ต้องรู้กว้างด้วย ไม่ใช่รู้แต่เรื่องหมอๆ (ถ้าเป็นหมอ)
และสุดท้ายคือ ถ้าดี เก่ง รอบรู้แล้ว ถือได้ว่าเป็นทรัพยากรบุคคลที่หายากในประเทศ จึงต้องมีชีวิตอยู่ยาวๆ อย่างมีคุณภาพ เพื่อรับใช้สังคม ประชาชน ประเทศต่อไปนานๆ
ผมเคยเขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง ประชาชนกับความมั่นคงแห่งชาติ ตอนเรียนหลักสูตร มศ.3 และได้รางวัลดีเด่น ผมเขียนและพูดมาตลอดเวลา ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพรสวรรค์จากเทวดา เป็น blessed country ที่มีทุกอย่าง ดิน ฟ้า อากาศที่เป็นมิตร ไม่มีไต้ฝุ่น สึนามิ แผ่นดินไหว ฯลฯ (มีแต่น้ำท่วม น้ำแล้ง เท่านั้น ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้!?) ป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ ชายหาดที่ยาวเป็นพันๆ กิโลเมตร อาหารการกิน มีทรัพยากรธรรมชาติ ที่เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฯลฯ ไม่มี แต่เราเจริญไม่ทันเขา ทั้งๆ ที่สมัยก่อนเขามาดูงานเรา เพราะเราขาดทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพเท่านั้น เรามีพ่อหลวง ร.9 ซึ่งทรงมีพระมหากรุณาธิคุณช่วยเราทุกอย่าง เรื่อง ดิน น้ำ ลม ป่า เกษตร อ่างเก็บน้ำ ฯลฯ แต่เราก็ยังมัวแต่ทะเลาะกันทุกๆ วัน ทุกๆ สมัย
ถ้าทุกๆ คนเป็นคนดี (หรือคนส่วนใหญ่) อะไรจะเกิดขึ้นประเทศไทยจะเจริญ พัฒนาไปได้ทันที อย่างก้าวกระโดด
วันนี้จึงอยากเรียนเชิญให้ทุกๆ คนเป็นคนดี ช่วยใครได้ ให้การศึกษาเด็กที่ยากจนได้ โดยที่เรา ครอบครัวเรา ไม่เดือดร้อน ช่วยไปเลย เห็นแก่ส่วนรวม มีเหตุผล แค่นี้ก็พอแล้ว
ผมมีความเห็นมานานแล้วว่า ถ้าทุกๆ คนคิดถึงส่วนรวมเป็นที่ตั้ง และมีฐานะที่สบายพอสมควรแล้ว ถ้าเพียงแต่ละท่านกรุณาพิจารณาบริจาคเงินเท่าที่ท่านสามารถนำไปคำนวณการลดหย่อนการเสียภาษีรายได้เท่านั้น ให้แก่โรงเรียนเดิมของท่าน คณะ มหาวิทยาลัย หน่วยงานของท่าน แค่นี้ท่านก็จะช่วยสังคมได้อย่างมาก สังคมก็จะอยู่ได้อย่างสบาย ผู้ที่ยากจนก็จะมีโอกาสดีขึ้น
ยกตัวอย่าง ศิษย์เก่าแพทย์จุฬาฯ ถ้าทุกคนที่สบายแล้ว พร้อมใจกันบริจาคให้มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ เท่าที่จะสามารถนำไปลดหย่อนการเสียภาษีได้ทุกปี และถ้ามีศิษย์เก่าเพียง 5,000 คน โดยคิดที่คนละ 10,000 บาทต่อปีมูลนิธิจะได้เงินทันที 50 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ไม่ต้องไปจัดงานให้เหนื่อย เสียค่าใช้จ่าย เสียเวลา เสียเวลาทำงาน (หารายได้อีก)ถ้าต้องมาพบกัน จะมีค่าอาหาร ค่าดนตรี ฯลฯ (ทางผู้จัด)จึงได้ไม่ถึงหมื่นบาท ผู้บริจาคก็ต้องลางาน (จากต่างจังหวัด)เสียเวลาหารายได้ เสียค่าที่พัก ค่าเดินทาง ฯลฯ ถ้าคิดเป็นเงินก็มหาศาล
แต่นานๆ ถ้าจัด On Site เพื่อพบปะกันสักครั้งระหว่างพี่ๆ น้องๆ ครูบาอาจารย์ก็ดีนะครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี